CHAPTER 3
ค่ำวันนั้น มุกตาภาขอตัวจากสองสาวเพื่อนรักออกไปเดินยืดเส้นยืดสายเพื่อย่อยอาหารที่หน้าหาด ซึ่งไม่ไกลจากเพื่อน ๆ ที่นั่งล้อมวงกินหมูกะทะ ที่รีสอร์ทมีไว้บริการ ทุกอย่างต้องปรับตามสถานการณ์ปัจจุบัน
หญิงสาวผูกผ้าบาติกสีสันสวยสดใส เข้ากับเสื้อเข้ารูปสีชมพูอ่อน ด้านบนเป็นเพียงเสื้อสายเดี่ยวสีเดียวกัน เธอเดินเล่นอยู่ริมหาดเพื่อทอดอารมณ์
มุกตาภานึกทบทวนถึงเรื่องที่ตนต้องแต่งงานเพื่อชดใช้หนี้ให้แก่บิดา ตามคำขอร้องของมารดา ไม่ว่าจะคิดวนในหัวไปมาทบทวนเพียงใด ตนก็ยังน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตายิ่งนัก ชีวิตของเธอ ไม่มีสิทธิ์เลือกขนาดนี้เลยหรือ ต้องก้มหน้ารับชะตากรรมเช่นนี้
ความฝันของเธอ ก็แค่อยากมีรักดีๆ และแต่งงานกับผู้ชายสักคน แต่ไม่คิดว่า... เธอจะไม่มีสิทธิ์
ดวงหน้าของมุกตาภาหม่นเศร้า หัวใจเคว้งคว้างเอามาก ๆ
“มาอยู่นี่เองยายมุก” เสียงของสราลี
“อ้าว... แล้วยายแป้งล่ะ”
“รายนั้นนะเหรอ สายเก็บกวาดอยู่แล้ว” ยิ้มให้กันตาหยี
“เพราะว่าของว่างมาแล้วน่ะสิ ฉันเลยเดินมาตาม นี่ก็กำลังโพล้เพล้ด้วย อย่าเดินไปไหนไกลเลยนะ ถึงจะมีหนุ่มชาวเลหล่อ ๆ ป้วนเปี้ยนนักก็เถอะนะ”
“แหม... ห่วงอยู่เรื่องเดียวเลยนะแก ไปก่อนเลย อีกเดี๋ยวฉันจะรีบตามไปนะ”
“อย่าให้รอนานน่า แล้วก็ถ้าเจอหนุ่มหล่อ แกก็อย่าลืมหนีบมาด้วยล่ะ” มุกตาภากลั้นขำ
แม้สราลีจะเป็นสาวร่างอวบระยะสุดท้าย แต่หัวใจของนางกลับมุ้งมิ้งน่ารักสดใส มุกตาภามองตามร่างของเพื่อนสาวอวบจนไปถึงที่โต๊ะหมูกระทะ
เมื่อหญิงสาวกลับมาอยู่ตามลำพังอีกครั้ง คำถามเดิมยังคงวนเวียน
‘พร้อมแล้วหรือกับการแต่งงาน?’
‘ฉันไม่พร้อมเลยสักนิด’ มุกตาภาตอบตัวเองออกมาโดยไม่ลังเล แต่หากไม่แต่งกับเสี่ยรุ่งเรือง แล้วหนี้พนันที่บิดาติดค้างอยู่นั้นจะทำเช่นไร
“มุกตาภา” เสียงทุ้มดังมาจากทางด้านหลัง เรียกให้หญิงสาวต้องหันตัวกลับไปมอง ทันทีที่หันกลับไปสายตาของหญิงสาวปะทะเข้ากับแผงอกกว้างแน่นหนั่นด้วยกล้ามเนื้อ