CHAPTER 8
ทว่าในตอนนี้นัยน์ตาของมุกตาภาร้าวราน เธอไม่ทำอะไรผิดกันแน่
“อย่ามาปากดี ตีหน้าเศร้า ผู้หญิงหิวเงินแบบเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะน้องชายฉันเป็นคนจนก็คงไม่สลัดหนี จะบอกอะไรให้รู้อย่าง แดนไม่ได้จนอย่างที่เธอคิด ฉันชื่อนายเหมราชที่เป็นคนมีอำนาจที่สุดบนเกาะแห่งนี้”
“ฮึ... มันน่าตลกนัก แดนที่น่ารักน่าคบหา ไม่น่าจะมีพี่ชายแบบคุณเลย แดนออกจะนิสัยดี มีแต่ความอ่อนโยน แต่ดูตัวคุณสิ ใจยักษ์ ใจมาร เที่ยวปรักปรำคนอื่น และยังทำตัวไม่มีการศึกษา คนแบบคุณมันน่าจะเกิดมาจากคนละพ่อละแม่มากกว่า ไม่น่าเป็นคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่ชายของแดนด้วยซ้ำ”
เหมราชไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แค่นี้ เมื่อถูกเขาต้อนจนมุม จะลุกขึ้นสู้เถียงเขาแบบสู้ยิบตา ความดันทุรังอีกทั้งความโกรธที่พลุ่งพล่าน ชายหนุ่มมีหรือจะยอมให้หล่อนมายืนเถียง
“ดูท่า การที่ฉันพาเธอมาที่นี่ เธอคงจะไม่สำนึกสินะ ก็ได้ ในเมื่ออยากจะท้าทายคนอย่างฉัน ฉันจะทำให้เธอรู้ฤทธิ์เดชว่าอย่ามาปากดีกับเหมราช”
ไม่รู้เหตุผลกลใด ทั้งที่ปากบอกว่าชิงชัง แต่ใบหน้าเข้มของเขากับคลุกลงไปในซอกคอขาว ๆ ของเธอ ฝ่ามือหนาตวัดขจับสะโพกกลมมนและดึงตัวของมุกตาภาเข้าหาตัว
หญิงสาวพยายามดิ้นรนและขัดขืน สองมือน้อย ๆ ดันใบหน้าของเขาออกห่าง เหมราชได้สติผละจาก แต่ก็ไม่วายพูดต่อ
“ในเมื่อวันนี้ เธอก็ได้รู้แล้วว่า เขาตายเพราะเธอ ถ้าอย่างนั้นก็อย่าเสียเวลาเลย ไหน ๆ เธอก็ต้องรู้ว่าฉันจะลงโทษเธอ มุกตาภาเตรียมตัวเตรียมใจรับการลงโทษจากฉันได้เลย”
“หยุดนะ จะพาฉันไปไหนอีก ฉันไม่ไปนะ ไม่ไป ไม่ไป๊”
มุกตาภาถูกลากตัวไปตามพื้น จนขาพับขางอ เธอเพิ่งฟื้นจากยาสลบ ทว่าชายที่ชื่อเหมราชกับไม่ปรานีเลย
“โอ้ย” เธอร้องบอกเขาไปตลอดทาง ต้องพยุงตัวเองให้เดินตามแรงลากจูงของชายหนุ่ม เท้าเล็ก ๆ ของเธอไม่มีอะไรรองเนื้อบาง ทั้งเจ็บทั้งปวดกับการเหยียบลงไปกับพื้นที่ไม่เสมอกัน บาครั้งเท้าน้อย ๆ ก็เหยียบกิ่งไม้ที่ความแหลมคมเข้า
“โอ้ย! คุณ... เท้าฉัน เจ็บ โอ้ย ๆ”
เสียงก็อบแก็บของการเหยียบกิ่งไม้หัก
“แค่นั้นมันไม่ทำให้เธอถึงตายหรอก แดนเจ็บมากกว่านั้นหลายร้อยเท่าพันเท่า”
“ไอ้บ้ามีเหตุผลหน่อยได้ไหม คุณจับตัวฉันมาด้วยความเข้าใจผิด ยังมีหน้ามาทำให้ร่างกายฉันได้รับบาดเจ็บอีก ฟังจากคำพูดของคุณ ก็ไม่น่าใช่คนไม่มีการศึกษา แต่ทำไมถึงได้ทำเรื่องป่าเถื่อนโหดร้ายได้ลงคอ ฉันเป็นเพศเดียวกับแม่ของคุณนะ”
คำว่า ‘แม่’ ยิ่งเสียดแทงใจ แม่หนีเขาไปกับชู้รัก ไปเริ่มครอบครัวใหม่ เพราะแพศยา
นี่เป็นสิ่งที่อยู่ในใจของเหมราชมาตลอด
มุกตาภาผิดแล้วที่จี้ใจดำของเขา
เหมราชหยุดเดินทันที ร่างตระหง่านสูงใหญ่เอี้ยวหน้าหันกลับมามองคนข้างตัวด้วยแววตาดุร้าย
“ถ้านี่เรียกว่าฉันป่าเถื่อน เธอจะได้เห็นว่าคนอย่างฉันทำอะไรที่เรียกว่าป่าเถื่อนได้มากกว่าที่เธอคิด”
เขายังลากเธอแบบถูลู่ถูกังลาก จนกระทั่งพาเธอมาถึงริมหาด ระดับน้ำกลางคืนขึ้นสูง คืนพระจันทร์เต็มดวง น้ำเต็มตลิ่ง และหาดทราย
ท้องทะเลเวิ้งว้างเบื้องหน้า มองไกลไปสุดลูกหูลูกตาล้วนน่ากลัว ร่างของมุกภาตาถูกกระชากเหวี่ยงลงไปในน้ำทะเล ร่างกายทั้งร่างเปียกปอน น้ำเค็มเข้าหูเข้าตา เพราะไม่ทันระวัง แถมพอลุกขึ้นยืน เมื่อตั้งตัวได้ ลมที่พัดผ่านก็พาทำให้หนาวสั่นไปทั้งร่าง
“หนาวไหมล่ะ เย็นใช่ไหมล่ะ น้ำทะเลตอนกลางคืนน่ะ รู้ไหมว่าน้ำทะเลน่ากลัวที่สุด ก็คือตอนกลางคืนนี่ล่ะ”
มุกภาตาหันซ้ายหันขวา ด้วยความที่ตนเป็นเด็กที่เติบโตมาจากในเมือง ไม่คุ้นเคยกับท้องทะเลเหมือนลูกชาวเล เธอได้แต่หวาดหวั่น และคนตรงหน้าที่ใจร้ายกับเธอ ผลจะเป็นอย่างไร ..........“นี่คุณจะทำอะไรฉันน่ะ เอาฉันมาแช่น้ำแบบนี้ทำไมกัน”
“เป็นการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองไง หนาวใช่ไหมล่ะ งั้นคืนนี้ลองนอนริมหาดทั้งที่ตัวเปียก ๆ แบบนี้ดูนะ จะได้รู้ว่าตอนที่แดนตกลงในร่องน้ำนั้น แล้วต้องนอนอยู่เกือบครึ่งคืน กว่าจะมีคนไปเจอ และไปช่วยขึ้นมาได้ แดนนั้น ทรมานขนาดแค่ไหน ฉันอยากให้เธอรับรสชาติเดียวกัน”
เหมราชหมุนตัวเดินกลับไปอย่างไม่เหลียวหลัง ทิ้งให้มุกตาภาที่วิ่งตามมาจากทางด้านหลังร้องเรียก แต่กว่าจะขึ้นมาจากน้ำได้ ชายหนุ่มก็เดินหายเข้าไปในความมืดและดงไม้เสียแล้ว