CHAPTER 5
ในเวลาต่อมา
ความหนักอึ้งในสมองยังคงกดทับ แต่ประสาทรับรู้และระแวดระวังอันตรายยังคงส่งผลให้มุกตาภาฝืนพาตัวเองลืมตาขึ้น สิ่งที่เธอเห็นด้วยสายตา ภายในห้องสี่เหลี่ยมคับแคบ เป็นการมุงหลังคาด้วยไม้ไผ่สานและไม้มุง มันไม่ใช่สภาพที่เคยเห็นในบังกะโลที่จับจองไว้เป็นที่พัก
“ที่นี่ที่ไหน?” คำถามวนเวียนขึ้นมาเต็มสมอง
มุกตาภาพยายามขยับกาย แต่ฤทธิ์ยาสลบยังทำให้เธอมึนศีรษะจนตัวเองพลิกกลิ้งร่วงลงจากเตียง
“โอ้ย เจ็บ!”
“ฮึ... ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงที่เคยได้ยิน แม้แค่เพียงครั้งเดียวที่เรียกชื่อของเธอแต่ก็จำได้ และความทรงจำสุดท้าย เขาทำให้เธอหมดสติ ร่างเล็กรีบพลิกตัวขึ้นนั่ง หันมามองเขา
“คุณ” คนที่เจอที่ชายหาด
“คุณพาฉันมาที่นี่ทำไมกัน?” ด้วยความตกใจจึงแผดเสียงออกไป
“เธอคงไม่ได้เป็นอะไรมากแน่ ถึงยังเสียงแจ๋วแผดเสียงได้ลั่นขนาดนี้” ดวงตาดุบนใบหน้าที่ยิ้มหยันมองแบบไม่ชอบหน้าเธอ มุกตาภากลัวจนตัวสั่น
“คุณตอบมาก่อนว่าที่นี่ที่ไหน แล้วพาฉันมาทำไม คุณคงไม่ใช่โจรลักพาตัวหรอกใช่ไหม? รู้เอาไว้เถิด ครอบครัวฉันไม่มีเงิน”
“หา! หน้าอย่างฉันนี่มันเหมือนโจรมากเลยหรืออย่างไร ฮึ-ฮึ แล้วฉันก็รู้ว่าเธอไม่มีเงิน ครอบครัวก็จนตรอก ถึงกับขายตัวเองแต่งงานกับคนคราวพ่อ ผู้หญิงหน้าเนื้อใจเสือ ใครเห็นใบหน้าหวาน ๆ ของเธอ แล้วจะคิดบ้างว่า ผู้หญิงหน้าตาใสซื่อบริสุทธิ์แบบนี้ จะเป็นผู้ร้ายทำลายให้คนดี ๆ อย่างน้องชายฉัน ต้องเสียสติ จนรถประสบอุบัติเหตุ แล้วตาย! เธอฆ่าเขาได้”
ชายหนุ่มกระชากผ้าคลุมรอบห้องออก ปรากฏรูปของลาดิศร์ที่ใส่กรอบ ติดประดับอยู่เต็มข้างฝา
“นั่น... นั่นมันรูปของแดน นี่คุณเป็นอะไรกับเขา แล้วแดนเป็นอะไร” มุกตาภา เพิ่งได้ข่าวว่าเขาประสบอุบัติเหตุ และที่แน่ ๆ เธอยังมึนยาที่เขาโปะลงมาให้เธอหมดสติ การรับรู้ยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งของเธอที่เคยมี
แดน หรือว่า ลาดิศร์ รุ่นน้องในคณะหนึ่งปี ที่เธอรู้จัก ต้องบอกว่ารู้จักดี เพราะลาดิศร์ประกาศกับทุกคนว่าจีบเธอ ทว่ามุกตาภาให้ได้แค่ความเป็นเพื่อนรุ่นน้องเท่านั้น
“ฮึ... เธอคงจะตกใจมากสินะ ที่มาเห็นแบบนี้ ทำไมหรือ? เธอกลัวจะมีคนรู้เรื่องความชั่วช้าเลวทรามที่ตัวเองทำไว้งั้นสินะ หักอกผู้ชายคนหนึ่งที่รักเธอมาก แต่เธอวิ่งไปแต่งงานกับผู้ชายแก่คราวพ่อ เพื่อเงินเท่านั้น นางแพศยา นางผู้หญิงหน้าเงิน” เขากล่าวหาเธอร้ายแรง
มุกตาภาเอาแต่ส่ายหน้า เพราะนั้นไม่ใช่ความจริง ผู้ชายคนนี้กำลังเข้าใจผิด เธอไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับลาดิศร์มากกว่าคำว่าเพื่อนรุ่นน้อง และมุกตาภาก็มั่นใจว่า เธอไม่เคยให้ความหวังใด ๆ กับลาดิศร์ด้วยซ้ำไป
“หยุดนะ คุณไม่มีสิทธิ์มากล่าวหาฉันแบบนี้ คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าระหว่างฉันกับแดน เราเป็นเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องที่ดีต่อกันมากขนาดไหน”
“เพื่อนอย่างนั้นเหรอ น่าสมเพชเหลือเกิน นี่ล่ะผู้หญิงตอนโหยหาอ้อนวอนบนเตียงก็ให้เป็นอย่างหนึ่ง แต่พอได้เขาสมใจ ได้เก็บแต้มก็ให้เป็นแค่เพื่อน ยิ่งเมื่อเจอเป้าหมายใหม่ ที่ดีกว่า รวยกว่า ก็ถีบหัวส่ง ลดสถานะ ชิชะ... เพื่อนที่ดีต่อกันเหรอ โธ่เอ้ย! ทิ้งกันได้ลงคอ มุกภาตา... เธอโคตรนิสัยแย่ นางแพศยา!” ชายหนุ่มยังกล่าวหาเธอไม่สิ้นสุด
แค่ได้ยินคำถากถางและไม่เป็นความจริง มุกตาภาก็โกรธจนหน้าเขียว
เขาตรงเข้าไปหาเธอ พร้อมกับส่งมือจิกเรือนผมของมุกตาภาขึ้นจนเธอหน้าหงาย สองมือจับยึดมือของเขาเอาไว้แน่น สายตามองสบกับคนตัวใหญ่อย่างกริ่งเกรง หัวใจสาวเต้นตึก ๆ กลัวจนสุดหัวใจ
เมื่อเห็นหน้าเจ็บปวดบนดวงหน้าสวย เขายอมปล่อยแล้วตวัดมาจับแขนของมุกตาภาแทน เธอต้องยอมลุกขึ้นยืนตามแรงมือ แล้วเดินตามเขาออกไปนอกกระท่อม ไปไกลมากเชียว แม้แข้งขาจะอ่อนแรงแต่ก็ต้านแรงมือใหญ่ไม่ไหว
เขาหายใจแรง และแรงมือที่บีบลงมาอย่างรุนแรงจนลำแขนของเธอแทบจะหักออกเป็นเสี่ยง ๆ มุกตาภาถูกลากตัวไปตามพื้นทราย กว่าจะลุกขึ้นยืนได้ต้องถูกกระชากตัวให้ลุกเดินตาม เมื่อถูกพาตัวมาอย่างทุลักทุเลจนถึงหน้าผา ในความมืดสลัว