บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 14 ท่านอ๋องของเจ้า ไม่ได้อยู่ในสายตาข้าเลย

เมื่อถูกจี้ตรงจุด สีหน้าของซูเม่ยก็ยิ่งลนลานมากขึ้นกว่าเดิม จนเอ่ยออกมาเสียงแข็งอย่างตะกุกตะกัก

" เจ้า เจ้าอย่ามากล่าวหาข้านะ การตายของเจ้า ไม่ได้เกี่ยวอันใดกับข้า "

เดิมที นางแค่ตั้งใจจะมาดูให้แน่ใจ ว่าผีพระชายามีจริงตามที่ผู้คนในจวนเล่าลือกันหรือไม่

ไม่คิดว่า พอมาถึง นอกจากจะไม่มีผีพระชายาแล้ว พระชายายังมีชีวิตอยู่ ทั้งยังสงสัยในตัวนางอีกด้วย ตอนนี้นางเริ่มหวั่นกลัวขึ้นมาในใจ

[ เมื่อก่อนจ้าวลู่ชิงไม่กล้าแม้แต่จะอ้าปากต่อคำกับข้า วันนี้กลับไม่มีความเกรงกลัวข้าเลย ทั้งยังกล้าสงสัยข้าอีก เหตุใดนางถึงได้ฉลาดขึ้นเช่นนี้นะ ]

ในขณะที่ซูเม่ยกำลังลอบพึมพำในใจด้วยความสงสัยอยู่นั้น ลี่ฉุนที่นั่งฟังเจ้านางเอ่ยมาสักพัก ก็เริ่มคิดไคร่ครวญตาม

จากนั้น นางก็มองไปยังสาวใช้ข้างกายของซูเม่ย จ้องอย่างไม่กะพริบ จนสาวใช้ของซูเม่ยรู้สึกประหม่า เขยิบถอยออกไปหลบอยู่หลังเจ้านายเล็กน้อยและพยายามหลบสายตาลี่ฉุน

ส่วนมือที่ถือโคมไฟอยู่ ก็กำแน่นจนสั่นเล็กน้อย ทำให้ลี่ฉุนนึกถึงวันที่เกิดเหตุและเข้าใจเรื่องราวในทันที จึงเอ่ยขึ้น

" ข้าจำได้แล้วเจ้าค่ะ คืนที่คุณหนูจมน้ำ เป็นสาวใช้ของสนมซูเม่ย ที่เห็นเหตุการณ์แล้วตะโกนเรียกคนอื่นมาช่วย

คืนนั้น เป็นคืนที่ท่านอ๋องเข้าหอกับสนมซูเม่ย เมื่อมาลองคิดไคร่ครวญดูแล้ว ไม่น่าจะใช่นาง ที่ผลักท่านตกน้ำเจ้าค่ะ

ข้าคิดว่า นางน่าจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ส่วนคนที่ผลักท่านตกน้ำ น่าจะเป็นสาวใช้ของนางเจ้าค่ะ "

ฟังที่สาวใช้เอ่ยแล้ว จ้าวลู่ชิงจึงเลิกคิ้วขึ้น ปรายตาถามสาวใช้ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ด้วยสีหน้าที่ดูสบายๆ

" โอ้ เรื่องเป็นเช่นนั้นหรือ "

" เจ้าค่ะ "

สาวใช้ตอบรับคำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นอย่างมั่นใจ จ้าวลู่ชิงจึงย้ายสายตากลับมามองซูเม่ยที่อยู่นอกคุกแล้วถามขึ้น

" แม่นางซู ข้ามีพยานบุคคลชี้ตัวคนผิด ท่านยังจะต้องการหลักฐานใดอีกหรือไม่ "

เมื่อถูกต้อนจนจนมุม ซูเม่ยจึงยอมรับออกมาอย่างตรงไปตรงมาด้วยท่าทียโส

" เป็นข้าที่บงการ แล้วเจ้าจะทำอันใดข้าได้ เจ้ามีพยานบุคคลชี้ตัว แต่ไร้หลักฐานชี้ชัดมาถึงข้า เจ้าคิดว่า คำพูดพวกเจ้าจะมีน้ำหนักพอให้ท่านอ๋องเชื่องั้นหรือ "

เมื่อได้ยินซูเม่ยเอ่ยเช่นนั้น จ้าวลู่ชิงจึงลุกขึ้น เดินเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าซูเม่ยแล้วยิ้มเย็นออกมาก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยถ้อยคำหนักแน่อย่างสุขุม

" ไยข้าต้องให้ท่านอ๋องเชื่อด้วย ในเมื่อตอนนี้ ท่านอ๋องของเจ้า ไม่ได้อยู่ในสายตาข้าเลย

แล้วที่เจ้าบอกว่า ข้าไม่มีหลักฐานชี้ชัดไปถึงเจ้า เจ้าแน่ใจหรือ ว่าข้าไม่มีหลักฐานอื่นจริงๆ

ส่วนคำพูดของข้า จะมีน้ำหนักหรือไม่ เจ้าต้องไปถามท่านพ่อข้าแล้ว

ถึงตอนนั้น ข้าจะรอดู ว่าฮ่องเต้จะทรงเชื่อท่านพ่อข้าหรือทรงฟังพ่อเจ้า ที่เป็นเพียงขุนนางคนหนึ่งกันแน่ "

จริงๆแล้วนางไม่มีหลักฐานอื่นหรอก คำพูดของนางเป็นเพียงแค่การข่มขวัญ ทำให้ซูเม่ยกลัวเท่านั้น

ซูเม่ยมองท่าทีที่ดูมั่นใจกับถ้อยคำอันหนักแน่นของจ้าวลู่ชิงด้วยแววตาสั่นไหว ความหยิ่งยโสที่มีในก่อนหน้านั้น เหือดหายไปจนหมดสิ้น

เพราะนางรู้ดี ว่าบิดาของจ้าวลู่ชิง เป็นแม่ทัพคนเดียวที่ฮ่องเต้ให้ความยำเกรงและเป็นคนเดียวที่แม้แต่ท่านอ๋องก็ไม่กล้าประมาท

[ จ้าวลู่ชิงเปลี่ยนไปแล้ว นางไม่ใช่คนขี้ขลาดเช่นเมื่อก่อนแล้ว หากนางให้แม่ทัพจ้าวรายงานเรื่องนี้ต่อฮ่องเต้จริงๆ เกรงว่า ท่านพ่อก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย ไม่ได้ จะปล่อยให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้ ในเมื่อนางอยู่ในคุก และรู้มากเกินไป ก็ควรตายอยู่ในคุกถึงจะสมควร ]

เมื่อคิดได้เช่นนั้น แววตาหวั่นกลัวในก่อนหน้านี้ของนาง ก็เปลี่ยนเป็นดุร้าย อำมหิตขึ้นมาทันใด

นางหันไปสั่งสาวใช้ด้วยสีหน้าอำมหิต

" เจ้าไปเอากุญแจมาเปิดคุกที ข้าอยากจะเข้าไปพูดคุยสนทนากับพระชายาข้างในหน่อย "

ตอนนี้มีเพียงทำให้จ้าวลู่ชิงหายไปจากโลกนี้เท่านั้น ถึงจะทำให้นางและตระกูลของนางปลอดภัย

สาวใช้ผู้รู้ใจ เพียงแค่เห็นสีหน้า แววตาของผู้เป็นนาย นางก็เข้าใจทันที จึงรีบตอบรับแล้วหมุนตัวออกไปขอกุญแจจากทหาร

จ้าวลู่ชิงยืนประจานหน้ากับซูเม่ยด้วยสีหน้ายิ้มอ่อนอย่างเจ้าเล่ห์ด้วยความใจเย็น

แน่นอนว่านางต้องการให้เป็นแบบนี้ วิถีคนชั่ว เมื่อกลัวมากก็จะขาดสติ สังหารผู้อื่นได้อย่างเลือดเย็น

เพราะแบบนี้ ผู้คนมักจะกลัวคนชั่ว เพราะกลัวตาย แต่นางที่เหมือนตายแล้วครั้งหนึ่ง มีอะไรให้ต้องกลัวอีก ตอนนี้นางรอเพียงประตูคุกเปิดเท่านั้น

ลี่ฉุนนั่งมองคุณหนูของนางด้วยสีหน้าที่คาดเดาความคิดคุณหนูไม่ได้ แต่นางรู้จุดประสงค์ที่ซูเม่ยจะเข้ามาหาพวกนางข้างใน

นางรู้สึกเป็นห่วงคุณหนูขึ้นมาในใจ จึงลุกขึ้นก้าวเข้าไปยืนใกล้ๆ จับแขนคุณหนูของนางเบาๆแล้วเอ่ยด้วยความเป็นห่วง

" คุณหนู ระวังตัวด้วยนะเจ้าคะ "

จ้าวลู่ชิงหันมามองหน้าสาวใช้พร้อมกับพยักหน้าด้วยแววตาหนักแน่น แล้วจับมือสาวใช้เบาๆ

" เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าไม่เป็นไรหรอก "

เมื่อคุณหนูของนางเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น มั่นใจเช่นนั้น นางก็ได้แต่พยักหน้ายอมถอยกลับมานั่งที่เดิม

ในขณะนั้นเอง สาวใช้ของซูเม่ยก็วิ่งกลับมาพร้อมกับยื่นกุญแจให้เจ้านาย

" กุญแจเจ้าค่ะ "

ซูเม่ยมองตาขวางใส่บ่าวคนสนิทแล้วตวาดด้วยความไม่สบอารมณ์

" จะยื่นให้ข้าทำไม ก็ไปเปิดสิ "

สาวใช้ตกใจ รีบก้มหน้ารับคำด้วยท่าทีหวั่นกลัง

" เจ้าค่ะ "

แล้วนางก็เข้าไปไขกุญแจห้องขังอย่างไว เสร็จแล้วเปิดประตูให้ผู้เป็นนายเข้าไป

ส่วนจ้าวลู่ชิง นางยังคงยืนจ้องซูเม่ยด้วยสีหน้ายิ้มยั่วอย่างเจ้าเล่ห์เช่นเดิม โดยมีลี่ฉุน สาวใช้คนสนิทของนางนั่งรอที่เดิมเงียบๆ

ซูเม่ยก้าวเข้าใกล้จ้าวลู่ชิงด้วยท่วงท่าสง่าสมกับเป็นคุณหนูลูกขุนนาง แต่แววตาของนาง กลับแฝงไปด้วยความเหี้ยมโหด อำมหิต

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel