ตอนที่ 3 เธอเอาชนะความกลัวได้แล้ว
" ขอบคุณทุกคนที่อวยพรนะ ขอให้คำอวยพรดีๆจงย้อนกลับไปหาทุกคนให้มีความสุขเช่นกันจ้ะ
ส่วนคำอวยพรของหยก มันหมายความว่าไงอ่ะ ทำไมมันฟังดูแปลกๆทะแม่งๆยังไงไม่รู้
อะไรคือโผล่แห่งหนใดคะคุณเธอ แต่งนิยายเยอะเกินไปหรือเปล่า
เลยอวยพรเหมือนว่าฉันจะทุมิติไปโผล่ในที่ใดที่หนึ่งอย่างงั้นแหละ "
" นั่นสิ แล้วยังมีทุกภพทุกชาติอะไรนั่นอีก เธอเป็นเอามากนะหยก อวยพรอย่างกับตันหยงจะทะลุมิติเหมือนในซีรีส์งั้นแหละ "
พลอยเอ่ยเสริมขึ้นด้วยความรู้สึกตลกขบขัน ตันหยงจึงเสริมต่อว่า
" เออ จริง ตอนนี้ ฉันยังไม่อยากทะลุมิติหรอกนะ หยก ฉันยังมีความสุขในโลกของตัวเองอยู่ ฮ่าๆๆๆ "
ตันหยงเอ่ยอย่างไม่คิดอะไรแล้วหัวเราะออกมาดังลั่น กังวานไปทั่วท้องทะเล
เมื่อเพื่อนๆ เห็นตันหยงหัวเราะอย่างมีความสุขแบบนั้น จึงพากันหัวเราะตาม
ส่วนดีแลน ก็นั่งมองรอยยิ้มของตันหยงด้วยแววตาอบอุ่นอ่อนโยนแล้วยิ้มอ่อนออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็อวยพรในใจอย่างเงียบๆ โดยไม่รบกวนความสุขของสาวๆ
[ ช่างเป็นรอยยิ้มที่ดูสดใสจริงๆ ขอให้มีความสุขแบบนี้ตลอดไปนะ ตันหยง ]
หลังจากที่หัวเราะกันจนหนำใจแล้ว ตันหยงก็ตะโกนออกไปสุดเสียง
" ตันหยง เธอสุดยอดมาก เธอเอาชนะความกลัวได้แล้ว เธอเก่งที่สุดในโลกเลย "
ความสุขที่ทุกคนมอบให้ในวันนี้ ทำให้ความกลัวในใจตันหยงลดลงจนแทบไม่เหลือแล้ว เธอดีใจมาก พอตะโกนเสร็จ เธอก็ย้ายสายตากลับมามองหยกแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติ
" ไม่เป็นไรนะหยก ฉันไม่สนใจหรอก ว่าหลังจากนี้ฉันจะไปโผล่ที่ไหน
ฉันสนแค่ว่า ตอนนี้ฉันมีความสุขมาก รู้สึกยอดเยี่ยมสุดๆ ที่สามารถเอาชนะความกลัวได้แล้ว
ขอบคุณพวกเธอทุกคนมากๆนะ ฉันรักพวกเธอที่สุดเลย "
เมื่อหยก ขวัญ พลอยและฝนได้ยินดังนั้น ก็ตะโกนตอบตันหยงเสียงดังด้วยความครึกครื้นใจ
" พวกเราก็รักเธอที่สุดเหมือนกัน "
วันนี้เป็นวันเกิดของตันหยง เธออายุครบ 22 ปี บริบูรณ์
หลังจากที่ตะโกนออกไปแล้ว ทุกคนก็หันมายิ้มให้ตันหยงด้วยสีหน้าชื่นมื่น พวกเธอดีใจและยินดี ที่เห็นเพื่อนปลดล็อกความกลัวในใจได้สำเร็จ
หลังจากฉลองวันเกิดกันบนผิวน้ำอย่างมีความสุขแล้ว สาวๆก็กระโดดลงไปเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน
หนึ่งชั่วโมงต่อมา คนขับเจ็ตสกีก็ขับวนกลับมารับสาวๆ เพื่อพากลับเข้าฝั่ง
พอสาวๆเห็นคนขับเจ็ตสกีมาแล้วก็ว่ายกลับที่บานานาโบต ดีแลนดึงสาวๆขึ้นมาบนบานานาโบตเพื่อเตรียมตัวกลับเข้าฝั่ง
ส่วนเขาก็นั่งหลังตันหยงเหมือนเดิม ในขณะที่บานานาโบตถูกลากกลับ ตันหยงก็ไม่หลับตาอีกเลย
เธอเบิกตากว้าง ชื่นชมความงามของผืนทะเลด้วยความตื่นตาตื่นใจ วันนี้รู้สึกสนุกและมีความสุขกับการสัมผัสบนผิวน้ำอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้มาก
" วู้...มีความสุขจังเลย "
เธอส่งเสียงร้องออกมาอย่างมีความสุขอีกครั้งและอุ่นใจที่ข้างหลังมีดีแลนคอยระวังความปลอดภัยให้ตลอดเวลา
ในขณะที่ตันหยงตะโกนออกมาอย่างมีความสุขที่สุดในชีวิตนั้น กลับไม่รู้เลย
ว่า ชะตาใหม่ที่ถูกลิขิตไว้ตั้งแต่เกิด กำลังจะมาเยือนในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า
จะต้องพลัดพราก จากพ่อแม่ จากเพื่อนพ้องและห่างไกลจากชายในอุดมคติอย่างดีแลนตลอดกาล
ในขณะที่กำลังจะถึงฝั่ง คนขับเจ็ตสกีก็อยากใจดีขึ้นมา จึงหันมาบอกตันหยงก่อนจะขับออกไป
" สุขสันต์วันเกิดนะครับคุณลูกค้า วันนี้ผมจะให้รอบพิเศษเนื่องในวันเกิด ไม่คิดเงินเพิ่มครับผม "
" ว้าว ขอบคุณค่ะ พี่ชายใจดีที่สุดเลย "
ตันหยงเอ่ยขอบคุณอย่างซึ้งใจ
คนขับเจ็ตสดียิ้มรับคำขอบคุณ จากนั้นก็ลากบานานาโบตออกไปกลางทะเลอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ ฝนได้แจ้งกับคนขับเจ็ตสกี ว่าวันนี้เป็นวันเกิดเพื่อน อยากเซอร์ไพรส์เค้กกลางทะเลโดยขอให้คนขับเจ็ตสกีหาคนช่วยนำเค้กไปส่งให้เมื่อถึงจุดปล่อยกลางทะเล
พอคนขับเจ็ตสกีรู้ว่า วันนี้เป็นวันเกิดของลูกค้าที่ต้องการปลดล็อกความกลัวในใจ เลยจัดให้เล่นบานานาโบตกันจนหนำใจไปเลย
" รอบสุดท้ายแล้วนะครับ "
คนขับเจ็ตสกีหันมาบอกสาวๆก่อนจะขับวนกลางทะเลในรอบสุดท้าย สาวๆพยักหน้าให้ด้วยสีหน้าที่ดูสนุกสนาน
จากนั้นคนขับก็ลากบานานาโบตที่สาวๆนั่งออกไปสนุกกลางทะเลอีกครั้งจนหมดรอบชั่วโมง
ในขณะที่คนขับเจ็ตสกีกำลังเตรียมจะวนกลับเพื่อพาสาวๆกลับเข้าฝั่ง
อยู่ๆท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง ก็มืดมัวปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆ ที่ก่อตัวเป็นกลุ่มก้อนทั่วผืนฟ้า คล้ายเมฆฝน
แต่ให้ความรู้สึกน่ากลัวกว่า ตรงที่ไม่มีลมพายุใดๆเลย ท้องทะเลอันสงบนิ่ง ก็เริ่มปั่นป่วนมีคลื่นอย่างแปลกประหลาด
ตันหยงแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความรู้สึกหวั่นวิตกแล้วเอ่ยถามขึ้น
" นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆสภาพอากาศถึงได้แปรปรวนแบบนี้ล่ะคะ "
ไม่มีใครตอบคำถามเธอได้ เพราะตอนนี้ ทุกคนต่างก็ตกใจไม่แพ้เธอเลย
มีเพียงดีแลนที่ยังพอมีสติ ไม่หวาดกลัวจนเกินไป เขากวาดสายตามองรอบตัวเพื่อหาสิ่งผิดปกติ
[ ทำไมถึงมีคลื่นแค่จุดที่เราอยู่อยู่จุดเดียวนะ ลมฝนหรือพายุอะไรก็ไม่มี จะเกิดซึนามิก็ไม่น่าใช่ ]
อยู่ๆคลื่นก็หายไป ผิวน้ำนิ่งสงบผิดปกติ ทำให้ดีแลนรีบโอบกอดตันหยงจากทางด้านหลังตามสัญชาตญาณอย่างอธิบายความรู้สึกนึกคิดไม่ได้
รู้เพียงว่า เป็นห่วงตันหยง อยู่ๆก็กลัวจะสูญเสียเธอไปตลอดกาล
เมื่อคนขับเจ็ตสกีได้สติ เห็นว่าคลื่นสงบผิดปกติ จึงรีบขับเจ็ตสกีลากบานานาโบตกลับทันที
เขาขับออกไปได้ไม่ถึงนาที น้ำทะเลก็เริ่มปั่นป่วนอีกครั้งจนเกิดเป็นลูกคลื่นขนาดใหญ่ วนล้อมรอบบานานาโบตเขาเอาไว้
" นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะ "
คนขับเอ่ยออกมาด้วยความตกใจกลัวจนหน้าถอดสี เพราะตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยเห็นสภาพอาการแปรปรวนในลักษณะนี้มาก่อนและไม่เคยเห็นคลื่นลูกใหญ่ที่ดูราวกับมีชีวิตเช่นนี้เลย เลยทำให้เขารู้สึกกลัวมาก
แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพ จึงตั้งสติให้หนักแน่นตลอดเวลาเพื่อให้ลูกค้าสบายใจ
ดีแลนเห็นท่าไม่ดี จึงตะโกนบอกคนขับเจ็ตสกีเสียงดัง
" พี่ชาย ขับฝ่าคลื่นลูกนี้ไปได้มั้ย "
คนขับเจ็ตสกีที่แหงนหน้ามองท้องฟ้าแล้วกวาดสายตามองรอบๆด้วยความประหลาดใจ
พอได้ยินเสียงตะโกนของดีแลนจึงหันไปมองข้างหลังแล้วตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
" จะลองหาจังหวะดูครับ "