ตอนที่ 2 หรือมันคือแค่การแสดง (1)
2
หรือมันคือแค่การแสดง
ไตรทศออกจากห้องของเขมิกา ก็ลงที่มาสงบจิตสงบใจที่สวนหน้าบ้าน เขาต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่ไปหวั่นไหวกับเนื้อหนังมังสาของผู้หญิงคนนี้ คนที่เขาพร่ำบอกตัวเองว่าเกลียดแสนเกลียด
ตอนเด็กก็มาแย่งความรักของพ่อไปจากเขา พ่อโตมาเป็นสาวแรกแย้มก็คิดจะจับท่านไปทำสามี ไม่เท่านั้นยังคิดจะอ่อยเขาอีกคน
“ยัยเด็กใจแตกเอ๊ย! ” สบถด่า ก่อนจะเงยหน้ามองขึ้นไปบนห้องของเด็กสาวพลางถอนหายใจ ถึงจะไม่ชอบยังไงพ่อของเขาก็ยังชอบสั่งให้เขาทำนั่นทำนี่เพื่อผู้หญิงคนนี้บ่อยครั้งสิน่า
ไตรทศคิดอย่างไม่พอใจ ก่อนจะเดินเข้าบ้านไปชงกาแฟดื่ม เพราะหลังจากสอนการบ้านเขมิกาเสร็จ เขาก็ต้องอ่านหนังสือต่อตามที่ตัวเองตั้งเป้าเอาไว้ แม้ใครๆ จะบอกว่าเขาเก่งและความจำดี แต่สิ่งเหล่านั้นจะเกิดไม่ได้ถ้าขาดความขยัน ที่ตนหมั่นเพียรทำมาตลอด
เว้นช่วงระยะเวลานานพอสมควร ไตรทศก็กลับไปที่ห้องเขมิกา จากนั้นก็อธิบายข้อที่สองให้เด็กสาวฟังแล้วก็ผละออกมาเช่นเคย และทำเช่นเดียวกันกับข้อที่สามซึ่งเป็นข้อสุดท้าย ที่เขาคิดว่าจะไม่มาตรวจดูเมื่อหญิงสาวทำเสร็จ เพราะจากสองข้อแรกเขมิกาก็ทำมันออกมาได้อย่างถูกต้อง ดังนั้นข้อที่สามน่าจะไม่มีปัญหา
คิดเอาไว้อย่างนั้นแต่กลับไปอ่านหนังสือได้ครู่ใหญ่ก็อดไม่ได้ที่จะเดินกลับมาดูอีกครั้ง และพบว่าประตูมันยังถูกเปิดค้างเอาไว้ ส่วนเจ้าของห้องก็ฟุบหลับอยู่กับโต๊ะไปเสียแล้ว
ไตรทศถอนหายใจด้วยสีหน้าหงุดหงิด ไม่รู้เพราะความเคยชินหรือคำพูดของคนเป็นพ่อที่ถูกฝังอยู่ในหัวกันแน่ ในทุกๆ ครั้งเขาจึงไม่อาจละทิ้งผู้หญิงคนนี้ไปได้ เขาเดินเข้าไปและกำลังจะอ้าปากเรียก แต่เมื่อเห็นหญิงสาวที่นอนหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขทำให้ต้องหยุดชะงัก “แล้วทำไมไม่ไปนอนบนเตียงดีๆ นะ” ชายหนุ่มบ่น ก่อนค่อยๆ จับหญิงสาวแล้วช้อนอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน
“อื้อ...พี่ไตรใจร้าย” หญิงสาวครางงึมงำพร้อมกับซุกหน้าเข้ากับอกกว้าง ขณะที่มือก็โอบกอดลำตัวเขาเอาไว้แน่น
“หึ! ” ไตรทศทำเสียงขึ้นจมูก แล้วเดินนำร่างของหญิงสาวไปวางบนเตียง แต่ด้วยความที่ลืมไปว่าแขนทั้งสองข้างของเขมิกายังกอดเขาไม่ยอมปล่อย ทำให้ชายหนุ่มเสียหลังล้มลงไปทับร่างบอบบางนั้นอย่างไม่ตั้งใจ
ไตรทศนิ่งไปเล็กน้อย หลับตาพยายามข่มอารมณ์หงุดหงิดและความรู้สึกดีที่ได้สัมผัสความนุ่มนิ่มของกายสาวแรกแย้มเอาไว้
“ยัยบ้าเอ๊ย จะกอดไว้ทำไมเนี่ย” เขาสบถบ่นพร้อมกับยื่นมือไปข้างหลังแกะแขนทั้งข้างของเขมิกาออกจากลำตัว และด้วยสภาพล่อแหลมนี้เองทำให้ตอนชายหนุ่มขยับตัว ใบหน้าของเขาก็สัมผัสกับทรวงอกนุ่มนิ่มนั้นเข้าแบบพอดิบพอดี
และมันก็ยากที่หักห้ามใจไม่ให้สูดกลิ่นกายสาวเข้าไป เพียงแค่นั้นก็ทำให้ชายหนุ่มวัยกำหนัดถึงกับเลือดสูบฉีด แม้จะไม่มีพันธนาการในการดึงเขาไว้แล้ว ชายหนุ่มก็ยังไม่คิดจะผละออก อีกทั้งยังใช้จมูกซุกไซร้สูดกลิ่นหอมรัญจวนใจนั้นต่อ
“อื้อ...”
จนกระทั่งคนใต้ร่างครางออกมาพร้อมกับขยับตัว นั่นจึงทำให้สติของไตรทศที่กำลังจะกระเจิงกลับคืนมา และรีบผละออกจากร่างบางไปยืนหายใจหอบอยู่กลางห้อง
“วอนหาเรื่องเข้าคุกแล้วไหมล่ะ” ไตรทศตำหนิตัวเองเสียงกระเส่า ยกมือลูบหน้าแรงๆ แล้วเสยผม มองเขมิกาที่นอนหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอแล้วเดินไปดึงผ้าห่มขึ้นคลุมจนถึงคอ