ตอนที่ 13 เป็นเจ้า ที่ผลักข้าตกน้ำ
เรือนฮุ่ยอัน
หลี่จิ้ง องครักษ์ข้างกายอ๋องอี้เฉิน เดินเข้ามาหยุดลงตรงหน้าเจ้านายแล้วรายงานขึ้นด้วยท่าทีนอบน้อม
" เรียนท่านอ๋อง สายของเรารายงานมาว่า เห็นทหารสอดแนม ที่ถูกปล่อยตัวไป กลับเข้ามาในเมืองหลวงอีกแล้วขอรับ "
น้ำเสียงฉะฉานแฝงไปด้วยความขึงขังขององครักษ์ ดังขึ้นด้านหลังของอี้เฉินอ๋องที่กำลังยืนอ่านหนังสือในมือ ด้วยท่าทีนิ่งสงบ
เขาละสายตาจากหนังสือในมือแล้วหันมามององครักษ์คนสนิทด้วยสีหน้านิ่งเฉยเย็นชา แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุขุมอย่างใจเย็น
" นับว่าเป็นข่าวดี ดูแล้วแม่ทัพจ้าวคงจะทนนิ่งเฉยต่อไม่ไหวแล้ว ที่รู้ว่าบุตรสาวถูกขังในคุก
อีกเดี๋ยว เจ้าก็ประกาศออกไป ว่าพรุ่งนี้ ข้าจะแต่งตั้งซูเม่ยขึ้นเป็นพระชายาแทนจ้าวลู่ชิง "
" ขอรับ "
หลี่จิ้งตอบรับคำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น จากนั้น อี้เฉินอ๋องจึงเอ่ยต่อ
" คนของแม่ทัพจ้าวจะต้องใช้โอกาสนี้ บุกมาช่วยจ้าวลู่ชิงแน่ เจ้าไปเตรียมคนของเราให้พร้อม อย่าได้ประมาทคนของแม่ทัพจ้าวเด็ดขาด โอกาสเช่นนี้หายาก อย่าให้มีอะไรผิดพลาดล่ะ "
อี้เฉินอ๋องกำชับด้วยน้ำเสียงสุขุมอย่างเคร่งขรึม
" รับทราบขอรับ "
ขณะที่อี้เฉินอ๋องวางแผนกับหลี่จิ้งอยู่นั้น ในคุกใต้ดินจ้าวลู่ชิงกับลี่ฉุนก็วางแผนหนีเช่นกัน
จ้าวลู่ชิงกำลังนั่งผิงไฟ ใช้สมองครุ่นคิดคนเดียวอย่างเงียบๆ สักพักจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น คล้ายตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว
" ลี่ฉุน ข้าคิดว่า ข้ามีวิธีที่จะแหกคุกได้แล้ว "
ใบหน้างามของนางดูจริงจังจนลี่ฉุนรู้สึกตื่นเต้นตามไปด้วย จึงถามขึ้นด้วยความอยากรู้
" วิธีอะไรเจ้าคะ "
" ขโมยกุญแจแล้วหนีออกไป "
ได้ยินเช่นนั้น สีหน้าลี่ฉุนก็แปรเปลี่ยนเป็นผิดหวังทันที นางนึกว่าคุณหนูของนางจะมีวิธีฉลาดกว่านี้ จึงเอ่ยขึ้นเสียงหงอย
" คุณหนูก็พูดเป็นเล่นไปได้ ข้างนอกมีทหารเฝ้ายาม แน่นหนาทั้งกลางวันกลางคืน แค่กุญแจดอกเดียว เราจะหนีได้ยังไง
อีกอย่าง แม้ว่าคุณหนูจะถูกขังคุก แต่คุณหนูยังถือเป็นชายาท่านอ๋องอยู่ การหนีไปเช่นนี้ เกรงจะส่งผลเสียต่อตระกูลเจ้าค่ะ "
จ้าวลู่ชิงมองบนด้วยความเบื่อหน่ายกับสตรีในยุคโบราณ ที่ต้องคิดหน้าคิดหลังตลอดเเวลา ทำอะไรก็ลำบากไปหมด
" นี่ผู้คนในจวนต่างคิดว่าข้าตายเป็นผีแล้วนั ข้า ข้ายังเป็นชายาอ๋องบ้าอำนาจผู้นั้นอยู่อีกเหรอ "
" เจ้าค่ะ ทางเดียวที่จะหลุดพ้นได้ คือทำหนังสือหย่าเจ้าค่ะ หากว่าฮ่องเต้ทรงอนุญาตก็หย่าได้ "
" นี่ชีวิตข้าถูกผู้อื่นบงการเหรอเนี่ย โอย ข้าจะบ้าตาย แล้วนอกจากขออนุญาตจากฮ่องเต้แล้ว ยังมีวิธีอื่นอีกมั้ย "
" มีเจ้าค่ะ "
" วิธีไร เจ้ารีบบอกข้าเร็ว ตอนนี้ข้าร้อนใจ ไม่อยากเป็นชายาอ๋องผู้นั้นแล้ว "
" ตายเจ้าค่ะ และอีกวิธีหนึ่งคือ รอให้ท่านอ๋องถอดถอนตำแหน่งแล้วแต่งตั้งชายาคนใหม่แทนคุณหนูก่อน
เพียงแต่ วิธีนี้อาจจะต้องรอนานหน่อย ข้าเกรงว่า ท่าแม่ทัพจะส่งคนบุกเข้ามาช่วยเราออกไปซะก่อน
ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็เข้าแผนการท่านอ๋องพอดี ท่านแม่ทัพมีแต่จะเสียเปรียบ อาจถูกกล่าวหาจนไม่อาจรักษาตระกูลจ้าวได้ "
จ้าวลู่ชิงคิดตามที่สาวใช้พูดด้วยสีหน้าจริงๆ ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์มาพูดเล่นไร้สาระเช่นก่อนหน้านี้แล้ว
" อืม...ถ้าเช่นนั้น เราก็แหกคุกออกไปหาท่านพ่อก่อน เจ้าจะไหวมั้ย "
" ไหวเจ้าค่ะ ขอแค่มีวิธีที่ดีกว่าการขโมยกุญแจแล้วแหกออกไปแบบนั้น "
เมื่อเห็นว่าสาวใช้ดูไม่มีความเชื่อมั่นในตัวนาง นางจึงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าจริงๆ
" มันต้องมีวิธีสิ เพียงแต่อาจจะต้องใช้เวลาหน่อย "
[ เท่าที่ฟังลี่ฉุนพูด ดูแล้ว ฐานะพระชายาก็ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง ]
ในใจ นางตั้งใจจะใช้ฐานะอันสูงส่ง ตีสนิทกับทหารแล้วสร้างมิตรภาพอันดีโดยไม่วางท่า ถือตนแต่อย่างใด จากนั้นค่อยหว่านล้อมให้เห็นใจ เธอเชื่อว่าวิธีนี้ได้ผล
ในระหว่างที่ทั้งสองนั่งพูดคุยกัน อยู่ๆก็ปรากฏเรือนร่างอรชรเดินเข้ามาหยุดลงหน้าคุกที่ขังทั้งสองพร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าตกตะลึงอย่างกับเห็นผี
" จ้าว จ้าวลู่ชิง เจ้า เจ้ายังไม่ตายหรือ "
จ้าวลู่ชิงกับลี่ฉุนหันขวับไปตามทิศทางของเสียง แล้วดวงตาของจ้าวลู่ชิงก็เปล่งประกายขึ้นด้วยสีหน้าอมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ราวกับเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมง
[ ดูจากสีหน้าตกใจของแม่นางผู้นี้แล้ว ไม่ใช่ตกใจเพราะคิดว่าข้าเป็นผี แต่ตกใจที่เห็นข้ายังมีชีวิตอยู่
นัยน์ตาสั่นไหวราวกับกลัวอะไร หรือว่า นางเป็น ผู้หญิงของอี้เฉินอ๋อง ดูจากเสื้อผ้าอาภรณ์ที่สวมใส่ ต้องใช่แน่ๆ ]
เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว จ้าวลู่ชิงจึงเอ่ยตอบหญิงสาวที่นางไม่รู้จักมักคุ้นด้วยน้ำเสียงยั่วยุเพื่อลองหยังเชิงดู
" ถ้าข้าตาย ข้าจะรู้ได้ยังไง ว่าใครผลักข้าตกน้ำ อีกอย่าง หากว่าข้าตายง่ายดายเช่นนั้น ก็ทำให้เจ้าสมหวังน่ะสิ "
ได้ยินดังนั้น แววตาซูเม่ยก็เลิ่กลั่กทันทีพร้อมกับเอ่ยออกมาอย่างลนลาน
" เจ้าเอ่ยวาจาเช่นนี้ หมาย หมายความเช่นไร "
เอ่ยจบซูเม่ยก็รู้สึกตัวว่ากำลังขาดสติ เผยพิรุธชวนสงสัย นางจึงตั้งสติใหม่แล้วเอ่ยด้วยสีหน้านิ่งๆ
" เจ้าจะตายหรือมีชีวิตอยู่ เกี่ยวอันใดกับข้า "
จ้าวลู่ชิงยิ้มเย็นออกมาแล้วเอ่ยขึ้นอย่างเนิบๆ
" ในเมื่อไม่เกี่ยวกับเจ้า ไยเจ้าต้องทำตัวเลิ่กลั่ก น่าสงสัยเช่นนั้นด้วย
เจ้าเก็บอาการไม่เก่งเช่นนี้ ที่จวนข้า เรียกร้อนตัวนะ อีกอย่าง คำว่าสมหวัง
ข้าก็ไม่ได้หมายความถึงเรื่องการตายของข้า ข้าหมายถึง เจ้าจะสมหวังกับท่านอ๋อง
แต่พอเจ้าเอ่ยออกมาเช่นนี้ ข้าเริ่มแน่ใจแล้ว ว่าข้า ไม่ได้ตกน้ำตายอย่างที่ผู้คนเข้าใจจริงๆ
หากข้าเดาไม่ผิด เป็นเจ้า ที่ผลักข้าตกน้ำ โชคดีที่ข้าดวงแข็ง จึงสิ้นใจเพียงชั่วขณะเดียว "
จริงๆแล้วจ้าวลู่ชิงไม่รู้อะไร แค่พูดขึ้นลอยๆ แต่ไม่นึกว่าฝ่ายตรงข้ามจะเผยพิรุธจนเธอสงสัย