บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 ไร่ปุยเมฆ

พิพรรธขับรถมาจอดติดริมรั้วเขตของไร่นับดาวกับไร่ปุยเมฆ เขามองเข้าไปในไร่ฝ่ายตรงข้าม ความเกลียดในตัวเจ้าของไร่ทั้งพี่และน้องคุกรุ่นอยู่ในหัวใจ ภาพหลานสาวเสียชีวิตอย่างน่าอนาถยังฝังแน่นอยู่ในความทรงจำ

เขาทุ่มเงินหลายสิบล้านบาทเพื่อเป็นเจ้าของไร่ติดกับไร่โมไนย เขาทิ้งความหรูหราในเมืองใหญ่เพื่อแก้แค้นให้หลานสาวคนเดียวของเขาแม้ว่าวรพรตจะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาทำแต่ก็ห้ามเขาไม่ได้ ส่วนพิมพ์สุภาสนับสนุนเต็มที่

“พี่จะให้เงินแกไปซื้อไร่ พี่อยากเห็นความหายนะของพวกมันแค่หน้าไอ้โมไนยเป็นปีศาจไม่สะใจพี่ ชีวิตของพวกมันต้องไม่มีความสุข มันต้องตกนรกทั้งเป็น”

“พี่ไม่ต้องห่วง ผมจะทำให้พวกมันตายทั้งเป็นครับ พี่ไม่ต้องทำอะไรนะเดี๋ยวจะยุ่งไปกันใหญ่ ผมจะจัดการเอง”

พิพรรธทำตามที่รับปากกับพี่สาวไว้ทุกอย่าง แต่ความพยายามของเขาไม่สำเร็จดังที่ต้องการ เขาเป็นฝ่ายเข้าไปหาโมไนยถึงประตูรั้วบ้านแต่ดวงดีไม่ยอมให้เขาผ่านเข้าไปโดยไม่มีคำอนุญาตจากเจ้านายใหญ่

สินธพออกมาต้อนรับเขาหน้าประตูรั้ว ดวงตาของเจ้าของบ้านผู้น้องไม่ยินดีต้อนรับเขาและครั้งนั้นทำให้เขาเจ็บแค้นเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณแต่เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากรอเวลา วันนี้เขามายืนอยู่ริมรั้วไร่นับดาว เวลาของเขากำลังจะมาถึง

“ในเมื่อคนของฉันมันห่วย ทำอะไรพวกแกไม่ได้ ฉันจะลงมือเอง”

เขาก้าวขึ้นรถขับออกมาจากที่ตรงนั้น รถแล่นห่างจากไร่นับดาวมาจนถึงถนนสายหลัก รถเคลื่อนตัวขึ้นสู่ถนนแล่นผ่านหน้าป้ายชื่อไร่ปุยเมฆเข้าเส้นทางสู่ตัวเมือง

ชายหนุ่มก้าวขึ้นบันไดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหรืออนามัย เขาไม่ได้มาหาหมอรักษาตัวแต่มาหาหมอเพื่องานสำคัญของเขา

“สวัสดีครับ ผมขอพบคุณหมอเอื้อมพรครับ”

“สวัสดีค่ะ ฉันนี่แหละค่ะเอื้อมพร ไม่ทราบคุณ..”

“ผมพิพรรธครับ เจ้าของไร่ปุยเมฆ”

“อ๋อ.คุณพิพรรธ ฉันเคยเข้าไปในไร่คุณครั้งหนึ่งแต่ไม่พบคุณ มีอะไรจะให้ฉันรับใช้คะ”

“อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ คุณเป็นหมอประจำที่นี่ใครจะกล้าใช้ละครับ ผมจะมาขอความร่วมมือนิดหน่อยเท่านั้นเอง”

“ค่ะ เชิญนั่งก่อนค่ะ”

หล่อนลุกจากเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานเดินไปเลื่อนเก้าอี้มาให้เขานั่ง วิภูเดินเข้ามามองหน้าพิพรรธเหมือนจะถามเอื้อมพร หล่อนยิ้ม

“คุณพิพรรธคะ นี่คุณวิภู แพทย์อาสาค่ะ มาช่วยงานสามเดือน คุณวิภูนี่คุณพิพรรธ เจ้าของไร่ปุยเมฆอยู่ติดกับไร่นับดาวที่เราไปมาค่ะ”

“อ๋อ.ครับ สวัสดีครับ”

วิภูยกมือไหว้พิพรรธก่อนเพราะดูจากใบหน้า พิพรรธอายุมากกว่าเขาแน่นอน เจ้าของไร่รับไหว้พร้อมรอยยิ้ม

“สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักคุณหมอครับ พอดีเลย ผมกำลังจะมาขอความช่วยเหลือจากหมอเอื้อมพร ผมรบกวนคุณหมอวิภูได้มั้ยครับ”

“เรื่องอะไรครับ”

วิภูเลื่อนเก้าอี้อีกตัวนั่งห่างจากพิพรรธเล็กน้อย หนุ่มรุ่นพี่ยิ้ม ดวงตาไหววับ แผนการที่เขาคิดไว้มีคนเข้ามาช่วยอีกคน คราวนี้งานคงสำเร็จง่ายขึ้น

“ผมจะมาขอความช่วยเหลือจากหมอน่ะครับ ช่วยไปตรวจคนงานในไร่ให้ผมหน่อย วันก่อนได้ข่าวว่าไปไร่นับดาว ผมไม่ว่างครับไม่อย่างนั้นไปหาคุณหมอที่นั่นแล้ว”

“อ๋อครับ”

วิภูมองหน้าพิพรรธ ฟังเขาพูดอย่างเดียวเพราะเขาเป็นคนใหม่ยังไม่รู้จักใคร เจ้าของไร่ชื่อดังมาพบและขอความช่วยเหลือถึงโรงพยาบาลเขาควรสนใจแต่รู้สึกแปลกๆ กับสายตาของพิพรรธเหมือนมีอะไรแอบแฝงอยู่ซึ่งเขาก็คาดเดาไม่ได้ว่าคืออะไร

เอื้อมพรเดินกลับมานั่งที่เดิม พิพรรธมองหน้าหล่อนอย่างพิจารณา ใบหน้ามน เกลี้ยงเกลา แม้จะไม่สวยสะดุดตาแต่ก็สวยสมวัย หากเขาเดาอายุของหล่อนไม่ผิดนัก หล่อนอ่อนกว่าเขาไม่กี่ปี

“คุณพิพรรธจะให้เราช่วยอะไรว่ามาเลยค่ะ”

“คุณพิพรรธมาขอให้เราไปตรวจสุขภาพคนงานครับพี่เอื้อม ผมว่าให้คุณใจดีไปกับทีมเราดีมั้ยครับ คุณใจดีจะได้ดูงานที่ไร่ปุยเมฆด้วย วันก่อนเธอบอกอยากดูงานในไร่ปุยเมฆ”

วิภูตอบแทนพิพรรธ เจ้าของไร่ปุยเมฆย่นหัวคิ้วเข้าหากันกับคำพูดของหมอหนุ่ม ครู่หนึ่งจึงยิ้มเป็นรอยยิ้มยินดี

“เหรอครับ ถ้าอย่างนั้นผมจะไปเชิญเกษตรอำเภอวันนี้ พรุ่งนี้เชิญที่ไร่นะครับหมอเอื้อมพร หมอวิภู ผมจะให้คนงานมารับนะครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ เราไปกับคุณใจดีก็ได้ค่ะ เวลากลับจะได้ไม่ต้องรบกวนคุณพิพรรธ”

“ไม่รบกวนหรอกครับ ผมต้องดูแลคุณหมอครับ พรุ่งนี้ผมจะมารับคุณเอง ขอบคุณนะครับ ไม่รบกวนคุณแล้วละ”

“ไม่ได้รบกวนอะไรเลยค่ะ เรายินดีช่วยเหลือชาวบ้านอยู่แล้วล่ะค่ะ”

หมอสาวเดินมาส่งเจ้าของไร่ปุยเมฆที่บันได รอยยิ้มยังไม่จางไปจากใบหน้าเนียน หล่อนชอบผู้ชายร่างสูง ผิวขาว ตาคมซึ่งพิพรรธมีครบตามที่หมอสาวตั้งสเป็คไว้พอดี

“พี่เอื้อม คุณพิพรรธหล่อมั้ยครับ” วิภูถามยิ้มๆ

“ก็หล่อดีนะ”

“ชอบละสิครับเห็นมองตามตาหวานเชียวนี่”

“บ้า.พี่ก็แค่ชื่นชอบเขาธรรมดา เขาเป็นเจ้าของไร่ ทำงานเก่ง ใครๆ ก็ชอบเขา”

เอื้อมพรเดินไปนั่งที่โต๊ะของหล่อน วิภูนิ่งไปครู่หนึ่งอย่างใช้ความคิด เจ้าของไร่ปุยเมฆยิ้มแย้ม พูดจาน่าฟังตรงข้ามกับเจ้าของไร่นับดาว นอกจากจะไม่พูดยังปิดหน้าจนแทบมองไม่เห็นยกเว้นลูกตาเท่านั้น ส่วนน้องชายดูเหมือนเป็นกังวลอะไรสักอย่าง

“พี่เอื้อม ไม่ชอบเจ้าของไร่นับดาวหรือครับ”

“ก็..ไม่รู้สิ พี่ไม่เห็นหน้าเขาแต่ถ้าเป็นเจ้าของคนรอง เขาก็น่ารักดี ต้อนรับเราดี”

“พี่ว่าแปลกมั้ยสำหรับพี่น้องคู่นี้” วิภูถามอย่างอยากรู้ความคิดเห็นของเอื้อมพร หญิงสาวมองหน้าเขา คำถามนั้นตอบยาก

“ก็แปลก แต่เราไม่รู้สาเหตุที่คุณโมไนยปิดหน้า รู้แค่เป็นภูมิแพ้อย่างหนักแต่ทำไมไม่ยอมให้เราดูอาการให้ล่ะ”

“นั่นสิครับ ดูเหมือนกลัวอะไรสักอย่างนะครับ ตอนที่คนงานจะเปิดดูหน้าเขา คุณสินธพโกรธมาก โกรธทำไมครับ”

“นั่นสิ โกรธทำไม ภูอยากรู้มั้ย ถ้าอยากรู้ไปถามคุณจันท์ ถามเผื่อพี่ด้วยนะ”

“เป็นคำแนะนำที่ดีครับ งั้นผมไปหาคุณจันท์ก่อนนะครับ”

วิภูลุกจากเก้าอี้ ท่าทางจริงจังกับคำแนะนำของเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ หล่อนหัวเราะยกมือขึ้นห้าม

“พี่ล้อเล่น ทำงาน คนไข้มาโน่นแล้ว”

หมออาสาหัวเราะออกมา เขาแกล้งพยาบาลสาวเช่นกันถึงแม้จะอยากรู้เหตุผลของสินธพแต่ก็ไม่มากถึงกับรีบวิ่งไปถามจันทนาเดี๋ยวนี้ ยังมีเวลาอีกหลายวันสำหรับการค้นหาความจริงของคนในไร่นับดาว

จันทนาเงยหน้าจากแฟ้มเอกสารมองผู้ที่กำลังเดินมาหาหล่อนที่โต๊ะ รอยยิ้มของชายหนุ่มไม่ได้ทำให้หล่อนหัวใจเต้นแรงแต่เป็นความสงสัยกับการปรากฏตัวของเขา หล่อนลุกยืนตามมารยาท

“สวัสดีค่ะคุณพิพรรธ วันนี้สงสัยฝนจะตกหนักนะคะ เจ้าของไร่ปุยเมฆมาถึงสำนักงานของเรา เชิญนั่งก่อนค่ะ”

“สวัสดีครับ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับคุณจันทนา คุณพูดเหมือนกับผมไม่เคยมาที่นี่”

เขาเดินไปนั่งตามคำเชิญของเกษตรอำเภอสาว เขารู้จักหล่อนเมื่อสองเดือนที่ผ่านมา เขาเข้ามาขอเอกสารจากสำนักงานเกษตรอำเภอแต่เป้าหมายของเขาไม่ใช่จันทนาแต่เป็นเกษตรอำเภอคนใหม่ซึ่งเขายังไม่รู้จักหล่อน

“คุณพิพรรธมีธุระอะไรรึเปล่าคะ” จันทนาถือแก้วน้ำเปล่าวางบนโต๊ะรับแขกตัวเล็กก่อนจะถามชายหนุ่มอย่างเป็นทางการ

“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ผมจะมาเชิญคุณจันทนากับเจ้าหน้าที่ที่นี่ไปเยี่ยมชมไร่ปุยเมฆ จะขอคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ปุ๋ยด้วยครับ ผลผลิตในไร่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่”

“อ๋อค่ะ คุณพิพรรธจะให้เราไปวันไหนคะ”

“พรุ่งนี้ครับ ขอเจ้าหน้าที่สักสองคน พอแบ่งไปได้มั้ยครับ”

“ได้ค่ะ แต่หัวหน้าไม่อยู่นะคะ ไปประชุมที่จังหวัด กลับพรุ่งนี้ตอนเย็น คุณจะรอหัวหน้ามั้ยคะ”

“ไม่เป็นไรครับ ขอเจ้าหน้าที่ธรรมดาก็ได้ คุณจันทนากับเจ้าหน้าที่คนใหม่ก็ได้ ผมอยากรู้จักด้วย”

“ค่ะ..ใจดีมาพอดี ใจดี ทางนี้”

เกษตรอำเภอคนใหม่เปิดประตูเข้ามา จันทนายกมือขยับนิดหนึ่ง หญิงสาวผู้มาใหม่มองแขกที่นั่งอยู่กับจันทนาขณะเท้าก้าวเข้าไปยืนห่างโต๊ะพอประมาณ

“มีอะไรเหรอจันท์”

“คุณพิพรรธเจ้าของไร่ปุยเมฆจ้ะ คุณพิพรรธคะ นี่ใจดีค่ะเกษตรอำเภอคนใหม่เพิ่งมารับตำแหน่งต้นเดือนค่ะ”

จันทนาแนะนำเพื่อนร่วมงานกับพิพรรธ สายตาของเขาที่มองใจดีมีนัยบางอย่างซึ่งจันทนาแอบเห็นแต่เพียงแวบเดียวเท่านั้น เขาลุกยืนยื่นมือมาตรงหน้า

“สวัสดีครับคุณใจดี ยินดีที่ได้จักครับ”

“ค่ะ สวัสดีค่ะ”

หญิงสาวยกมือไหว้ผู้สูงวัยกว่าแทนการยื่นมือสัมผัสแบบชาวตะวันตก กริยาตอบกลับของหล่อนทำให้พิพรรธยิ้มเก้อรีบยกมือรับไหว้ รู้สึกเสียหน้าแต่ไม่โกรธผู้หญิงที่เขาบอกตัวเองว่าสวยถูกใจมากๆ ถึงชื่อจะเชยไปนิดแต่ก็แปลกดี

“คุณพิพรรธมาเชิญเราไปชมไร่พรุ่งนี้”

จันทนารีบพูดเพื่อให้ใจดีสนใจการมาของพิพรรธและเพื่อให้พิพรรธลืมสิ่งที่ใจดีทำเมื่อครู่ ใจดียิ้มน้อยๆ มองหน้าชายหนุ่มแล้วพูดขึ้น

“พรุ่งนี้กี่โมงคะ พวกเราจะได้เตรียมตัวแต่เช้า”

“ไปตอนเช้าได้เลยครับ ผมเชิญคุณหมอเอื้อมพรกับหมอวิภูไว้แล้ว ผมจะให้คนในไร่มารับ”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ เราไปกันเองได้ วันก่อนเราไปไร่นับดาวมาแล้วค่ะตั้งใจจะขอไปดูไร่ปุยเมฆเหมือนกันแต่ยังไม่ทันไปค่ะ ขอบคุณคุณพิพรรธมากนะคะที่ให้เกียรติมาเชิญพวกเรา”

“ไม่เป็นไรครับ ผมตั้งใจนานแล้วแต่ไม่มีเวลาสักที วันก่อนเห็นคนงานคุยกันก็เลยรีบมานี่แหละครับ พรุ่งนี้ผมจะเตรียมต้อนรับคุณใจดีกับเพื่อนๆ นะครับ”

เขาสบตาหญิงสาว ดวงตาเป็นประกายวับส่งแววชื่นชอบเด่นชัด จันทนาลอบมองแล้วอมยิ้ม พิพรรธสนใจเพื่อนร่วมงานของหล่อนแต่จะมากน้อยแค่ไหนนั้นหล่อนไม่รู้

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

“ถ้างั้นผมขอตัวก่อน พรุ่งนี้เจอกันครับ”

เขายิ้มกับใจดีนานกว่าปกติจึงหันมายิ้มให้จันทนาแล้วหมุนตัวก้าวออกจากสำนักงาน สองสาวยืนส่งเขาหน้าประตูรอจนรถของเขาแล่นออกไป ใจดีจึงเดินไปนั่งโต๊ะทำงานของหล่อน

“ใจดี ท่าทางคุณพิพรรธชอบเธอนะ”

จันทนาเดินไปที่โต๊ะตัวเอง มองไปทางเพื่อนพร้อมกับพูดในสิ่งที่เห็นด้วยตา ท่าทางพิพรรธแสดงออกชัดเจนว่าชอบใจดี

“ไม่หรอก แกอย่าคิดไปเรื่อยสิ ฉันไม่ได้ชอบเขา เขาก็ไม่ได้ชอบฉัน อีกอย่างเพิ่งเจอหน้ากันจะชอบได้ยังไง”

“แกไม่เคยได้ยินรึไง คนเราแค่เห็นหน้ายังไม่รู้จักชื่อก็ปิ๊งแล้ว เราเรียกถูกชะตาไง แกไม่ถูกชะตาคุณพิพรรธบ้างเหรอ”

“ไม่รู้สิ ฉันว่าเขาดูแปลกๆ นะ ทำไมอยู่ๆ มาเชิญเราไปชมไร่ชมสวนแล้วก็พูดเหมือนคนงานของเขารู้ความเคลื่อนไหวของเราในไร่นับดาว เขาถึงรู้ว่าเราไปที่นั่นทำไม”

“ก็เลยมาเชิญเราบ้าง”

จันทนาต่อประโยคให้เพื่อนและคิดตามคำของใจดี แวบหนึ่งหล่อนคิดถึงคนที่ถลาเข้าไปเปิดหมวกผ้าปิดหน้าโมไนย สินธพโกรธมาก หัวหน้าคนงานก็เช่นกันแทบจะฆ่าคนๆ นั้นทีเดียว

“ใช่ ฉันว่าสองไร่นี้ต้องมีปัญหากันแน่ๆ”

“แกว่าปัญหาอะไร แข่งกันผลิตรึเปล่า ใครงามกว่า ใส่ปุ๋ยอะไร ทำไมได้เยอะยังงี้รึเปล่า”

จันทนาถามอย่างอยากรู้แต่ใจดีให้คำตอบไม่ได้เพราะหล่อนก็เดาไม่ออกว่าปัญหาของสองไร่มีจริงหรือไม่และถ้าจริงอย่างที่หล่อนคิดมันคืออะไร

“ฉันก็ไม่รู้ มีทางเดียวต้องถามคนงานหรือไม่ก็คนในพื้นที่ใกล้ๆ”

ใจดียกนิ้วชี้ขึ้นเมื่อคิดถึงคนงานของไร่ทั้งสอง วันก่อนไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้จึงไม่มีอะไรจะถามคนงานไร่นับดาวแต่พรุ่งนี้หล่อนจะถามคนงานไร่ปุยเมฆ

การเตรียมตัวต้อนรับหมอกับเกษตรอำเภอเป็นไปอย่างรวดเร็วและเรียบร้อย ทุกอย่างที่ไร่นับดาวเตรียม ไร่ปุยเมฆเตรียมให้เหนือกว่า มีทั้งอาหาร ของหวานและมีรถนำชมไร่ตามที่แขกต้องการ

ใจดีขับรถของสำนักงานเข้ามาจอดหน้าที่ทำการไร่ปุยเมฆ หล่อนกวาดสายตาสำรวจบริเวณรอบๆ อย่างสนใจ ที่ไร่ปุยเมฆต้อนรับพวกหล่อนที่สำนักงานซึ่งเป็นห้องโถงรับแขก จัดแต่งสวยหรูไม่เหมือนเป็นไร่แต่เหมือนกับเป็นห้องในโรงแรม

ส่วนห้องทานอาหารเป็นห้องของเจ้าของไร่กับคนสนิทหรือญาติพี่น้องเท่านั้นไม่จัดรวมให้ทานกับคนงานต่างจากไร่นับดาวโดยสิ้นเชิง

“เชิญครับ เชิญข้างในก่อนครับ”

พิพรรธเดินยิ้มมารับสามสาวกับหนึ่งหนุ่มที่ก้าวลงมาจากรถกระบะสี่ประตู โบ๊ทเดินตามมายืนรอรับกระเป๋าเครื่องมือแพทย์จากวิภู หยกยืนยิ้มรับอยู่ตรงบันไดทางขึ้นที่ทำการของไร่

“หยก ไปบอกคนงานเตรียมตัวนะ เดี๋ยวคุณหมอจะไปตรวจทุกคน เตรียมรถพาคุณใจดีกับคุณจันทนาดูไร่ด้วย”

พิพรรธหันมาสั่งหยกก่อนจะเดินเข้าด้านในห้องโถง หยกทำตามคำสั่งนายใหญ่ โบ๊ทวางกระเป๋าเครื่องมือแพทย์แล้วเดินเลยเข้าไปทางด้านหลังห้องครู่เดียวถือถาดใส่แก้วน้ำสามแก้วออกมา ใจดีมองชายหนุ่มร่างกำยำทำหน้าที่เสิร์ฟน้ำอย่างขัดลูกตา แม่บ้านหายไปไหนทำไมไม่ให้มาทำหน้าที่นี้หรือพิพรรธไม่อนุญาตให้ใครเข้ามายุ่งในสำนักงานของเขา

เจ้าของไร่มองตามสายตาของเกษตรอำเภอสาว เขายิ้มอย่างเข้าใจ หล่อนสังเกตคนสนิทของเขา สายตาสงสัยเขาจึงเอ่ยขึ้น

“วันนี้ให้แม่บ้านคอยดูแลเรื่องอาหารก็เลยไม่มีใครเสิร์ฟน้ำ ให้ผู้ช่วยผมเสิร์ฟแทน คงไม่เป็นไรนะครับคุณใจดี”

“ไม่เป็นไรค่ะ ดูดีนะคะที่ผู้ชายตัวใหญ่ถือถาดเสิร์ฟ ดีเชียวค่ะ รู้สึกคนงานของคุณพิพรรธมีแต่ผู้ชายนะคะที่ออฟฟิศก็ผู้ชายทั้งหมดหรือคะ”

เมื่อพิพรรธจ้องหล่อนและจับผิดสายตาของหล่อนได้ หล่อนก็เล่นงานเขาด้วยวิธีของหล่อนที่ทำให้เขาหุบยิ้มเกือบจะทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel