บทที่ 3 กุหลาบสีชมพู
รถแล่นเข้ามาจอดหน้าคอนโดมิเนียมย่านชาญเมืองถึงจะไม่พลุกพล่านด้วยผู้คนแต่คอนโดมิเนียมก็น่าอยู่ พิชิตเลือกซื้อคอนโดฯมากกว่าบ้านเป็นหลังเพื่อความสะดวกสบายซึ่งต่างจากธีรเมธ ชายหนุ่มตัดสินใจซื้อทาวน์เฮ้าส์เพราะธุรกิจที่เขาเพิ่งหันมาสนใจทำมันและการเริ่มธุรกิจค้าขายของแปลก ของเก่าและอัญมณีล้ำค่านั้นทำให้เขามีเงินใช้ไม่ขาดมือและยิ่งไปกว่านั้นเขามีบ้านมีรถโดยไม่ต้องผ่อนเช่นแต่ก่อน ชีวิตพนักงานบริษัทสร้างความเบื่อหน่ายให้กับเขาจนเขาไม่อยากย้อนกลับเข้าไปใช้ชีวิตเช่นนั้นอีก
ธีรเมธรู้จักกับกลุ่มนักธุรกิจพวกอสังหาริมทรัพย์และนักธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องอัญมณีหลายรายจากการแนะนำของศัมภุ เพื่อนรุ่นพี่ซึ่งศัมภุทำงานธนาคารมีโอกาสรู้จักกลุ่มคนกลุ่มนี้ ธีรเมธติดต่อกับศัมภุ
ตลอดเวลาหลังจากเรียนจบปริญญาตรีด้านการตลาดและเข้าทำงานในบริษัทรวมทั้งลาออกมาเรียนรู้งานกับอาทิตย์ นักธุรกิจหนุ่มใหญ่เจ้าของร้านไพรำอัญมณี
อาทิตย์รับซื้อวัตถุโบราณควบคู่กับเพชรพลอยและอัญมณีอื่นๆ ที่มีค่ามีราคา ธีรเมธจึงมีโอกาสค้าขายกับอาทิตย์โดยไม่ต้องวิ่งขายเหมือนหลายคนที่จับงานด้านนี้
ไข่มุกดำเม็ดแรกที่ธีรเมธขายให้อาทิตย์เป็นแรงผลักดันให้เขาอยากค้นหาของมีค่าใต้ท้องทะเลมากขึ้น สิ่งที่ได้จากธรรมชาติเป็นสิ่งที่เขาต้องการเพราะราคาของมันสูง ของแปลกที่เขาได้มาเพียง 3 ชิ้นทำให้เขากลายเป็นนักธุรกิจเล็กๆโดยไม่ต้องเหนื่อยกับการดิ้นรนทำงานทั้งวันเพื่อการอยู่รอดเช่นแต่ก่อนและ
เหมือนกับธุรกิจด้านนี้จะทำให้เขาเจริญก้าวหน้าขึ้น วันหนึ่งเขามีโอกาสรู้จักกับพ่อค้ารายใหญ่อีกคน
“เมธ รู้จักคุณวรงค์สิ คุณวรงค์เป็นเจ้าของร้านวัตถุโบราณเผื่อแกมีของจะให้เขาดูบ้าง”
ศัมภุแนะนำเจ้าของร้านวัตถุโบราณรายใหม่ให้ธีรเมธรู้จัก ชายหนุ่มยินดีกับเพื่อนใหม่ ทางทำมาหากินของเขาเพิ่มขึ้นอีกแห่งแต่พ่อค้าคนใหม่ไม่เหมือนอาทิตย์ผู้ตรงไปตรงมาและไม่ชอบเอาเปรียบใคร สำหรับวรงค์สายตาเจ้าเล่ห์ปรากฏอยู่ในดวงตาตี่ซึ่งธีรเมธแอบเห็นตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้รู้จัก
“คุณวรงค์ครับ นี่ธีรเมธเพื่อนรุ่นน้องผม เพิ่งหันมาทำธุรกิจเกี่ยวกับของเก่า ถ้าคุณสนใจคุยได้เลย ผมขอตัวก่อน” ศัมภุยิ้มน้อยๆ ขณะแนะนำธีรเมธ
“ยินดีที่ได้รู้จักคุณธีรเมธ มีอะไรจะให้ผมดูก็เชิญได้ทุกเวลานะครับ” วรงค์ยิ้มกว้าง
“ขอบคุณครับ ยินดีที่ได้รู้จักคุณวรงค์เช่นกัน ต้องขอบคุณพี่ภุที่แนะนำเจ้าของร้านใหญ่ให้ผม”
“อย่าเวอร์ ฉันรู้ว่าแกอยากรู้จักคุณวรงค์เลยแนะนำให้คุยกันตามสบายพี่ขอตัวไปทำงานก่อน คุณวรงค์รอเอกสารสักครู่นะครับ”
“ครับ ขอบคุณมาก เย็นนี้ถ้าคุณศัมภุไม่ติดธุระที่ไหนเชิญทานข้าวกับผมสักมื้อนะครับ”
“ด้วยความยินดีครับ ใช่มั้ยพี่ภุ” ธีรเมธตอบรับแทนศัมภุเพราะเขาอยากรู้จักใกล้ชิดกับวรงค์มากกว่านี้ ศัมภุมองตาเพื่อนรุ่นน้องก็รู้ว่าต้องการอะไร เขายิ้มบางแล้วว่า
“พี่ติดธุระ แกไปทานแทนพี่ก็แล้วกัน คุณวรงค์ไม่ว่านะครับ เอาไว้โอกาสหน้าผมไม่ปฏิเสธแน่ วันนี้มีนัดจริงๆ” ศัมภุปฏิเสธเสียงนุ่ม
“ไม่เป็นไรครับ ผมตั้งใจเชิญคุณธีรเมธด้วยจะได้คุยเรื่องงานกัน” วรงค์ยิ้มยอมรับคำปฏิเสธของศัมภุ
ผู้จัดการหนุ่มไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจของทุกคนที่รู้จัก เขาเป็นเพียงสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างธีรเมธกับนักธุรกิจใหญ่เหล่านี้เท่านั้น
นอกจากอาทิตย์แล้ว วรงค์เป็นอีกคนที่ธีรเมธติดต่อค้าขายด้วย วรงค์รับซื้อทุกอย่างที่ธีรเมธนำมาเสนอ ขอให้เป็นของเก่าและของแปลกเท่านั้น ส่วนอาทิตย์เขาเลือกเฉพาะสิ่งที่เขาต้องการ
ชายหนุ่มเร่งความเร็วของรถหลังจากส่งพิชิตกับสาวน้อยที่หน้าคอนโดมิเนียมแล้ว เขาต้องการกลับบ้าน เขาคิดถึงดอกกุหลาบสีชมพูในตู้ปลา เขานำดอกกุหลาบจากใต้ทะเลลึกใส่ไว้ในนั้น
ตู้ปลาที่ไม่มีปลาแม้แต่ตัวเดียว ตั้งเด่นบนโต๊ะข้างหัวเตียง ยามที่เจ้าของห้องเปิดไฟสว่างจ้า แสงไฟกระทบกับผืนน้ำในตู้สี่เหลี่ยมสะท้อนแทรกสู่กุหลาบหินปูนสีชมพูให้เปล่งสีงดงาม ธีรเมธหลงใหลกับความสวยแปลกประหลาดของกุหลาบปะการังดอกนี้จนลืมคิดถึงเงินจำนวนมหาศาลไปบางเวลา
เขายังไม่ยอมเปิดเผยดอกไม้ดอกนี้ให้กับนักธุรกิจของเก่าและอัญมณีคนไหนให้ได้ยล เขายังไม่พร้อมจะเสนอสินค้าชิ้นนี้ให้กับใคร ไม่เปิดปากบอกใครแม้แต่ศัมภุ เพื่อนรุ่นพี่ที่เขาสนิทมากที่สุดและรักนับถือชายหนุ่มเช่นพี่ชายตัวเอง เขาต้องการเชยชมความงามของกลีบดอกสีชมพูยามต้องแสงไฟ ต้องการเห็นมันทุกวันจนกว่าจะอิ่มเอมกับความงดงามนั้นแล้วเขาจะขายมัน
ธีรเมธพารถเข้ามาจอดหน้าประตูรั้วเหล็กสีครีม เขาเปิดประตูรถเดินมาเปิดประตูรั้วแล้วกลับไปที่รถขับเข้าไปจอดในที่จอดและกลับออกมาปิดประตูรั้ว บ้านหลังเล็กมีเขาอยู่เพียงลำพัง มีบางคืนพิชิตมาขอนอนค้างด้วยซึ่งเขาก็ไม่ขัดเพื่อน แต่บางคืนเขาพาหญิงสาวที่รู้จักในเธคหรือผับเข้ามาตักตวงความสุขจากหล่อนในบ้าน เขามีความสุขกับสิ่งที่ทำโดยไม่มีใครกล้าขัดหรือห้ามเขาได้แม้แต่ไอริณ หญิงสาวที่เขาคบหล่อนเช่นคนรัก