บทที่ 4 ตาม
ประตูบ้านเปิดกว้าง แสงไฟสว่างพรึบขึ้น เจ้าของบ้านก้าวเข้าด้านในประตูปิดตามมา เขาล็อคประตูแล้วเดินไปทิ้งตัวอย่างอ่อนแรงบนเก้าอี้โซฟาตัวยาว สายตาจับนิ่งที่แจกันดอกไม้บนโต๊ะกระจกตรงหน้า ภาพหญิงสาวผมยาว หน้าซีดไร้เลือดหล่อเลี้ยง ดวงตาช้ำคล้ำเลือดจ้องเขม็งมายังเขาอย่างโกรธแค้น เขาสะบัดศีรษะไล่ภาพเหล่านั้นออกจากความคิด
“เฮ้ย บ้าเอ๊ย ตาฝาดชัดๆ ยัยนั่นสวยอึ๋มจะตาย ป่านนี้เสร็จไอ้ชิตไปแล้ว”
เขาจิ๊ปากอย่างหงุดหงิด ครู่หนึ่งก็ลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ก้าวยาวๆ ไปที่บันไดวิ่งขึ้นชั้นบน มือข้างหนึ่งล้วงลงในกระเป๋ากางเกงดึงกุญแจห้องนอนออกมา เขาไขกุญแจรวดเร็ว ประตูห้องเปิดออกในวินาทีต่อมา มือเอื้อมไปที่ปลั๊กไฟข้างประตู ไฟดวงกลมกลางห้องสว่างพรึบขึ้น สายตาของเขาพุ่งไปที่ตู้กระจกสี่เหลี่ยมข้างเตียง รอยยิ้มพอใจกระจายเต็มใบหน้า
“แกยังสวยเหมือนเดิม ฉันไม่อยากให้แกตกไปเป็นสมบัติของใครซะแล้วสิ”
เขาผลักประตูปิดแล้วก้าวยาวๆ เข้าไปหาตู้กระจกเปิดฝาออกหย่อนมือลงไปในน้ำใสที่เขาลงทุนหาแกลอนใบใหญ่ไปขนน้ำทะเลจากบางแสนมาใส่ตู้เพื่อให้ปะการังสีชมพูอยู่อย่างสบาย
“ฉันไม่อยากเชื่อว่าแกจะเป็นหินปะการัง แกสวยมากรู้มั้ย”
มือขยายใหญ่ภายใต้น้ำค่อยๆ แตะที่กลีบบางของดอกชมพูสด เขาก้มลงมองผ่านผืนน้ำไหวกระเพื่อม รอยยิ้มชื่นชมยินดีไม่จางหายไปจากดวงหน้าเข้ม
ปลายนิ้วชี้และนิ้วกลางไต่ไปตามกลีบดอกอย่างทะนุถนอมและขณะที่เขากำลังไล้ปลายนิ้วไปที่กลีบกลางดอกกุหลาบนั้นสิ่งหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในฉับพลันทันใด…
ใบหน้าหญิงสาวผุดขึ้นในดอกกุหลาบปะการัง ธีรเมธชักมือออกจากตู้น้ำด้วยความตกใจ เขาผงะถอยห่างตู้รวดเร็ว ดวงตายาวรีจ้องไปที่ดอกสีชมพูสด หัวใจเต้นรัว เขารวบรวมสติให้สงบเมื่อดอกกุหลาบในตู้ปลายังคงเป็นดอกไม้แสนสวยเช่นเดิม
ชายหนุ่มกลืนก้อนแข็งๆ ลงลำคอ มือชุ่มน้ำเย็นเฉียบอีกข้างที่ไม่ถูกน้ำเยียบเย็น เท้าที่ก้าวถอยห่างจากตู้ปลาหยุดนิ่ง เกิดอะไรขึ้นกับดอกไม้แสนงาม เกิดอะไรขึ้นกับระบบประสาทตาของเขา ธีรเมธจ้องปะการังประหลาดไม่วางตา หัวใจที่เต้นแรงเริ่มเป็นปกติเมื่อนาทีระทึกขวัญผ่านไป ไม่มีอะไรผิดปกติ ทุกอย่างเหมือนเดิม น้ำใสในตู้ปลายังใสกระจ่างเช่นเดิม ดอกกุหลาบสีชมพูเข้มยังตั้งเด่นบนกระถางทรายใบเล็กกลางตู้เช่นเดิม
“บ้าอะไรวะ ไม่มีอะไรสักหน่อย” ชายหนุ่มกำมือแน่นและสะบัดอย่างขัดใจในตนเอง
เขาก้าวยาวๆ ไปที่ห้องน้ำผลักประตูแล้วก้าวหายเข้าไปด้านใน เสียงน้ำจากฝักบัวดังรอดประตูออกมาด้านนอก น้ำในตู้ปลากระเพื่อมราวกับคลื่นในทะเล ดอกกุหลาบปะการังกลางตู้หมุนช้าๆ สีชมพูเปล่งแสงชมพูใสและค่อยๆ เข้มขึ้น เข้มขึ้น
ประตูห้องน้ำเปิดออกพร้อมๆ กับแสงวาบจากตู้ปลาหายวับไป ธีรเมธชะงักเท้าที่กำลังก้าวพ้นประตู แสงวูบวับสะท้อนเข้าตา เขาหันไปจ้องตู้กระจก ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เขาเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าซึ่งตั้งชิดผนังมุมห้องด้านปลายเตียง เขาเหลียวมองตู้ปลาแล้วหันกลับมาสนใจเสื้อและกางเกงที่ดึงออกจากไม้แขวน
ไม่กี่นาทีธีรเมธก็เดินลงมาจากชั้นบน เขาเดินไปที่ตู้เย็นเปิดมันออกหยิบกระป๋องเบียร์ออกมาแล้วเดินมาที่เก้าอี้โซฟาตัวยาว เขาใช้ชีวิตในบ้านเพียงลำพังมานาน ความเหงาคืบคลานเข้ามารุมเร้าได้เพียงไม่กี่วันเขาก็พาหญิงสาวมาปลดปล่อยความเหงาจนไม่หลงเหลืออยู่ในหัวใจอีก
เมื่อเขารู้จักไอริณที่ผับดังแห่งหนึ่งย่านรัชดา ไอริณเป็นหญิงสาวที่เขาถูกใจ หล่อนน่ารักอ่อนหวานจิตใจดีมองโลกในแง่ดีเสมอ เขาตัดสินใจคบกับหล่อนเปิดตัวหล่อนเป็นคนรู้ใจให้เพื่อนๆ รู้จัก ความรักของเขากับหล่อนราบรื่นทุกอย่างจนกระทั่งเขาชวนหล่อนไปพักร้อนที่ทะเล
“เมธจะพาริณไปทะเลจริงเหรอคะ” หล่อนกอดเอวเขาเอาใจ
“จริงสิครับ คุณพร้อมมั้ยล่ะ”
“พร้อมเสมอค่ะ ริณอยากไปดำน้ำดูปะการัง เพื่อนริณเขาไปมา เขาบอกที่หมู่เกาะตะรุเตาสวยมากค่ะ เราไปที่นั่นกันนะคะ”
“ครับ ผมตั้งใจไปที่นั่นอยู่แล้วล่ะ เราจะเดินทางคืนนี้ พรุ่งนี้ถึงสตูล”
“ขับรถไปเองเหรอคะ” หล่อนเอียงคอมองเขา
“ครับ ขากลับเราจะได้แวะเที่ยวกันไง ริณอยากแวะหลายที่ไม่ใช่เหรอ” เขายิ้ม ยื่นหน้าไปที่แก้มอิ่มจูบหนักๆ ที่พวงแก้มอุ่น
“ค่ะ เมธน่ารักยังงี้จะไม่ให้ริณเทใจให้ได้ไงคะ ริณรักเมธมากที่สุดในโลกเลยค่ะ”
“คำนี้เขาใช้กับเด็กๆ ไม่ใช่เหรอครับ” เขาหัวเราะแล้วดึงหล่อนลุกจากเก้าอี้พาขึ้นชั้นบน
“เก็บเสื้อผ้าได้แล้วที่รัก” เขาโอบเอวหล่อนเข้ามาในห้องนอน
ไอริณไม่ปฏิเสธความรักที่ชายหนุ่มหยิบยื่นให้ ชีวิตของหล่อนผิดหวังกับเรื่องนี้มามากจนไม่อยากคิดถึงมันอีก ผู้ชายคนแรกที่หล่อนรักทำร้ายหล่อนทั้งทางร่างกายและจิตใจ เขาหวังเพียงให้หล่อนหาเงินให้เขาเที่ยวเตร่ดื่มเหล้าและพาผู้หญิงมานอนค้างที่บ้านเช่าซึ่งมีหล่อนอยู่ด้วย ความโหดร้ายของเขาทำให้หล่อนตัดใจได้อย่างง่ายดาย