สัมภาษณ์งาน
บริษัทตระกูลมู่…
“การประชุมวันนี้ ผมขอประกาศให้ผู้บริหารทุกท่านได้ทราบ ต่อไปนี้การบริหารงานทั้งหมดผมจะยกให้จินฉือลูกชายคนโตของผมสืบทอดและดูแลกิจการทั้งหมดต่อ หวังว่าทุกท่านจะสนับสนุน”
“สวัสดีครับ ผมจินฉือ ผมขอสัญญาว่าจะดูแลและพัฒนาทำให้บริษัท มู่จื่อ กรุ๊ปของเราก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อย ๆ ครับ”
“เฉิงเฉิง ให้เลขาเอาเอกสารของบริษัททั้งหมดที่เซ็นสัญญากับมู่จื่อทั้งหมดมาหน่อย”เฉิงเฉิงเป็นผู้ช่วยประจำตัวของจินฉือ
จินฉือต้องการตรวจสอบบริษัทที่เสียผลประโยชน์จากบริษัทมู่จื่อทั้งหมดว่าจะมีบริษัทไหนบ้างที่เข้าข่ายและจะมีส่วนร่วมกับตระกูลหมิงบ้าง
“ประธานมู่ค่ะ เอกสารทั้งหมดที่ให้เอามาอยู่นี่หมดแล้วค่ะ” ชิงชิง เลขาสาววัย 27 ปี พูดและแอบมองดูจินฉือ ประธานคนใหม่
คนอะไรหล่อได้ขนาดนี้ กรรมพันธุนี้ต้องมีวิวัฒนาการมาจากไหนกันน่ะถึงได้เกิดมาหล่อขนาดนี้ ใครได้เป็นแฟนคงจะโชคดีมาก ชิงชิงคิดและแอบปลื้มจินฉืออยู่ไม่เบา
“ขอบใจมาก มีงานอะไรก็ไปทำเถอะ หากต้องการอะไรเดียวจะเรียกอีกที” จินฉือ ไม่ชอบให้ใครมายืนมอง ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วยแล้วยิ่งไม่ชอบ หารเป็นไปได้เขาอยากจะเปลี่ยนเลขาด้วยซ้ำ
มหาลัย…
“เสี่ยวโย หาที่ฝึกงานได้แล้วหรือยัง ฉันว่าจะไปฝึกงานที่บ้านเกิดน่ะ ฉันยื่นเอกสารไปแล้ว จะได้กลับไปอยู่ดูแลแม่ด้วย” หลิวหยางเอ่ย และกอดคอเสี่ยวโยไปกินข้าวกลางวัน
“ฉันว่าจะไปยื่นเอกสารฝึกงานที่บริษัท มู่จื่อ กรุ๊ป เพราะหากได้ฝึกงานที่บริษัทใหญ่ ๆ และเป็นบริษัทชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและภูมิภาคนั่นคงได้ประสบการณ์เยอะเลย ฉันจะได้นำไปใช้ประโยชน์กับงานฉันหลังจากนี้ไปได้ เพราะหากเรียนจบ หางานได้แล้วฉันก็คงต้องไปจากที่นี่ เดียวกินข้าวเสร็จแล้ว ช่วงบ่ายฉันจะไปยื่นเอกสารฝึกงาน เธอก็กลับห้องไปได้เลยน่ะ ”
“สวัสดีค่ะ หนูมายื่นเอกสารฝึกงานค่ะ”เสี่ยวโยแจ้งกลับพนักงานต้อนรับ
…ค่ะ รอซักครู่น่ะค่ะ … แล้วพนักงานต้อนรับก็โทรแจ้งฝ่ายบุคคล
…ค่ะ เชิญไปที่แผนกบุคคลชั้น 29 ได้เลยค่ะ
“ขอบคุณค่ะ”
ชั้น 29 …
“สวัสดีค่ะ หนูมายื่นเอกสารฝึกงานค่ะ”
“กรอกใบสมัครก่อนได้เลย เสร็จแล้วก็ยื่นที่นี่ได้เลยน่ะ แล้วรอติดต่อสัมภาษณ์น่ะค่ะ” พนักงานฝ่ายบุคคลพูด
ตระกูลมู่…
เวลา 19.00 น. เป็นเวลารับประทานอาหาร
“เสี่ยวโย ปีสุดท้ายแล้ว ใกล้จะจบแล้วหนูหาที่ฝึกงานได้แล้วหรือยังล่ะ ” หนิงเฉิง ถามไป
“วันนี้หนูไปยื่นเอกสารสมัครที่บริษัท มู่จื่อ กรุ๊ป แล้วค่ะคุณท่าน ตอนนี้รอให้บริษัทนัดสัมภาษณ์ค่ะ”
“เอ่า ถ้าจะไปที่นั่นก็ไม่ต้องไปยื่นก็ได้ เดียวก็ให้จินฉือจัดการให้เลย จินฉือ แกก็จัดการให้เสี่ยวโยด้วยแล้วกัน”หนิงเฉิงบอก
“เอ่อ คือหนูอยากทำให้ถูกต้องค่ะ”
“หากอยากทำให้ถูกต้อง พรุ่งนี้ก็ไปที่บริษัท ฉันจะเป็นคนสัมภาษณ์เอง” จินฉือบอก
“ค่ะ”
บริษัทมู่จื่อ
“ชิงชิง ตามแผนกบุคลให้ส่งเอกสารนักศึกษาฝึกงานมาให้ผมด้วย ตอนนี้เลย”จินฉือสั่ง
“รับทราบค่ะ”
ก๊อกๆๆๆ
“เอกสารที่ให้ตามค่ะ” ชิงชิงยื่นเอกสารให้แต่ยังไม่ยอมออกไป เธอได้แต่ยืนมองจินฉือ เพราะโอกาสที่จะได้อยู่ใกล้นั้นแทบจะไม่มี
“ขอบใจมาก ออกไปทำงานต่อเถอะ” จินฉือพูด ออกแนวไล่
ประวัติ และคะแนนการเรียนไม่เลวเลยนิซิงเยียน เกรด 4 ทุกวิชา สาขาวิชาคอมฟิวเตอร์กราฟฟิกและการออกแบบ
กริ้ง กริ้ง….เสียงโทรศัพท์
…ว่าไง
…นักศึกษาที่นัดสัมภาษณ์มาแล้วค่ะ ให้เข้าไปเลยมั้ยค่ะ
…เข้ามาได้เลย
“สวัสดีค่ะ ท่านประธาน” เสี่ยวโยทักทาย
“เชิญ แนะนำตัวได้เลย”
เสี่ยวโยพูดแนะนำตัว และอธิบายสายงานของเธอ และกล่าววิสัยทัศน์ รวมถึงเหตุผลการสมัครงาน และประสบการณ์ทั้งหมดของเธอ จินฉือฟังแล้วรู้สึกคล้อยตามเธอ และรู้สึกว่าเด็กคนนี้ไม่เลวเลย ทั้งการพูดและไหวพริบ
“โอเคร อาทิตย์หน้าก็มาฝึกงานได้เลย ชั้น 35 นี่แหละ ตำแหน่งผู้ช่วยเลขา ให้ชิงชิงสอนและแจ้งรายละเอียดงานอีกที”
…ชิงชิง เข้ามาห้องผมที
…ค่ะ
…มีอะไรรึเปล่าค่ะ ท่านประธาน
…นี่คือเสี่ยวโย นักศึกษาฝึกงาน สัปดาห์หน้าจะมาทำงานที่นี่ตำแหน่งผู้ช่วยเลขา คุณช่วยจัดแจงเรื่องงาน สอนงานให้เธอ และจัดที่นั่งให้เธอด้วยแล้วกัน
…รับทราบค่ะ ชิงชิงรับคำพร้อมแอบมองเสี่ยวโยแบบดูถูก เพราะคิดว่าเธอใช้เส้นสาย
“ขอบคุณค่ะ ท่านประธาน มีอะไรอีกมั้ยค่ะ หากไม่มีแล้วหนูขอตัวนะคะ” เสี่ยวโยพูดและขอลา
“อืม ไม่มีแล้ว”
“หลิวหยาง ฉันได้ที่ฝึกงานแล้วน่ะ เป็นผู้ช่วยเลขาของคุณจินฉือ เดียวฉันไปหาเธอที่หอน่ะ เธออยู่หรือเปล่า” เสี่ยวโยโทรหาเพื่อนสาว
“อืม โอเคร ฉันอยู่ที่ห้อง มาก็ดีเราจะได้ไปฉลองกัน” หลิวหยางเอ่ย
ก๊อก ก๊อก…
“ฉันไปเปิดเอง” หลีซานบอก หลีซานเป็นกลุ่มเพื่อนสนิทห้องเดียวกัน และก็แอบชอบเสี่ยวโยอยู่
“อ้าว หลีซานอยู่ด้วยเหรอ”
“ใช่ พอดี หลิวหยางโทรหาว่าจะไปฉลองกัน เพราะพวกเราได้ที่ฝึกงานกันหมดแล้ว เดียวเวยเวยกับหลี่เจียงจะตามมา”
“ไปกันเถอะ ฉันแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ไปกินหม้อไฟกัน”
ร้านหม้อไฟ…
กลุ่มเพื่อทั้ง 5 คน นั่งกินหม้อไฟและดื่มเบียร์กัน แต่ล่ะคนเริ่มเมากันบ้างแล้ว นอกจากหลีซานที่ไม่ค่อยดื่มเพราะต้องขับรถ ส่วนเวยเวยกับหลีเจียง 2 คนนี้เป็นแฟนกัน พักอยู่ใกล้ ๆ ร้านหม้อไฟ จึงดื่มเมาได้ ใกล้เวลา 4 ทุ่มแล้ว เสี่ยวโยก็เริ่มเมาและไม่ไหวแล้วจึงชวนเพื่อนๆ กลับ หลีซานอาสาพาทุกคนไปส่งเพราะเพื่อทุกคนพักอยู่ใกล้ๆ กัน แถวมหาวิทยาลัย ยกเว้นเสี่ยวโยเป็นคนสุดท้าย เพราะบ้านไกลกว่าเพื่อน กว่าจะมาส่งถึงบ้าน ก็ปาไป 5 ทุ่ม พอดี
“ขอบใจมากน่ะ หลีซาน ต้องรบกวนเธอเลย”
“ไม่เป็นไรหรอก เรายินดี ขึ้นไปพักผ่อนเถอะ ฝันดีน่ะ” หลี่ซานกล่าวลา
“จ้า ขับรถดี ๆ น่ะ ราตรีสวัสดิ”
เสี่ยวโยเมาพอสมควร พอลงรถแล้วก็เริ่มเดินโซซัดโซเซบ้าง ประจวบกับจินฉือที่กับมาจากงานกินเลี้ยงกับลูกค้าพอดี
“ท่านประธานครับ นั่นคุณหนูเสี่ยวโยนิครับ ทำไมถึงได้กลับมากับผู้ชายตอนนี้ได้ละครับ” อู๋ซานเอ่ย
“เริ่มออกลายแล้วละชิ” จินฉือเอ่ย
“อรุณสวัสดิค่ะคุณจินฉือ กลับบ้านเช้าเหมือนกันนะคะ” เสี่ยวโยเมา และพูดผิดๆ ถูกๆ
“เหอะ นี่มันเวลาไหนแล้ว อรุณสวัสดิอะไรของเธอ”
ว๊าย!!!
เพราะเสี่ยวโยเมา และจะเดินขึ้นบันไดตึก เกิดพลาดสะดุดกับบันได อู๋ซานกับจินฉือรีบคว้ามือเข้าไปรับไว้
อุ๊บ!! แล้วร่างก็ตกอยู่ในอ้อมแขนของคนทั้ง 2 สองคือเฉิงเฉิงกับจินฉือ
“ไม่เป็นไร อู๋ซานนายปล่อยเธอ แล้วไปพักเถอะ เดี๋ยวฉันพาไปเอง” จินฉือเอ่ย พร้อมอุ้มร่างหญิงสาวที่เมา และหน้าแดง ลามไปถึงคอ มองไปแล้วก็รู้สึกเคลิ้ม เพราะเสี่ยวโยเป็นเด็กสาวที่หน้าตาสดใส คิ้วโค้งมนสวย จมูกโด่งเป็นสัน และปากกระจับเล็กๆ ของเธอที่เป็นสีชมพูหวานแหวว เธอเป็นหญิงสาวหน้าคม ผิวขาว เพราะเป็นลูกครึ่ง จีน อินเดีย เธอเป็นคนตัวเล็กมากสูงประมาณ 155 หากมองจากอายุแล้วน่าจะประมาณ 17-18 ปี แต่ที่จริงแล้วเธออายุจะ 21 ปีแล้ว
เสี่ยวโยกอดคอของจินฉือไว้ ในขณะที่จินฉืออุ้มเธอเพื่อไปส่งที่ห้อง
“พ่อขา หนูคิดถึงพ่อจังเลย พ่ออยู่กับหนูแบบนี้ไปตลอดเลยได้มั้ยค่ะ ฮือ ฮือ” เสี่ยวโยละเมอออกมาคิดว่าจินฉือเป็นพ่อของตัวเอง
“หนูรักพ่อนะคะ คิดถึงพ่อมากเลย หนูใกล้จะเรียนจบแล้วนะคะพ่อ หนูเรียนจบแล้ว ได้งานดีๆ ทำแล้ว พ่อไปเที่ยวฉลองวันเกิดหนูที่ฮอกไกโดนะคะ ตามที่พ่อสัญญากับหนูไว้ เพราะทุกปีพ่อติดงานตลอด ไม่ได้ฉลองวันเกิดกับหนูชักที หากหนูเรียนจบแล้ว มีงานทำแล้ว พ่อไม่ต้องทำงานแล้วนะคะ หนูจะเลี้ยงดูพ่อเองค่ะ ฮือฮือ วันนี้หนูขอนอนกอดพ่อนะคะ ฮือฮือ หนูคิดถึงพ่อที่สุดเลย” เสี่ยวโยกอดจินฉือแน่น