บทที่ 3 ข้อเสนอ
แขกหนุ่มไม่ลุกขึ้นยืนเพื่อให้เกียรติหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของบ้าน เขาควรให้เกียรติกับคนที่ทำให้พ่อของเขาตายอย่างนั้นหรือ ไม่ทีทางเสียละ นอกจากไม่ลุกขึ้นยืนแล้ว ดวงตาสีเข้มยังกวาดไปบนใบหน้าเซียวของปรายฟ้าและไล่ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าและจากปลายเท้าถึงใบหน้าของหล่อน
“รู้จักบ้านฉันได้ยังไงคะ” หล่อนถามแขกขณะเดินไปทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามกับเขา
“มีอะไรบ้างที่ผมอยากรู้แล้วไม่รู้” เขาตอบเสียงเครียด รอยยิ้มระบายบนดวงหน้านั้นหยันอยู่ในที
“คุณมีธุระอะไรไม่ทราบ”
เสียงถามค่อนข้างกระด้าง ใบหน้าเรียบเฉย หล่อนอ่านสายตาเหยียดหยันของเขาออก เขามองหล่อนเป็นผู้หญิงหิวเงิน ใช้ตัวแลกเงินไปแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่หล่อนจะต้องอธิบายให้เขาฟังเพราะถึงพูดไป เขาก็ไม่เชื่อหล่อน เขาตัดสินหล่อนให้เป็นฆาตกรไปแล้ว หล่อนไม่มีทนายแก้ต่าง ไม่มีพยานรู้เห็นความบริสุทธิ์ใจของหล่อน ทำอย่างไรเขาก็ไม่มีวันเชื่อว่าหล่อนไม่ได้ใช่เล่ห์มารยาทำให้เดชาหลงใหลนำไปสู่ความตายในครั้งนี้
“ถ้าไม่มีธุระสำคัญ ผมคงไม่ขับรถจากภูดาวมาถึงนี่หรอกนะ ผมมีข้อเสนอมาให้คุณ”
“ข้อเสนอ ข้อเสนออะไรคะ” หล่อนย่นหัวคิ้ว ถามเขาอย่างสงสัย เขาแค่นยิ้ม เบ้ปากนิดหนึ่ง
“ข้อเสนอที่คุณจะหลุดพ้นจากหนี้ครึ่งร้อยล้านแล้วก็มีเงินหมุนเวียนทำสปาที่คุณรักต่อไปไงล่ะ สนใจมั้ย”
เขายิ้มหยันอีกเช่นเคย สบตาคู่สวยของหล่อนแต่น้อยกว่าน้องสาว ภาพใบหน้าปรายชลผ่านแวบเข้ามา เขาหุบยิ้มแล้วพูดต่อ
“ถ้าสนใจ ผมจะพูดรายละเอียดแต่ถ้าไม่สนใจผมจะกลับ ไม่รบกวนเวลาว่างๆ อันมีค่าของคุณหรอก”
ปรายฟ้าจ้องหน้าเข้มของผู้ชายที่นั่งยิ้มอยู่ตรงหน้า ดวงตาของเขานิ่งไม่ล้อเล่น เขามีข้อเสนออะไรจึงมาพบหล่อนถึงบ้านและรู้ได้อย่างไรว่าหล่อนอยู่ที่นี่
“ฉันอยากฟังรายละเอียดของคุณ”
“คุณสนใจแล้วใช่มั้ย” เขายิ้มบาง หัวเราะหึๆ ในลำคอ
“ใช่ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะตกลง”
“ได้ ฟังอย่างเดียวก็ได้”
ภูชิสส์ยิ้มอีกก่อนจะพูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเสนอที่เขาเพิ่งตั้งมันขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี่เอง จะเรียกว่าทันทีที่เขาเห็นหน้าปรายชลเต็มสองลูกตาของเขาก็ได้ เขาชอบน้องสาวปรายฟ้า ชอบมากจนไม่สามารถทนนั่งมองเฉยๆ อยู่ได้ เขาต้องได้ตัวปรายชลมาเป็นของเขาและต้องเร็วๆ นี้ด้วย
ปรายฟ้านั่งนิ่งอึ้งไปหลายวินาทีเมื่อฟังข้อเสนอของภูชิสส์จบลง หน้าตาของเขาดีจนไร้ที่ติ ชาติตระกูลก็จัดได้ว่าเป็นลูกผู้ดีแต่ทำไมความคิดถึงได้ร้ายกาจเช่นนี้ เขาคิดทำร้ายลูกผู้หญิงอย่างเลือดเย็น หล่อนยอมทำตามข้อเสนอของเขาไม่ได้ มันโหดร้ายกับความรู้สึกของหล่อนมากเกินไป
“ว่าไง ตกลงทำตามข้อเสนอของผมมั้ย ถ้าตกลงผมจะโอนเงินเข้าบัญชีของคุณวันพรุ่งนี้ คุณจะได้เอาเงินไปใช้หนี้ก่อนที่เขาจะยึดทุกอย่างจนไม่มีอะไรเหลือแม้แต่ชื่อเสียง”
“ไม่..ฉันไม่ทำตามข้อเสนอบ้าๆ ของคุณหรอก คุณมันเห็นแก่ตัว เอาเปรียบผู้หญิง ยังไงฉันก็ไม่รับ คุณกลับไปได้แล้ว”
“คิดให้ดีๆ นะปรายฟ้า ธนาคารให้เวลาคุณหาเงินกี่วัน แค่อาทิตย์เดียวไม่ใช่เหรอ”
เขาลุกขึ้นยืนจ้องหน้าหญิงสาวแล้วยิ้มบาง นักสืบบอกกับเขาว่า ธนาคารที่ปรายฟ้าเป็นลูกหนี้ยืดระยะเวลาใช้หนี้อีกหนึ่งสัปดาห์เท่านั้นซึ่งปรายฟ้าไม่มีทางหาเงินก้อนใหญ่มาชำระหนี้ได้ทัน ยกเว้นหล่อนจะให้เสี่ยใหญ่ที่ไหนสักคนช่วยและหล่อนก็ต้องยอมรับการเป็นภรรยาน้อยจากเสี่ยคนนั้นโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ
“ผมขอตัว รบกวนคุณนานเกินไปแล้ว”
เขายิ้มขณะก้าวออกจากห้องโถง เขามั่นใจว่าปรายฟ้าต้องนำข้อเสนอของเขามาทบทวนอีกครั้ง เขาจะให้เวลากับหล่อน นามบัตรที่เขาวางไว้บนโต๊ะรับแขกก่อนจะเดินออกมาคือส่วนหนึ่งของแผนการครั้งนี้ ปรายฟ้าต้องไม่ฉีกมันโยนทิ้งถังขยะอย่างแน่นอน เขาจะพ่ายแพ้ในเกมแรกทีเดียวหรือ มันไม่ใช่อย่างนั้นแน่ๆ เขาหัวเราะแล้วเปิดประตูรถก้าวเข้าประจำที่คนขับพารถออกจากหน้าประตูรั้วบ้านปรายฟ้า รอยยิ้มยังคลี่กระจายเต็มใบหน้าเข้ม
ปรายฟ้าหยิบแผ่นกระดาษเล็กสีเงินขึ้นมามอง ภูชิสส์ อดิศักดิ์โกศล ประธานกรรมการบริหารโรงแรมภูดาวแอนด์รีสอร์ท หล่อนอ่านทวนชื่อชายหนุ่มหลายครั้งแล้ววางลงที่เดิม เสียงถอนหายใจเฮือกดังขึ้นและทุกอย่างภายในห้องรับแขกก็เงียบสนิท ครู่หนึ่งหล่อนหยิบนามบัตรของภูชิสส์ขึ้นมาแล้วลุกเดินออกจากห้อง
“ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้หรือคุณภูชิสส์”
หล่อนพึมพำกับชื่อของชายหนุ่มแล้วถอนหายใจอีกหลายครั้ง หล่อนต้องตัดสินใจภายใน 3 วัน หากรอครบอาทิตย์มันอาจสายเกินแก้ หล่อนยอมให้ธนาคารยึดบ้านของหล่อนไม่ได้ นางสาวปรายฟ้า มณีกาล จะกลายเป็นคนล้มละลายไม่ได้โดยเด็ดขาด