บทที่ 8 ปรายชล
“คุณแม่ครับ ผมพาสาวใช้คนใหม่มาดูแลคุณแม่นะครับ เธอชื่อปรายชล คุณแม่เรียกเธอว่าปรายก็ได้นะครับ”
“คุณแม่คุณเป็นอะไร” ปรายชลมองใบหน้าซีดขาวบนหมอน ความโกรธในตัวภูชิสส์หยุดไปชั่วขณะหนึ่ง ผู้หญิงบนเตียงน่าสนใจกว่าภูชิสส์
“เป็นอะไร ก็เป็นเจ้าหญิงนิทราน่ะสิ คุณแม่ไม่ยอมตื่นตั้งแต่รู้ข่าวคุณพ่อเสีย”
เขามองหน้าแม่ น้ำเสียงอ่อนลง ใบหน้าเข้มเครียดเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นยิ้มน้อยๆ ดวงตาที่มองคนหลับอ่อนโยน เขายกมือแม่ขึ้นจูบหลังมือ
“คุณแม่ต้องหายนะครับ คุณแม่ต้องตื่นมาคุยกับผม มาคุยกับทุกคนนะครับ”
เขาพึมพำกับมือของแม่ ครู่ใหญ่จึงวางมือท่านลงที่เดิม ดึงผ้าห่มคลุมแล้วลุกขึ้นยืน หันมามองปรายชล ตั้งใจจะดุหล่อนแต่พอเห็นหล่อนมองแม่ของเขาด้วยสายตาอ่อนโยน ระคนสงสัย คำที่อยากดุอยากพูดให้หล่อนเจ็บใจมลายหายไป เขากำลังจะใจอ่อนกับสีหน้าของหล่อน
“สงสัยอะไรอีกมั้ย ถ้าไม่มีไปเตรียมตัวทำงานบ้านได้แล้ว ถามจันทร์ว่าต้องทำอะไรบ้าง พรุ่งนี้ฉันจะให้จันทร์ไปทำงานในรีสอร์ท ส่วนเธอทำแทนจันทร์ทั้งหมด”
ปรายชลเบนสายตาจากคนบนเตียงมาที่ชายหนุ่ม ดวงตาขุ่นขึ้นมาทันที หล่อนไม่อยากตอบโต้กับเขาตอนนี้ หล่อนเดินเข้ามาใกล้เตียง ทรุดนั่งบนขอบเตียงแล้วยกมือไหว้คนหลับ
“หนูขอโทษที่เสียงดังรบกวนคุณนะคะ”
“ออกไปได้แล้ว” ภูชิสส์สั่งเสียงเข้ม
“คุณแม่คุณชื่ออะไร ฉันจะได้เรียกท่านถูก” หล่อนลุกยืนเดินห่างจากเตียง
“ชื่อภาวินี เรียกคุณนีก็ได้”
เขาตอบห้วนๆ แล้วเดินนำออกจากห้อง หล่อนมองภาวินีอีกครั้งก่อนก้าวตามผู้ชายที่หล่อนไม่แน่ใจว่าเขาเป็นเจ้านายของหล่อนตั้งแต่เมื่อไหร่และหล่อนยอมเขาง่ายๆ อย่างนี้ได้อย่างไร ปรายฟ้าตกลงกับภูชิสส์แบบไหน เขาจึงให้งานสาวใช้กับหล่อน หล่อนต้องถามพี่สาว
โทรศัพท์มือถือถูกดึงจากกระเป๋ากางเกงยีนแต่ยังไม่ทันกดโทร.ออก มือแข็งแรงของชายหนุ่มก็คว้าโทรศัพท์เครื่องเล็กไปถือไว้
“เวลานี้เป็นเวลาทำงานของเธอ ห้ามโทรศัพท์คุยกับใครทั้งนั้น”
“จะมากไปแล้วนะ ฉันเพิ่งมาได้วันเดียวจะให้ทำงานเลยรึไง ฉันไม่บ้าไปกับคุณหรอก ฉันจะเริ่มงานพรุ่งนี้แล้วก็เอาโทรศัพท์ฉันคืนมา ฉันจะถามพี่ฟ้าว่าให้ฉันมาทำงานกับคนผิดรึเปล่า”
“ไม่ผิดหรอก ฉันนายภูชิสส์ อดิศักดิ์โกศล ประธานกรรมการบริหารโรงแรมภูดาวแอนด์รีสอร์ทคนใหม่ พี่สาวเธอเข้าใจฝากนะ คงอยากให้น้องสาวทำงานใกล้ๆ กับท่านประธาน ได้ทำใกล้สมใจแน่ มานี่”
เขาคว้าข้อมือหล่อน กระชากให้ก้าวตามไปทางปีกซ้ายของบ้านและมาหยุดยืนหน้าห้องริมสุด จันทร์ยืนรออยู่ในห้อง
“นี่ห้องเธอ มันไม่สบายเหมือนบ้านราคาสี่ห้าล้านของเธอหรอกนะ จันทร์สอนงานให้ยายนี่เดี๋ยวนี้แล้วเตรียมอาหารให้ฉันด้วย พรุ่งนี้เธอไปทำงานที่รีสอร์ท งานในบ้านเป็นหน้าที่ของปรายชลคนเดียว”
“เอ่อ..ค่ะ”
จันทร์รับคำสั่งแบบไม่เข้าใจ ภูชิสส์เดินออกไป หล่อนจึงหันมามองหญิงสาวที่จะมาทำหน้าที่สาวใช้แทนหล่อน
“เธอชื่อปรายชลเหรอ”
“จ้ะ”
“ทำอะไรให้คุณชิสส์โกรธเหรอ ปกติคุณชิสส์ไม่เป็นแบบนี้ ให้เกียรติผู้หญิง ไม่ดุด่าหรือตะคอกใส่ใคร ทำไมวันนี้ตะคอกใส่เธอเหมือนโกรธกันมาสักสิบชาติงั้นแหละ”
จันทร์จ้องหน้าปรายชล มองอย่างไรก็ไม่ใช่สาวใช้ ถ้าให้ไปเป็นเลขาฯจะเหมาะสมกว่าแล้วทำไมหญิงสาวหน้าตาดีคนนี้จึงมาเป็นสาวใช้และเป็นสาวใช้ที่เจ้านายเกลียดเสียด้วย
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันคิดว่าเขาจะให้ไปทำงานในโรงแรม ทำไมเขาทำกับฉันอย่างนี้ก็ไม่รู้”
หญิงสาวเดินไปนั่งบนเตียงแคบๆ ติดผนังห้องตรงข้ามกับเตียงเป็นโต๊ะเครื่องแป้งราคาถูก เก้าอี้พลาสติกวางอยู่ข้างกัน ตู้เสื้อผ้าไม้อัดอยู่ถัดไปทางด้านปลายเตียง ใกล้กับประตูทางเข้า ห้องนี้เป็นห้องคนรับใช้ หล่อนต้องนอนห้องนี้ ต้องเป็นสาวใช้จริงๆหรือ
“พี่จันทร์ เจ้านายพี่เป็นโรคประสาทรึเปล่า”
“เฮ้ยบ้า..ไม่ได้เป็น คุณชิสส์ปกติดีทุกอย่าง อารมณ์ดีด้วยแต่พอคุณผู้ชายเสีย คุณชิสส์ก็เงียบขรึม เก็บตัวเงียบ ไปทำงานก็ไม่ค่อยยิ้มกับใคร”
“ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน ไปทำงานเถอะ เดี๋ยวคุณชิสส์เอ็ดแกอีก แล้วตกลงจะให้ฉันเรียกคุณปรายชลใช่มั้ย”
“เรียกปรายก็พอพี่”
ปรายชลกวาดสายตาไปรอบห้องอีกครั้งแล้วหันมามองหน้าจันทร์
“ห้องคนใช้เล็กเท่ากันทุกห้องหรือเปล่าพี่”
“ห้องพี่ใหญ่กว่านี้ ห้องนี้เป็นห้องเก่าพี่ อยู่ได้มั้ยล่ะ”
“ไม่ได้ก็ต้องได้” หล่อนถอนหายใจเฮือก ลุกขึ้นยืน
“เก็บเสื้อผ้าซะแล้วไปที่ครัวเตรียมอาหารให้คุณชิสส์กับคุณผู้หญิง”
จันทร์บอกกับสาวใช้คนใหม่เสร็จก็เดินออกจากห้องซึ่งปรายชลบอกว่าแคบไป หญิงสาวเปิดกระเป๋า ความคิดจะได้ชุดเครื่องแบบของโรงแรมหรือไม่ก็รีสอร์ทภูดาวสลายไป หล่อนเตรียมเสื้อผ้ามาไม่กี่ชุดสำหรับใส่อยู่กับบ้านเท่านั้น มือดึงกางเกง เสื้อและเครื่องใช้ส่วนตัวออกจากกระเป๋า จัดวางบนโต๊ะเครื่องแป้งและเก็บในตู้เสื้อผ้าเรียบร้อยจึงออกจากห้อง
“ครัวอยู่ซีกไหน ซ้ายหรือขวา”