ตอนที่ ๓ รู้ไหมกูเป็นใคร!
“ไอ้ห่ามึงทำยังไงวะถึงได้มีสภาพแบบนี้” เธียรมองคนบนเตียงที่นอนหมดสภาพแล้วส่ายใบหน้า ส่วนเพื่อนของเขานั้นกำลังสวมใส่เสื้อผ้าด้วยสีหน้าที่ไม่ต่างจากเดิม “มึงเล่นหนักเกินไปหรือเปล่า”
เบรเดนไม่สนใจเขาวางเงินจำนวนมากเอาไว้แล้วเดินออกมาจากห้องเพียงเท่านั้น นี้แค่ผ่านมาเพียงสองชั่วโมงหญิงสาวที่ใช้เวลาร่วมกันต่างนอนสลบอยู่บนเตียงนอน เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยแดงยาวเป็นทางจากฝีมือของเขา
“ครั้งหน้าหาที่ทนมือกว่านี้หน่อย” สีหน้าไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่ตนเองกระทำ เมื่อเข้ามาในเกมของเขาแล้วก็ต้องกลายเป็นทาสของเขาแบบนี้
“จะมีใครทนมึงได้ เอามาเป็นร้อยมึงก็ทำแบบนี้ทุกราย” เขายอมรับว่าเบรเดนเป็นคนชอบความรุนแรงแต่ไม่คิดว่าจะยังคงชื่นชอบความรุนแรงแบบนี้จนถึงทุกวันนี้
“แล้วเคยมีปัญหาไหม?” เขาถามกลับแล้วกำลังเดินตรงมาห้องที่นั่งดื่มตามเดิม
“คุณเธียรเกิดเรื่องแล้วครับ ลูกค้าอาละวาดครับ บอกว่าเป็นคนใหญ่คนโตด้วยพวกผมไม่กล้าทำอะไรครับ” การ์ดวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาเธียร
“เดี๋ยวกูมา มึงไปนั่งรอในห้องก่อน” เขาหันหน้าไปบอกเพื่อนให้เข้าไปนั่งรอในห้องก่อน แต่เบรเดนกลับเดินตามมาดูสถานการณ์
ภายในห้องวีไอพีกำลังส่งเสียงดังรบกวนลูกค้าคนอื่น ๆ เสียงชายหนุ่มที่กำลังเมามายตะโกนดังก้องไปทั่วทั้งห้อง ในมือมีปืนกระบอกสั้นที่กำลังกวาดปลายกระบอกปืนไปทั่วอย่างไม่เกรงกลัวว่าลูกกระสุนที่บรรจุอยู่เต็มรังเพลิงจะยิงออกมาโดนใคร
“กูบอกให้เรียกเจ้าของที่นี่ออกมาคุยกับกูไง มึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร!! แค่ค่าเหล้าไม่กี่หมื่นกูมีปัญญาจ่าย กลัวกูโกงนักหรือไงห๊า!!” ชายหนุ่มหน้าตาดีพูดพร้อมอารมณ์โกรธเคือง ที่พนักงานนำบัตรเครดิตไปรูดแล้วบัตรไม่ผ่าน
“กูเจ้าของที่นี่” เธียรออกไปยืนประจันหน้าอย่างไม่เกรงกลัว “มึงจะเอาไง ติดค่าเหล้ายังมีหน้ามาอาละวาดที่นี่อีก อยากกลับไปครบสามสิบสองส่วนหรือเปล่ากูให้มึงเลือก จะออกไปจากร้านกูดี ๆ หรือจะยังไง”
“ทำไม!! มึงจะทำอะไรกู แค่คลับเล็ก ๆ กูสั่งปิดตอนไหนก็ได้อย่ามาปากดีกับกู!!” เปรมกล่าวแล้วยิ้มมุมปาก หากแต่เจ้าของร้านกลับเดินมานั่งที่โซฟาตัวใหญ่ที่อยู่อีกด้าน
“มึงรู้ไหมราคาโซฟาร้านกู ค่าเหล้าวันนี้มึงซื้อได้แค่ขาตั้งรองพื้น” เธียรเหยียดยิ้มมุมปาก คิดว่าเขากลัวหรือไงก็แค่ผู้ชายกระจอกคนหนึ่งที่ทำตัวกร่างไปทั่วโดยไม่รู้ว่าเจอคนจริงเข้าให้แล้ว “กูให้โอกาสมึงแล้วนะ ทั้งค่าเหล้ากูก็ไม่ให้มึงจ่าย แต่มึงเลือกที่จะอยู่ที่นี่ต่อเอง”
“ขอโทษนะคะ!!” เสียงของหญิงสาวดังขึ้น เธอฝ่าผู้คนเข้ามาด้านใน “พี่เปรม!! พี่ทำอะไร!!” เสียงของไข่มุกดังขึ้นด้วยความตกใจ เมื่อสามสิบนาทีก่อนเธอได้รับโทรศัพท์จากพี่ชาย น้ำเสียงเหมือนกำลังมีเรื่องบอกให้เธอรีบมาที่คลับแห่งนี้ คนกำลังนอนหลับต้องตื่นแล้วรีบขับรถมาด้วยความเป็นห่วง
“ใครบอกว่ากูไม่มีเงินจ่าย” เปรมลดปืนลงแล้วเดินตรงมาหาไข่มุก “เอาบัตรเครดิตมาสิ”
“พี่จะเอาไปทำไม?” ไข่มุกเอียงคอถาม ตอนนี้เธอไม่ได้พกบัตรอะไรมาทั้งนั้นมีแต่โทรศัพท์ที่ถือติดมือมาด้วย
“ก็บัตรฉันใช้ไม่ได้ สงสัยพ่อคงอายัดบัตรไปแล้ว ขอใช้ของเธอก่อนเดี๋ยวคืนให้” เขาก้มลงมากระซิบบอก กลัวว่าคนอื่นจะได้ยินสิ่งที่ตนเองสนทนากับน้องสาว
“ไม่ได้เอามาด้วยค่ะ พี่จำเป็นต้องใช้ตอนนี้เลยเหรอคะ” เธอไม่รู้ว่าต้องจ่ายค่าเหล้าหรือว่าค้างจ่ายเอาไว้ได้ค่อยมาชำระทีหลัง
“เงินติดตัวสักบาทก็ไม่มีเลยเหรอ พึ่งพาอะไรไม่ได้จริง ๆ น่ารำคาญ” เขาหันมาตะคอกน้องสาวกลับอย่างไม่สบอารมณ์
“กูจ่ายเอง” เสียงของเบรเดนดังขึ้นทำให้ชายหญิงทั้งสองหันมองไปทางต้นเสียง เขายื่นบัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินไปให้พนักงานที่ยืนอยู่ด้านนอก “เจอกันอีกแล้วนะ” เขาพูดกับไข่มุกก่อนที่หญิงสาวจะยิ้มกว้างเมื่อจำเขาได้
“คุณเองเหรอคะ ไม่คิดว่าจะเจอกันอีกนะคะ” รอยยิ้มและคำพูดท่าทางที่ดีใจทำให้เปรมรู้สึกไม่พอใจ เพราะเขาเสียหน้าจึงได้เดินออกไปจากห้องนี้ “ขอบคุณมากนะคะ เดี๋ยวฉันคืนเงินให้ค่ะ มีเลขบัญชีไหมคะ”
“ไม่ต้อง” เบรเดนพูดแล้วหันหลังเดินกลับมาที่ห้องวีไอพีของตนเองอีกครั้ง ส่วนไข่มุกได้แต่มองตามอย่างไม่เข้าใจ
หรือว่าผู้ชายคนนี้จะใจดีและชอบทำบุญกับคนที่เดือดร้อน ว่าแล้วไข่มุกก็วิ่งตามหลังของเปรมออกมา แต่พอมาถึงหน้าร้านเธอก็ไม่พบกับใครแล้วจึงเดินตรงไปที่รถขับตรงกลับบ้าน เมื่อมาถึงบ้านก็พบเข้ากับรถของเปรมที่จอดอยู่ที่โรงรถก่อนแล้ว
“ให้ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่อง ไม่ได้ยินหรือไงฉันบอกให้เธอเอาเงินมาด้วย หูหนวกหรือไงห๊ะ!!” เมื่อไข่มุกเดินเข้ามาภายในบ้าน เปรมก็ถามใส่อารมณ์เดินมากระชากแขนของเธออย่างแรงจนร่างบางลอยติดมือ ดีที่เธอนั้นจิกปลายเท้าลงพื้นเอาไว้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้นคงได้ปะทะเข้ากับร่างของเปรม
“มุกไม่ได้ยินที่พี่พูด มันเสียงดัง มุกเป็นห่วงก็เลยรีบออกไปจากบ้าน มุกขอโทษนะคะ” เธอมองใบหน้าของเปรมแล้วน้ำตาคลอทั้งที่เธอไม่ใช่คนผิดแต่เขากลับพูดให้เธอเป็นคนผิด
“คราวหลังก็ทำตัวให้ฉลาดหน่อยเถอะ เป็นแบบนี้ไงเธอถึงได้อยู่แบบนี้ จะมีผู้ชายที่ไหนเอาเธอเป็นทำเมียห๊ะ” คำพูดดูถูกแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไข่มุกได้ยิน หากอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง เปรมมักจะหาคำพูดทำร้ายจิตใจมาว่าให้เธอทุกครั้ง
“ฮึก ฮึก” ไข่มุกน้ำตาไหลเมื่อมือที่บีบแขนไม่เคยผ่อนแรงลง มันเจ็บแทบอยากจะกรีดร้องหากเธอไม่คิดถึงแม่คงได้ทำอย่างที่คิดไปนานแล้ว
“อย่ามาบีบน้ำตา คิดว่าฉันจะสงสารหรือไง น้องก็ไม่ใช่ ญาติก็ไม่ใช่เธอก็เป็นได้แค่คนอาศัยเท่านั้นแหละ คิดเหรอว่าฉันมองเธอเป็นน้องจริง ๆ ฝันไปเถอะ” เขาปล่อยมือออกจากแขนเล็ก แล้วเดินกระแทกเท้าขึ้นไปบนห้องนอน
ตอนนี้ภายในบ้านนอนหลับกันหมดแล้ว เธอเองก็โง่ที่เป็นห่วงเปรมจากใจจริงสมควรปล่อยให้เขารับผิดชอบเรื่องทุกอย่างเอง ทันใดนั้นภาพของผู้ชายที่ช่วยเหลือเธอเอาไว้ก็ปรากฏขึ้นทำให้มีรอยยิ้มบางเบาปรากฏขึ้นมาบนริมฝีปากของไข่มุก
ผู้ชายคนนั้นคือพระเอกขี่ม้าขาวสำหรับเธอ ยิ่งได้มองใบหน้านิ่งที่หล่อเหลาแล้วยิ่งทำให้รู้ว่าโลกใบนี้มีพระเอกตัวจริง
“มุก ลูกยืนทำอะไรมืด ๆ ไม่หลับไม่นอน” ทิชาที่ได้ยินเสียงดังเดินลงมาดูว่าข้างล่างเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่กลับเห็นบุตรสาวยืนนิ่งอยู่กลางห้องรับแขกของบ้าน
“หนูแค่หิวน้ำนะคะ ลงมากินน้ำจะขึ้นไปนอนแล้วค่ะ”
“ปกติลูกเอาขวดน้ำขึ้นไปด้วยไม่ใช่เหรอ มีอะไรหรือเปล่ามุก ไม่สบายหรือเปล่า” คนเป็นแม่เป็นห่วงเดินเข้ามาวัดไข้ของไข่มุก “ตัวก็ไม่ร้อนหรือว่าปวดท้องเหรอ”
“เปล่าค่ะ มุกแค่มากินน้ำ ลืมเอาขวดน้ำขึ้นไปนะคะ เราไปนอนกันเถอะนะคะ” เธอควงแขนแม่ขึ้นมายังห้องนอนก่อนที่จะแยกย้ายกันเข้าห้อง
ภายในห้องเปิดไฟสว่างไข่มุกทิ้งตัวลงนอนแล้วถอนหายใจออกมา คิดถึงคำพูดของเปรมที่ย้ำพูดให้ได้ยินตั้งแต่จำความได้ เขามักทำให้เธอรู้สึกแย่ไม่ว่าจะเป็นการกระทำและคำพูดที่ดูถูกเธอกับแม่ของเธอ
แต่เปรมฉลาดพอที่จะไม่พูดเรื่องเช่นนี้ต่อหน้าของทิชา เพราะเขารู้ว่าพ่อรักทิชามากและแน่นอนว่าทิชาเป็นแม่เลี้ยงที่ดูแลเขามาตั้งแต่เด็ก คงมีความเกรงใจอยู่มาก ส่วนเธอนั้นคงไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียในชีวิตของเขาถึงได้พูดจาทำร้ายจิตใจ
เธอเห็นเปรมเป็นพี่ชายแท้ ๆ แต่กลับกันเปรมไม่เคยเห็นเธอเป็นน้องสาว แม้กระทั่งญาติเขายังไม่อยากให้เธอเป็นเสียด้วยซ้ำ ไม่เป็นอะไรหรอกเธอก็ไม่ได้คิดมากหากเทียบกับเมื่อก่อนแล้ว
ไข่มุกยิ้มหวานเมื่อนึกถึงชายหนุ่มอีกคนที่ขันอาสาจ่ายค่าเหล้าของเปรมให้ในวันนี้ เขาเป็นใครมาจากไหนถึงได้มีจิตใจที่ดีแบบนี้ หากเจอกับเขาอีกครั้งเธออยากเลี้ยงข้าวตอบแทนแต่คงเป็นไปได้ยากที่จะได้เจอกัน
ครืด ครืด เสียงแจ้งเตือนของข้อความดังขึ้น ไข่มุกหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดอ่านข้อความอย่างรวดเร็ว
ปิ่นทราย : พรุ่งนี้อย่าลืมวันเกิดยัยต่ายนะ
ปิ่นทรายส่งข้อความมาเตือนเธอเป็นครั้งที่สามแล้ว กลัวว่าเธอนั้นจะไม่ไปร่วมงานวันเกิดของเพื่อน
ไข่มุก : เข้าใจแล้ว ฉันไปแน่อาจไปสายหน่อยนะ
ปิ่นทราย : จะมากี่โมงก็มาเถอะ พวกเรารอเธออยู่นะ
ไข่มุก : เข้าใจแล้วส่งโลเคชั่นมาให้อีกรอบแล้วกัน
ไข่มุกส่งสติกเกอร์หัวใจไปให้เพื่อน
ปิ่นทราย : ได้ อย่าลืมพาแฟนมาด้วยนะ
ไข่มุก : ก็รู้ว่าฉันไม่มีแฟน ยังจะมาล้อเล่นอีก
เพื่อนส่งสติกเกอร์รูปหัวเราะมา เธอเองก็ส่งตอบกลับไป
ปิ่นทราย : สวยอย่างแก แต่ไม่ทันคนอย่ามีเลยแฟน อยู่สวย ๆ คนเดียวนะดีแล้ว
ไข่มุก : ฉันง่วงแล้ว เจอกันพรุ่งนี้
ไข่มุกวางโทรศัพท์ลงแล้วเดินตรงเข้าห้องน้ำ เพื่อล้างหน้าล้างตาอีกครั้งแล้วเข้านอน
ผู้หญิงอย่างเธอใคร ๆ ก็บอกว่าสวยน่ารัก แต่กลับมีนิสัยไม่ทันคนอยู่บ้าง ถูกคนอื่นเอาเปรียบก็หลายครั้ง เรื่องความรักเธอวาดฝันเอาไว้ว่าจะเจอผู้ชายสักคนที่เป็นเหมือนพระเอกในนิยาย ผิดตรงไหนที่เธอคิดฝันแบบนี้