ตอนที่ 7 แสร้งสำนึก ผิด เพื่อมีชีวิตต่อ
สนมซูเม่ยปรายตามองลี่ฉุนด้วยสีหน้าดูถูก เย้ยหยัน นางสะใจที่เห็นเสี้ยนหนามหัวใจถูกกำจัดแล้ว
ตอนนี้ นางแค่รอท่านอ๋องแต่งตั้งนางขึ้นเป็นพระชายาแทนที่บุตรสาวตระกูลจ้าวแล้ว
หลังจากที่แผ่นหลังของอี้เฉินอ๋องตับตาไปแล้ว บรรดาบ่าวรับใช้ ก็แยกย้ายกันกลับไปทำงานในส่วนของตน
ทุกคนต่างทราบดี ว่าวาจาประกาศิตของท่านอ๋อง เมื่อลั่นออกมาแล้ว ล้วนไม่มีใครกล้าขัด
แม้หลายคนจะเห็นใจลี่ฉุนหรือสงสารพระชายาแค่ไหน ก็ไม่กล้าออกหน้าช่วยพูด ไม่กล้ายุ่งกับความเด็ดขาด เลือดเย็นของท่านอ๋อง ที่ไร้ซึ่งความเมตตาผู้นี้
หากฝ่าฝืนหรือปากมาก ชะตาไม่น่าจะต่างไปจากลี่ฉุน ที่เป็นถึงสาวใช้ข้างกายพระชายา ดังนั้น การเงียบแล้วถอยออกมาคือการเอาตัวรอดที่ดีที่สุดสำรับบ่าวรับใช้ในจวน
หลังจากที่อี้เฉินอ๋องกลับไป หลี่จิ้ง องค์ครักษ์ข้างกายรับบัญชา แล้วเข้าไปลากตัวลี่ฉุนออกไปขังยังคุกใต้ดิน
แล้วกลับมารายงานท่านอ๋องด้วยสีหน้านิ่งเฉย เย็นชา ราวกับเป็นท่อนไม้ ที่ไร้ซึ่งหัวใจและความรู้สึกใดๆ ไม่ต่างจากผู้เป็นเจ้านายเลย
ในคุกใต้ดิน ร่างขาวซีดไร้วิญญาณของจ้าวลู่ชิง ถูกโยนเข้าไปในคุกที่แสนเยือกเย็นและมืดสลัวจนน่าขนลุก
ส่วนลี่ฉุน นางถูกนำตัวไปมัดมือมัดเท้าติดกับเสา ถูกโบยด้วยแส้หวายเส้นใหญ่ จนเสื้อผ้าบนตัวขาดรุ่ย อาบไปด้วยเลือด แผลโบยเต็มตัว จนร่างกายทนความเจ็บปวดไม่ไหว ดวงตาเริ่มพร่ามัว
[ ไม่ได้ ข้ายังตายไม่ได้ ท่านแม่ทัพยังไม่รู้ข่าวคราวของคุณหนู ข้าจะตายตาหลับได้เช่นไร ]
นางพยายามกัดฟัน อดทนกับความเจ็บปวด แม้ลมหายใจจะโรยรินแต่ลี่ฉุนก็ไม่ถอดใจตายง่ายๆ
นางจึงรวบรวมแรงและลมหายใจเฮือกสุดท้ายก่อนจะสลบ เอ่ยขึ้นอย่างยากลำบากด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
" ขะ ข้า สะ สำนึก แล้ว "
ต่อให้ไม่อยากสำนึก ก็ต้องแสร้งสำนึก เพื่อร่างไร้ลมหายใจของผู้เป็นนายที่รออยู่ในคุกอันเยือกเย็นอย่างโดดเดี่ยว
พูดจบนางก็ไม่ได้สติอีกเลย คนที่โบยนางจึงนำตัวนางลงมาแล้วลากไปขังไว้ในคุกต่อ
ตันหยงที่เพิ่งทะลุมิติเข้ามาในร่างพระชายาอ๋อง เธอลืมตาขึ้นมาท่ามกลางความมืดสลัวด้วยความมึนงง
กวาดสายตามองไปรอบๆด้วยความไม่คุ้นเคย แล้วลุกมานั่งพึมพำ แต่สายตายังคงสำรวจบริเวณรอบตัว
" ที่นี่ มันที่ไหนกัน ไม่ใช่ว่าเราจมน้ำหรอกเหรอ ทำไมถึงมาโผล่ที่นี่ หรือว่าเราถูกช่วยเหลือแล้ว "
แล้วสายตาที่มองสำรวจรอบๆ ก็ไปสะดุดลงบนร่างที่อาบไปด้วยเลือด เธอจึงเพ่งมองอย่างไม่ละสายตาพร้อมกับค่อยๆขยับเข้าไปดูใกล้ๆด้วยความอยากรู้ แต่แล้ว เธอก็กรี๊ดออกมาด้วยความตกใจ
" ว้าย! ผะ ผะ ผี "
เธอกระเถิบถอยห่างออกมาตามสัญญาตญาณ เมื่อรู้สึกตกใจกลัวสุดขีด เมื่อมองเห็นร่างหญิงสาวตรงหน้าชัดเจนจนได้กลิ่นสาบคาวเลือดบนตัว
เธอจึงตั้งสติ รวบรวมความกล้าทั้งหมด เข้าไปใกล้สาวใช้อีกครั้งแล้วลองจับชีพจรดู
[ ยังไม่ตายนี่นา แล้วไปโดนใครทำร้ายมาละเนี่ย ถึงได้มีแผลเหวอะหวะเต็มตัวแบบนี้ ช่างน่าสงสารจริงๆ ]
เธอพึมพำในใจ สักพัก ก็กลับมาตั้งคำถามด้วยความสงสัยอีกครั้งในใจอีกครั้ง
เพราะในบริเวณที่เธออยู่ตอนนี้ ไม่มีใครสามารถตอบคำถามเธอให้กระจ่างได้เลย
[ ตอนนี้เราอยู่ที่ไหนนะ ทำไมที่นี่ถึงมีแค่แสงจากตะเกียงกับคบเพลิง แล้ว แล้วผู้หญิงที่นอนอาบเลือดคนนั้น เป็นใคร เกิดอะไรขึ้นกับเธอกัน ]
ในขณะที่เธอตั้งคำถามด้วยความงุนงงอยู่นั้น ก็มีทหารกลุ่มหนึ่งเดินตรวจตราไปมาผ่านหน้าคุกที่ขังเธออยู่ จึงตระหนักได้ว่า ที่ตัวเองอยู่มันไม่ใช่สถานที่ที่คนทั่วไปอยู่
" เอ๋ นี่เราถูกขังอยู่ในคุกเหรอ "
เธอพึมพำกับตัวเองอย่างไม่เข้าใจร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต เธอจึงตัดสินใจตะโกนถามคนที่เดินผ่านไปมา
" พี่ชายๆ ที่นี่ที่ไหนคะ "
ทหารเวรหันมาตามทิศทางของเสียงอย่างไม่คุ้นหูในภาษา แต่ก็ฟังเข้าใจอยู่บ้าง
พวกเขาจึงเดินถือคบไฟเข้าไปส่องดูใกล้ๆที่พระชายาอยู่และแล้วดวงตาพวกเขาก็เบิกกว้างขึ้นด้วยความกลัวสุดขีด เมื่อเห็นหน้าคนที่ยืนจับกรงเหล็กอยู่ตรงหน้า
" ผะ ผีพระชายา!!!! "
แล้วพวกเขาก็เผ่งหนีกลับไปอย่างล้มลุกคลุกคลานด้วยความตื่นกลัว ทำเอาตันหยงในร่างพระชายาถึงกับยืนทำหน้างง
" ทำไมเห็นหน้าเราแล้ว ถึงวิ่งหนีกระเจิงเหมือนเห็นผีแบบนั้นล่ะ ผีพระชายาอะไรกัน บ้าหรือเปล่า "
เธอยืนบ่นงึมงำด้วยสีหน้างุนงง ขณะนั้นเอง สาวใช้ก็รู้สึกตัวขึ้น นางค่อยๆลืมตาขึ้นด้วยความยากลำบาก แล้วกวาดตามองหาร่างคุณหนู
เมื่อนางเห็นคุณหนูยืนเท้าเอว ในท่ายืนหันหลังให้ นางถึงกับตกใจถามตัวเองในใจ
[ นี่เราตายแล้วหรือ ]
นางคิดว่าตัวเองตายแล้ว ถึงสามารถมองเห็นวิญญาณคุณหนูตัวเองได้ ครู่ต่อมานางเลยลองเรียกดู
" คุ คุณ...หนู "
เสียงอันแผ่วเบาที่เอ่ยขึ้นด้วยความยากลำบาก ดังเข้าหูตันหยง เธอจึงหันกลับมามองข้างหลัง แล้วเลิกคิ้วถามด้วยสีหน้าที่ดูห่วงใย
" ฟื้นแล้วเหรอ "
เมื่อเห็นว่า ร่างของหญิงสาวที่อาบไปด้วยเลือด รู้สึกตัวขึ้นแล้วพยายามจะขยับตัว เธอจึงรีบเข้าไปหยุดนางพร้อมกับเอ่ยด้วยความเป็นห่วงต่อว่า
" อย่าเพิ่งขยับร่างกายค่ะ นอนนิ่งๆก่อน เดี๋ยวกระดูกกระเดี้ยวก็เคลื่อนผิดรูปเอาหรอก "
ลี่ฉุนจ้องหน้าคุณหนูตัวเองด้วยความตื่นเต้นเจือประหลาดใจ ดีใจจนน้ำตาไหล อธิบายความรู้สึกไม่หมด
" คุ คุณ คุณหนู ท่านฟื้นแล้ว ถะ ท่านยังไม่ตาย "
นางยิ้มออกมาอย่างยากลำบากด้วยความดีใจทั้งน้ำตา
" ฉะ ช่าง ดีจริงๆ คุ้มแล้วที่ ข้า สะ แสร้งสำนึก ผิด เพื่อมีชีวิตต่อ "
นางเอ่ยออกมาติดๆขัดๆด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา อย่างเจ็บปวดทรมาน ทั้งภายนอก ภายในของนาง บอบช้ำ แสบร้าวระบมไปทั่วร่าง
แต่ความเจ็บปวดเหล่านั้น ไม่อาจทำให้ใจอันแข็งแกร่งของนาง อ่อนแอหรือท้อใจแม้แต่น้อย
นางรู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจถูกแล้ว ที่เลือกรักษาชีวิตน้อยๆตัวเองเอาไว้
แค่คุณหนูของนางยังมีชีวิตอยู่ นางก็พร้อมจะปกป้องคุณหนูให้ปลอดภัยด้วยชีวิต
จนกว่าจะสามารถหลุดพ้นจากจวนบุรุษเลือดเย็น ไร้หัวใจเช่นอี้เฉินอ๋อง