บทที่ 5 สัญญา
“ขอบใจทำไมคะ เราต้องช่วยกันค่ะ พี่ฟ้าไม่ต้องกังวลหรอกนะคะ ปรายจะช่วยหาเงินมาผ่อนธนาคารเองค่ะ” ปรายชลหันมายิ้มกับพี่สาวแล้วหมุนตัวก้าวเร็วๆ ออกจากห้องไป
“พี่ขอโทษ” ปรายฟ้าเอ่ยออกมาพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
ฟอร์จูนเนอร์สีขาวแล่นเข้ามาจอดหน้าประตูรั้วไม้ คนขับบีบแตรสองครั้ง ประตูรั้วก็เปิดออก อรุณดึงบานประตูเลื่อนไปข้างหนึ่ง รอให้รถแล่นผ่านเข้าไปด้านในจึงเลื่อนปิด ภูชิสส์ดับเครื่องยนต์ เมื่อพารถเข้ามาจอดหน้าบ้าน เขาเปิดประตูก้าวลงจากรถ อรุณเดินมาถึงยิ้มให้กับเขา
“เชิญข้างในครับ คุณฟ้ารออยู่ครับ”
“ขอบใจมากลุง”
เขาก้าวยาวๆ ขึ้นบันไดเดินตรงไปทางห้องรับแขก ปรายฟ้าลุกขึ้นยืนต้อนรับเขา ใบหน้าของหล่อนซีด รอยยิ้มไม่สดใส เขาเข้าใจดีว่าเป็นเพราะอะไร ซองสีน้ำตาลที่เขาหยิบจากเบาะหลังวางลงบนโต๊ะกระจก ดวงตาสีเข้มจ้องใบหน้าเซียวของเจ้าของบ้านสาว
“ผมเซ็นมาเรียบร้อยแล้ว คุณอ่านแล้วก็เซ็นซะ ทีแรกผมจะไปรอคุณที่สปาแต่คุณจะให้ผมมารับน้องสาวคุณไปด้วย ผมก็เลยมาบ้านคุณทีเดียว จะได้ไม่เสียเวลาย้อนไปย้อนมา”
ปรายฟ้าไม่พูดอะไร หล่อนเปิดซองดึงแผ่นกระดาษออกมา 2 แผ่น ตัวหนังสือในกระดาษเหมือนกันทั้ง 2 แผ่น หล่อนอ่านเร็วและเซ็นชื่อลงด้านบนตรงที่มีชื่อนามสกุลของหล่อนอยู่แล้วเก็บใส่ซองส่งคืนให้เขา อีกแผ่นหล่อนคว่ำหน้าไว้บนโต๊ะ เรื่องนี้ปรายชลจะรู้หรือสงสัยไม่ได้เด็ดขาด
ภูชิสส์ยิ้มพอใจวางซองลงบนโต๊ะอย่างใจเย็น เขามองไปทางประตูเข้าด้านในตัวบ้านแล้วหันมาถามปรายฟ้า
“คุณจะให้น้องคุณไปพร้อมผมไม่ใช่หรือ”
“ค่ะ ฉันจะไปเรียกแกก่อน” ปรายฟ้าลุกขึ้นยืนเสียงสดใสก็ดังมาจากประตู
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ปรายมาแล้ว”
ภูชิสส์เงยหน้ามองไปทางต้นเสียงแล้วเขาก็ต้องจ้องนิ่งที่ใบหน้าของผู้เพิ่งก้าวผ่านประตูเข้ามา นี่หรือตัวจริงของปรายชล ตัวจริงในระยะใกล้ไม่ใช่แอบดูอยู่ในรถเมื่อวันก่อน หล่อนงดงามหมดจดเช่นในภาพถ่ายแต่น่ารักกว่า ดวงตากลมเป็นประกายวับวาว ผมยาวถูกรวบมัดไว้ที่ท้ายทอย เสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายสก๊อตสีเขียวสลับขาวแซมด้วยสีน้ำเงิน กางเกงยีนสีซีด กระเป๋าสะพายเป็นเป้สีเขียวขี้ม้า ท่าทางออกไปทางทอมบอยมากกว่าเป็นหญิงสาวอ่อนหวานเช่นปรายฟ้า เขากะพริบตาเมื่อหญิงสาวที่เขาเผลอจ้องมองจนลืมมารยาทพูดขึ้น
“ที่หน้าฉันมีสัตว์ประหลาดอยู่เหรอคะ”
“ยายปราย ไม่เอาน่ะ คุณภูชิสส์คะ นี่ปรายชล น้องสาวฉันค่ะ ปราย นี่คุณภูชิสส์ เขาแวะมารับปราย”
ปรายฟ้ารีบแนะนำน้องสาวกับภูชิสส์ เขายิ้มบาง ดวงตาไหววับมีเลศนัยบางอย่างที่ปรายชลเห็นแล้วต้องย่นคิ้วใส่เขา ดวงตาสีเข้มไม่ได้มองหล่อนแบบชื่นชมแต่มันแฝงด้วยความเจ้าเล่ห์และเย้ยหยัน หล่อนไม่ชอบหน้าผู้ชายคนนี้เสียแล้วสิ
“ยินดีที่ได้รู้จักคุณปรายชล ผมขอเรียกคุณปรายเหมือนที่คุณปรายฟ้าเรียกก็แล้วกันนะ คงไม่ว่านะ”
เขายื่นมือไปข้างหน้าแต่หล่อนไม่ส่งมือมาสัมผัสกับเขา หล่อนยกมือไหว้อย่างไม่เต็มใจเท่าไรนัก เขายิ้มทั้งใบหน้า ผู้หญิงตรงหน้าของเขาคนนี้ไม่ธรรมดา หล่อนไม่ชอบเขา
“ฉันฝากยายปรายด้วยนะคะคุณภูชิสส์” ปรายฟ้าเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นหน้าน้องสาวงอง้ำ
“ครับ ผมจะดูแลอย่างดี”
“จะมาดูแลฉันทำไม ฉันไม่ได้เจ็บป่วยนะคุณถึงจะต้องมาดูแล พี่ฟ้าก็เหมือนกัน ฝากเขาดูแลปรายทำไม ปรายไปทำงาน ไม่ได้ไปนั่งๆ นอนๆ ให้คนเลี้ยง”
ปรายชลโพล่งออกมา หล่อนจ้องตาคมของภูชิสส์ไม่หลบ ดวงตาคู่เข้มนั้นมีอะไรบางอย่างทำให้หล่อนต้องเบือนหนีในเวลาต่อมา เขายิ้มบางแล้วลุกขึ้นยืน
“ผมขอตัวก่อน ถ้าคุณฟ้าคิดถึงน้องสาวก็เชิญที่ภูดาวได้นะครับ”
“ค่ะ ขอบคุณคุณภูชิสส์นะคะ ยายปรายตั้งใจทำงานนะ เอาไว้พี่จะไปเยี่ยม”
“ค่ะ ปรายไปนะคะ”
หญิงสาวไหว้พี่สาวที่หน้าอกแล้วกอดร่างบางแน่น รู้สึกใจหายชอบกล หล่อนไม่เคยอยู่ห่างพี่นานเกิน 3 วันแต่วันนี้หล่อนกำลังจะไปอยู่ที่อื่นซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้กลับมาอยู่บ้านหลังนี้เช่นเดิม หากปีเดียวหล่อนกับพี่สาวไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้ธนาคารได้ หล่อนก็ต้องทำต่อไปเรื่อยๆ เรื่องเรียนต่อคงต้องยุติลงเพียงแค่นี้
“โชคดีนะน้องรัก”
ปรายฟ้าอวยพรน้องสาวทั้งน้ำตา ใจหายเมื่อน้องเดินตามภูชิสส์ออกไป หล่อนตามมาส่งถึงรถ โผเข้ากอดน้องอีกครั้ง พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล
“ค่ะพี่ฟ้า”
ปรายชลพูดได้แค่นั้นเพราะน้ำตาเริ่มจะกลบดวงตาคู่สวยทั้งดวงแล้ว หล่อนเปิดประตูก้าวขึ้นไปนั่งเบาะหน้าข้างคนขับ รถแล่นออกจากบ้านของหล่อนช้าๆ หล่อนป้ายน้ำตาเมื่อรถแล่นพ้นประตูรั้ว อรุณยืนมองตามท้ายรถจนรถแล่นห่างออกไปจึงปิดประตู
สำอางเล่าให้เขาฟังคร่าวๆ ว่าปรายฟ้าฝากงานให้ปรายชลทำที่โรงแรมทางเขาใหญ่แต่ไม่คิดว่านายหญิงผู้น้องจะเดินทางวันนี้ มันเร็วจนเขากับภรรยางง เมื่อวานปรายชลเพิ่งไปฟังผลสอบเรียนต่อปริญญาโทและเหมือนจะสอบผ่านแต่ทำไมวันนี้ถึงได้ไปทำงานต่างจังหวัดแทนการไปลงทะเบียนเรียน