บทที่ 8
ทางด้านคาเมลก็แสดงความดีใจออกหน้า เมื่อรู้ว่าณิชาดาไม่ใช่แม่ของเด็กน้อย เพราะเขารู้สึกถูกตาต้องใจร่างบางอรชรตั้งแต่ได้เห็นสาวน้อยนั่งร้องไห้อยู่หน้าร้านไอศรีม ยิ่งพอได้จูบริมฝีปากอิ่มแดงระเรื่อนุ่มนวลหวานล้ำ ก็ยิ่งทำให้เขาประทับใจมากยิ่งขึ้น และรู้ด้วยว่าเขาเป็นคนแรกที่ได้มอบจูบแรกให้กับสาวน้อยหน้าหวาน
พอได้รู้ว่าหญิงสาวยังไม่มีพันธะ ทำให้คาเมลรู้สึกหวงแหนอยากเป็นเจ้าของร่างบาง ไม่อยากให้ใครได้แตะต้องหญิงสาวนอกจากเขาเพียงคนเดียว
“นี่! พากันถอนหายใจทำไม วางแผนจะหลอกหลานฉันต่อหรือยังไง”
ณิชาดาหันมาต่อว่าคาเมล ที่ยิ้มทั้งปากและดวงตาให้กับเธอ
“ใครเขาหลอกหลานคุณล่ะ ฮันนี่ ก็บอกแล้วว่าพวกผมกำลังช่วยตามหาน้องบลูอยู่ พวกเราเป็นคนดีนะ” คาเมลส่งสายตาหวานเชื่อมให้ณิชาดาอีกครั้ง
“ช่วยตามหาจริงหรือ พวกคุณเจอน้องบลูแล้วทำไมไม่พาไปหาพี่สาวฉันที่ประชาสัมพันธ์ล่ะ”
ณิชาดายังไม่เชื่ออยู่ดี คนเราสมัยนี้จะดูแค่การแต่งตัวไม่ได้ คนที่แต่งตัวดี พูดดี แต่กลายเป็นโจรก็มีถมไป แต่คนที่แต่งตัวมอซอ แต่กลับเป็นคนดีก็มีถมไป
“ผมกำลังจะพาน้องบลูไปหาคุณแม่เหมือนกัน แต่ผมอยากทำความรู้จักกับน้องบลูก่อน” โดมินิทเอ่ยบอกเหตุผลกับณิชาดา
“ตอนนี้รู้จักกันแล้ว เราไปหาคุณแม่กันเถอะน้องบลู ป่านนี้คุณแม่เป็นห่วงแย่แล้ว” ณิชาดาหน้าลงไปบอกหลานชาย มือเรียวงามเอื้อมไปจับแขนหลานไว้
“น้าปุ้น! น้องบลูอยากได้หุ่นยนต์โรโบคอบ คุณอาบลูบอกว่าจะซื้อให้น้องบลู เราไปซื้อหุ่นยนต์ก่อนได้ไหมครับ”
น้องบลูต่อรองกับน้าสาว อยากไปหาคุณแม่ก็อยากไป แต่ความอยากได้หุ่นยนต์รู้สึกว่าจะมีมากกว่า
“ไปหาคุณแม่ก่อนนะคะ แล้วเราค่อยไปซื้อหุ่นยนต์ด้วยกัน” ณิชาดาต่อรองกลับคืนบ้าง
“ไม่เอา! น้องบลูจะให้คุณอาบลูซื้อให้ น้องบลูอยากได้เลโก้กับเครื่องบินด้วย” น้องบลูส่ายหน้าดิก ไม่ยอมไปกับน้าสาว มือเล็กเอื้อมไปจับแขนแข็งแรงของโดมินิทไว้แน่น
“ไม่ได้ค่ะ น้องบลูไปรบกวนคุณอาได้ยังไงกันค่ะ”
“ไม่เป็นไร ผมอยากซื้อให้น้องบลูอยู่แล้ว เราไปซื้อหุ่นยนต์กันเถอะน้องบลู”
โดมินิทไม่รอฟังคำคัดค้านจากหญิงสาว มือใหญ่กำไปรอบข้อมือเล็ก แล้วพาน้องบลูเดินไปยังแผนกของเล่นเด็กทันที
“นี่คู๊ณ! พี่สาวฉันกำลังตามหาน้องบลูอยู่นะ”
ณิชาดาตะโกนไล่หลัง กำลังจะวิ่งตามคนทั้งสองไป แต่แขนขาวเนียนกลับถูกมือใหญ่คว้าและดึงไว้ จนทำให้ร่างบางเซถอยหลังมาปะทะกับอกกว้าง
“คุณ! มาจับแขนฉันไว้ทำไม ปล่อยนะฉันจะไปหาน้องบลู” ณิชาดาหันมาตวาดแว้ดใส่คนที่จับแขนเธอไว้
“ให้เจ้านายผมพาน้องบลูไปซื้อของเล่นเถอะ ฮันนี่ คุณไม่เห็นสายตาของน้องบลูหรือยังไง แกอยากได้ของเล่นมากนะ”
คาเมลไม่ยอมปล่อยร่างบางอรชร เขายังกอดร่างนุ่มๆ ไว้ในอ้อมแขน แอบสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ จากเส้นผมหยักสลวย และกลับมาเรียกหญิงสาวว่า ฮันนี่ เหมือนเดิม
“นี่แนะ! หาว่าหลานฉันขี้งกใช่มั้ย” ณิชาดากัดฟันกรอดๆ หยิกแรงๆ ไปบนแขนแข็งแรงที่กอดเธออยู่ รู้สึกหมั่นไส้คนเจ้าเล่ห์เหลือกำลัง
“โอ๊ย!...ฮันนี่ผมเจ็บนะ“ คาเมลแกล้งร้องโอดครวญเสียงดัง เพื่อเรียกคะแนนสงสารจากหญิงสาว
“เจ็บก็ปล่อยมือสิ ฉันจะไปตามน้องบลู” คราวนี้มือเล็กซัดเผียะ! ลงไปบนต้นแขนสีแทน แต่คาเมลก็ไม่ยอมปล่อยมืออยู่ดี
“แล้วทำไมฮันนี่ไม่โทรไปบอกพี่สาวก่อนว่าเจอน้องบลูแล้ว พี่สาวคุณจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”
คาเมลเสนอความคิดเห็น เสียงห้าวทุ้มดังอยู่ใกล้ใบหู จนณิชาดารู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆ ที่เป่าริดรดพวงแก้มของเธอ
“โทรไม่ได้ โทรศัพท์แบตฯ หมด” หญิงสาวตอบห้วนๆ
“โธ่เอ๋ย...แล้วก็ไม่บอก เอ้า...ให้ยืมโทรศัพท์ก่อน จะโทรนานแค่ไหนก็ได้ครับ”
คาเมลหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท และยื่นมาข้างหน้าจนมือใหญ่แทบจะชนกับหน้าอกอวบนุ่มมือ ทำเอาใบหน้าเนียนใสแดงก่ำขึ้นมาจนเป็นที่ถูกอกถูกใจของเขา
“ยืมก็ได้ แต่ฉันไม่จ่ายค่าโทรศัพท์ให้หรอกนะ” ณิชาดารับโทรศัพท์มาถือไว้ ก่อนจะกดโทรก็ไม่ลืมเอ่ยแขวะเจ้าของโทรศัพท์ด้วย
“จะติดเชื้อบ้าด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“แค่ใช้โทรศัพท์ร่วมกันไม่ทำให้ติดเชื้อบ้าได้หรอก แต่ถ้าจะให้ดีต้องจูบคุณเหมือนก่อนหน้านี้ด้วย”
คาเมลยื่นมือใหญ่แตะบนริมฝีปากแดงระเรื่อของหญิงสาว พอณิชาดาอ้าปากจะกัดปลายนิ้ว ชายหนุ่มก็ชักนิ้วออกมาอย่างรู้เท่าทันความคิดของอีกฝ่าย
“ไม่ต้องมาทำเลยนะ ฉันยังไม่อยากไปฉีดยารอบสะดือ” ณิชาดาถลึงตาใส่อีกฝ่าย แก้มนุ่มแดงปลั่งโมโหที่ชายหนุ่มชอบย้ำเรื่องจูบ!
คาเมลได้ยินคำประชดประชันของหญิงสาวก็ปล่อยหัวเราะออกมาเต็มเสียง เขาไม่เคยทะเลาะกับใครแล้วรู้สึกสนุก และมีความสุขเหมือนได้ทะเลาะกับณิชาดาสาวสวยหน้าหวานที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา
“คนนะครับ ไม่ใช่หมาบ้าที่โดนกัดแล้วต้องไปฉีดยารอบสะดือ”
“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแหละ” ณิชาดาเหน็บแนมกลับทันควัน
“รีบๆ โทรไปเถอะ เจ้านายผมกับน้องบลูเดินไปโน้นแล้ว” คาเมลชี้ให้ดูโดมินิทกับน้องบลูที่จูงมือกันเดินไปถึงแผนกของเล่นเด็กแล้ว
“ส่วนค่าโทรเอาไว้คิดทบต้นทบดอกรอบเดียวแล้วกันนะฮันนี่” ดวงตาสีน้ำตาลแพรวพราวมันระยับ ขณะมองไปยังริมฝีปากสีแดงระเรื่ออย่างมีความหมาย
“เสียใจ ฉันไม่ใช่ธนาคาร ไม่มีต้น ไม่มีดอกให้คุณเบิกคืน”
“ไม่เป็นไร ผมมีวิธีเอาคืนก็แล้วกัน”
ณิชาดาได้แต่กระทืบเท้าด้วยความขัดใจ เมื่อไม่สามารถเอาชนะชายหนุ่มได้ ร่างบางหันหลังให้คาเมลและกดโทรศัพท์โทรไปหาพี่สาวทันที
“ฮัลโหล พี่หมู นี่ข้าวปุ้นเองนะ ปุ้นเจอน้องบลูแล้ว ตอนนี้น้องบลูอยู่กับข้าวปุ้นที่ชั้นสี่ค่ะ”
“เจอน้องบลูแล้วหรือปุ้น พี่ดีใจจังเลย พี่เป็นห่วงน้องบลูแทบแย่”
ปรีชยาพรเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดีใจและโล่งอกเป็นที่สุด จากนั้นก็เอ่ยถามน้องสาวต่อ
“ปุ้นเอาโทรศัพท์ใครโทร พี่โทรหาปุ้นตั้งหลายครั้งแต่โทรไม่ติดเลย” เมื่อตามหาลูกชายพบแล้ว ปรีชยาพรก็อดต่อว่าน้องสาวไม่ได้
“แฮะๆ โทรศัพท์ปุ้นแบตฯ หมด ปุ้นยืมโทรศัพท์คนแถวๆ นี้โทร เห็นท่าทางซื่อๆ เหมือนคนเพิ่งเข้าเมืองกรุง ก็เลยหลอกขอโทรหน่อย”
ณิชาดาหลอกด่าคาเมล แถมยังพูดประโยคหลังเสียงดังให้คนที่กำลังเดินตามมาได้ยินด้วย
คาเมลได้ยินประโยคหลังที่หญิงสาวหลอกด่าตัวเอง ก็ได้แต่ทำเสียงคำรามฮึดฮัดอยู่ในลำคอ
“ฝากไว้ก่อนเถอะ ยัยตัวแสบ!”
ณิชาดาอ่านริมฝีปากของอีกฝ่าย รู้ว่าคาเมลพูดว่าอะไร ก็ทำปากขมุบขมิบตอบกลับไปว่า
“ไม่รับฝาก”
“ข้าวปุ้น ทำไมเงียบไป ฟังพี่อยู่หรือเปล่า” ปรีชยาพรเรียกน้องสาวเสียงดังผ่านโทรศัพท์ กลัวแบตเตอรี่โทรศัพท์ที่น้องสาวใช้โทรจะหมดอีกเครื่อง
“ฟังอยู่ค่ะพี่หมู” ณิชาดาหันมาคุยโทรศัพท์กับพี่สาวต่อ
“ทำไม ไม่พาน้องบลูมาหาพี่ ปุ้นอยู่ชั้นสี่ใช่ไหม เดี๋ยวพี่จะขึ้นไปหาเดี๋ยวนี้”
“พี่หมูไม่ต้องขึ้นมาหรอก เดี๋ยวหากันไม่เจออีก ยิ่งติดต่อกันยากๆ อยู่ ปุ้นจะพาน้องบลูไปซื้อหุ่นยนต์ก่อน พี่หมูรออยู่แถวๆ ประชาสัมพันธ์นะ อีกยี่สิบนาที ปุ้นจะลงไปหานะคะ”
“ก็ได้จ้ะ ถ้าเจอน้องบลูแล้วพี่ก็โล่งอก พี่รออยู่ในร้านกาแฟแถวๆ ประชาสัมพันธ์นะ”
“ค่ะพี่หมู แค่นี้ก่อนนะคะ โทรนานแล้วเปลืองค่าโทรศัพท์เขาแย่ เจ้าของเขายิ่งขี้งกคิดค่าโทรแพงด้วย”
ณิชาดาหันไปแขวะคาเมลอีกรอบ ทำเอาคาเมลต้องยิ้มขำ พร้อมกับส่ายหน้าราวกับระอาคนช่างหาเรื่อง
“จ้ะ แค่นี้แหละ พี่รออยู่ในร้านกาแฟนะจ้ะ” ปรีชยาพรย้ำกับน้องสาวอีกครั้ง
“ค่ะ ถ้างั้นเลิกกันนะ” ณิชาดากดวางสายแล้วยื่นโทรศัพท์ให้กับคาเมลคืน
“ใช้เสร็จแล้ว เอาโทรศัพท์คุณคืนไป”
“ฮันนี่ จะไม่ขอบคุณผมสักคำหรือยังไง คนเขาอุตส่าห์ใจดีให้ยืมโทรศัพท์ใช้”
คาเมลไม่ได้หยิบโทรศัพท์กลับคืน แต่มือใหญ่กำมือบอบบางข้างที่ถือโทรศัพท์ไว้แทน
“เรื่องอะไรจะขอบคุณ คุณเป็นคนเอาโทรศัพท์มาให้ฉันโทรเองนะ”
ณิชาดาปฏิเสธ พยายามชักมือกลับ ดวงตาคู่สวยภายใต้ขนตายาวงอนฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมา ก่อนจะเอ่ยพูดว่า
“ขอบคุณก็ได้ ถ้าใจบุญแบบนี้ คราวหน้าขอยืมโทรไปหาเพื่อนที่ฝรั่งเศส สักครึ่งวันนะ”
ณิชาดาทำหน้าทะเล้น แล้วคลี่ยิ้มหวานยื่นหน้าไปขอบคุณใกล้ๆ ใบหน้าคมเข้ม
คาเมลตั้งหลักรอเวลาเอาคืนเหมือนกัน พอใบหน้างามนวลลออยื่นเข้ามาใกล้ เขาก็ดึงมือบางข้างที่กำไว้กระตุกจนร่างบางเซมาปะทะอกกว้าง ใบหน้าคมเข้มคล้ำแดดยื่นเข้าไปหอมแก้มเนียนใสฟอดใหญ่ และเลยไปจูบริมฝีปากแดงระเรื่ออีกด้วย
ณิชาดาเจอลูกเอาคืนแบบนี้ก็รู้ว่าตัวเองกำลังเสียเปรียบอีกฝ่ายอยู่ นัยน์ตาคู่สวยถลึงมองคาเมลด้วยความขัดใจ มือบางถูแรงๆ ตรงแก้มข้างที่โดนกดจุมพิต
“ยินดีให้ยืมตลอดเวลาเลยฮันนี่ ถ้าค่าโทรที่ได้รับหวานชื่นใจและหอมกรุ่นแบบนี้”
คาเมลพูดกลั้วหัวเราะเมื่อเห็นใบหน้าเนียนใสแดงก่ำด้วยความโกรธระคนเขินอาย
“ไม่ยืมแล้ว เสียเปรียบ เปลืองตัว“
ณิชาดาพูดกระแทกกระทั้น ถลึงตาเขียวปั้ดใส่คาเมล แล้วรีบเดินหนีไปหาน้องบลูที่แผนกของเล่นเด็ก โดยมีร่างสูงใหญ่ของคาเมลเดินตามหลังมาติดๆ พร้อมกับหัวเราะยั่วเสียงดัง ทำเอาหญิงสาวยิ่งโกรธชายหนุ่มมากกว่าเดิม ร่ำๆ จะซัดลงไปบนใบหน้าหล่อเหลาสักหมัดสองหมัด!