บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

น้องบลูยืนมองกล่องของขวัญห่อด้วยกระดาษสีน้ำเงิน ซึ่งวางปะปนกับกล่องของขวัญสีอื่นๆ ที่ถูกวางเรียงรอบๆ ต้นคริสมาสต์ ด้วยแววตามันวาว ริมฝีปากเล็กค่อยๆ กัดกินไอศรีมแบบโคนไปเรื่อยๆ กำลังตัดสินใจว่าจะลอดเชือกที่กั้นรอบต้นคริสมาสต์เข้าไปแกะกล่องของขวัญดีหรือเปล่า แต่ไม่ทันได้ทำตามที่นึกคิด ก็มีเสียงห้าวทุ้มเอ่ยถามอยู่ใกล้ๆ ตัว

“น้องบลูทำอะไรอยู่ครับ” โดมินิทเอ่ยถามน้องบลู

“น้องบลูกำลังคิดว่าข้างในกล่องของขวัญจะมีหุ่นยนต์อยู่หรือเปล่านะครับ” เด็กน้อยเอ่ยตอบโดยไม่ได้หันหน้าไปมองคนถาม

“มันเป็นกล่องเปล่า ข้างในไม่มีหุ่นยนต์อยู่หรอกครับ”

ขณะเอ่ยตอบ โดมินิทพยายามมองหน้าเด็กน้อย แต่มองเห็นไม่ชัดนักเพราะเด็กน้อยกำลังก้มหน้ากัดกินไอศรีมในมืออยู่ ทำให้เขาเห็นแค่ท้ายทอยที่ปกคลุมไปด้วยผมหยักศกสีน้ำตาลนุ่มสลวย

“คุณอารู้ได้ยังไงครับ ว่าไม่มีหุ่นยนต์ แล้วคุณอาเป็นใครครับ คุณอารู้จักน้องบลูได้ยังไงครับ”

คราวนี้น้องบลูหันหน้ามาเลิกคิ้วเอ่ยถามคุณอาที่ยืนอยู่ใกล้กัน และพอเห็นใบหน้า รวมทั้งสีดวงตาของคุณอาผู้นี้ น้องบลูก็เปล่งเสียงออกมาด้วยความตื่นเต้น

“คุณอา มีสีดวงตา และมีใบหน้าเหมือนน้องบลูเลยครับ”

ใช่ว่าจะมีแค่น้องบลูที่เอ่ยพูด และตีสีหน้ามองคุณอาด้วยความตื่นเต้น

โดมินิทเองถึงกับเข่าอ่อนชาวูบไปทั้งตัว หัวใจเต้นรัวเร็วอุ่นวาบเหมือนดั่งดวงแก้วที่หายไปได้กลับมาดั่งเดิม เมื่อได้เห็นใบหน้าและดวงตาสีน้ำเงินเข้มคู่สวยของน้องบลู

โดมินิทเอื้อมมือใหญ่ที่สั่นเทาเล็กน้อยไปลูบเปลือกตาและใบหน้าของเด็กน้อย ทำไมมองน้องบลูแล้ว เขารู้สึกเหมือนมองภาพตัวเองที่สะท้อนออกมาจากกระจกเงา เพียงแค่ภาพที่เห็นจะย่อส่วนเล็กลงกว่าตัวเขาเท่านั้นเอง

มือใหญ่ยังคงลูบดวงตาและพวงแก้มของเด็กน้อยไม่ได้หยุด จนน้องบลูเริ่มรำคาญและเบี่ยงหน้าหนี ส่วนโดมินิทอยากสวมกอดเด็กน้อยที่ยืนอยู่ข้างหน้าตัวเองนัก แต่เกรงว่าเด็กน้อยจะตกใจกลัวเสียก่อน

“คุณอาว่าเราไปนั่งคุยกันที่เก้าอี้ตรงนั้นดีไหมครับ” โดมินิทชี้นิ้วไปยังเก้าอี้ยาวอยู่ข้างทางเดิน เพื่อให้ลูกค้าได้นั่งพักผ่อน

น้องบลูเงยหน้ามองคุณอาอย่างลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าตอบรับในที่สุด

“ได้ครับคุณอา”

“น้องบลูกินไอศรีมหมดหรือยังครับ ถ้าหมดแล้วเอาไปทิ้งที่ถังขยะนะครับ”

“หมดแล้วครับ” น้องบลูทิ้งโคนไอศรีมที่ยังเหลือนิดหน่อยลงถังขยะ

โดมินิทกำมือเด็กน้อยไว้และพาไปนั่งบนเก้าอี้ มือใหญ่หยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวจากกระเป๋าเสื้อสูทมาเช็ดคราบไอศรีมที่ติดตามขอบปากน้องบลู ชายหนุ่มค่อยๆ เช็ดให้อย่างเบามืออย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน เขารู้สึกเอ็นดูเด็กน้อยตั้งแต่แรกเห็น สายตาที่มองมายังน้องบลูเปี่ยมล้นไปด้วยความรักที่สื่อออกมาอย่างชัดเจน

“คุณอายังไม่บอกเลยว่ารู้จักน้องบลูได้ยังไง แล้วคุณอารู้ได้ยังไงว่าในกล่องไม่มีหุ่นยนต์ แล้วคุณอาเป็นใครกันครับ”

ปากเล็กๆ สีแดงสดตั้งคำถามรัวเป็นชุด ดวงตาสีน้ำเงินฉายแววสงสัยออกมา ปากเล็กทำท่าว่าจะตั้งคำถามอีกรอบ จนโดมินิทต้องรีบห้ามทัพไว้ ไม่ยังงั้นเขาไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อน

ชายหนุ่มยิ้มให้กับคนช่างสงสัย ใบหน้าคมเข้มที่เคยดูเคร่งขรึม ดวงตาสีน้ำเงินเข้มที่เคยดูแข็งกร้าว ตอนนี้ดูอ่อนโยนลงถนัดตา รอยยิ้มปรากฎขึ้นทั้งบนใบหน้าและนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้ม

“คุณอาตอบคำถามน้องบลูทีละข้อแล้วกันนะครับ ข้อแรก คุณอารู้จักน้องบลู เพราะเมื่อสักครู่คุณแม่ประกาศตามหาน้องบลูอยู่ครับ”

“คุณแม่ตามหาน้องบลูทำไมครับ น้องบลูไม่ได้หายสักหน่อย น้องบลูแค่อยากมาดูกล่องของขวัญก็เท่านั้นเองครับ” น้องบลูตอบด้วยเสียงฉะฉานชัดเจน

“ตอนน้องบลูเดินมาที่ต้นคริสมาสต์ น้องบลูได้บอกคุณแม่ไหมครับ” โดมินิทยิ้มกว้าง ขณะเอ่ยถามเด็กน้อย

“ไม่ได้บอกครับ” เสียงที่เคยตอบอย่างฉะฉานในก่อนหน้านี้ แผ่วเบาลงเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยฟ้องคุณอาต่อ

“ตอนอยู่ข้างล่างคุณแม่ไม่ยอมให้น้องบลูมาดูกล่องของขวัญครับ”

“น้องบลูรู้ไหมครับว่าคุณแม่ตามหาน้องบลูอยู่” โดมินิทถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนระคนเอ็นดู

ศีรษะกลมทุยส่ายแรงๆ มือเล็กเอื้อมไปจับแขนแข็งแรงภายใต้เสื้อสูทราคาแพง พร้อมกับเอ่ยขอร้องว่า

“คุณอาพาน้องบลูไปหาคุณแม่หน่อยได้ไหมครับ”

“ได้ครับ เดี๋ยวคุณอาจะพาไปหาคุณแม่เองครับ เรามาฟังคำตอบข้อสองก่อนนะครับ กล่องของขวัญที่น้องบลูกำลังจะแกะออกข้างในไม่มีหุ่นยนต์หรอกครับ เขาเอามาไว้ตกแต่งต้นคริสมาสต์เฉยๆ ครับ”

“คุณอารู้ได้ยังไงครับ เรายังไม่ได้แกะดูข้างในเลย” น้องบลูยังไม่ยอมแพ้ เพระในใจนั้นยังอยากได้หุ่นยนต์อยู่

“ตอนคุณอาตัวเท่าน้องบลู คุณอาก็เคยแกะของขวัญใต้ต้นคริสมาสต์ที่เขาจัดไว้เหมือนกันครับ”

“คุณอาเจอหุ่นยนต์ไหมครับ”

“ไม่เจอหรอกครับเพราะมันเป็นกล่องเปล่า ถ้าน้องบลูอยากได้หุ่นยนต์ เดี๋ยวคุณอาจะซื้อให้เองนะครับ”

“อยากได้ครับ เอาหุ่นยนต์โรโบคอบนะครับ น้องบลูอยากได้ แต่คุณแม่ไม่ยอมซื้อให้ คุณแม่บอกว่าแพงมาก”

“ได้ครับ แต่น้องบลูต้องตอบคำถามของคุณอาก่อนนะครับ น้องบลูบอกคุณอาได้ไหมครับว่าน้องบลูชอบกล่องของขวัญสีอะไร”

“น้องบลูชอบสีน้ำเงินครับ” น้องบลูทำท่านึกคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยตอบต่อ

“ตอนวันเกิดน้องบลู เพื่อนๆ เอาของขวัญมาให้เยอะแยะเลยครับ และคุณแม่ให้น้องบลูเลือกว่าอันไหนเป็นกล่องของขวัญที่คุณแม่จะให้น้องบลูครับ”

“น้องบลูเลือกถูกไหมครับ น้องบลูเลือกกล่องสีอะไรครับ” โดมินิทถามด้วยความสนใจ

“เลือกถูกครับ น้องบลูเลือกกล่องสีน้ำเงิน คุณแม่ชอบห่อของขวัญด้วยกระดาษสีน้ำเงิน น้องบลูจำได้น้องบลูก็เลยเลือกถูกครับ” น้องบลูเผยความภาคภูมิใจให้เห็น ขณะยิ้มแป้นให้คุณอา

“คุณแม่ของคุณอาก็ชอบให้ของขวัญที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำเงินเหมือนกันครับ”

โดมินิทนึกถึงในวัยเด็ก พอถึงเช้าวันคริสมาสต์เมื่อไร เขากับลูกพี่ลูกน้องอีกห้าคน จะวิ่งมาเอาของขวัญที่แม่เขาแอบเอามาวางไว้ใต้ต้น

คริสมาสต์ เขาจะเลือกหยิบเฉพาะกล่องสีน้ำเงินเท่านั้น ถึงแม้ว่ากล่องของขวัญสีอื่นจะมีกล่องใหญ่กว่า แต่เขาก็ไม่เคยเลือก เพราะเขารู้ดีว่ากล่องสีน้ำเงินจะเป็นของเขาคนเดียว และลูกพี่ลูกน้องทุกคนก็จะรู้ดีเช่นกัน คุณแม่เขาให้เหตุผลว่าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำเงินให้กับเขาคนเดียว เพราะมันเป็นสีประจำตระกูลและเป็นสีเดียวกันกับสีดวงตาของเขา

“คุณอาก็ชอบสีน้ำเงินเหมือนกันหรือครับ”

“ชอบครับ น้องบลูรู้ไหมครับว่าดวงตาเรามีสีน้ำเงินเหมือนกันเลย”

โดมินิทชี้มายังขอบดวงตาตัวเอง แล้วแตะเบาๆ ที่ขอบดวงตาของน้องบลูบ้าง

“จริงๆ ด้วยสีเหมือนกันเลย”

เด็กน้อยร้องออกมาอย่างตื่นเต้น ลุกขึ้นยืนบนเก้าอี้ เอื้อมมือทั้งสองข้างเกาะบนบ่าชายหนุ่มไว้ เขย่งขาทั้งสองข้าง แล้วชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ๆ เพื่อดูสีดวงตา ส่วนโดมินิทก็ก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อให้น้องบลูดูสีดวงตาได้ชัดๆ

“สวยจังเลยครับคุณอา” ขณะเอ่ยพูด มือเล็กแตะเบาๆ ตรงขอบดวงตาของโดมินิท

“สีดวงตาของน้องบลูก็สวยเหมือนกันครับ น้องบลูครับเรามีชื่อเล่นเหมือนกันด้วยนะครับ”

“ชื่อเล่นคุณอาชื่อน้องบลูหรือครับ”

เด็กน้อยเอ่ยถามด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์ ทำเอาโดมินิทต้องหลุดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความขบขำกับคำถามนี้

“ไม่ใช่ครับชื่อเล่นคุณอาชื่อ บลู ครับ”

“อ๋อ! เข้าใจแล้วครับคุณอาชื่อบลูใช่ไหมครับ ทำไมสีดวงตาของเราเหมือนกัน ชื่อเล่นก็เหมือนกันด้วยครับ” ความสงสัยเริ่มบังเกิดขึ้นในตัวน้องบลูอีกรอบ

“สงสัยคุณแม่ของเราทั้งสองคน คงมีใจตรงกันมั้งครับ เลยตั้งชื่อเล่นเราเหมือนกัน”

“ถ้ามีคนเรียกชื่อเราพร้อมกัน เราจะรู้ได้ไงครับว่าเขาเรียกน้องบลูหรือเรียกคุณอา”

โดมินิทขมวดคิ้วครุ่นคิดนิดหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบออกมา “อืม...เอาแบบนี้นะ คุณอาเป็นบลูซีเนียร์ ส่วนน้องบลูก็เป็นบลูจูเนียร์ดีไหมครับ”

“ซีเนียร์กับจูเนียร์แปลว่าอะไรครับ น้องบลูไม่เข้าใจ”

น้องบลูขมวดคิ้วหากันให้ยุ่งไปหมด ใบหน้าน่ารักตั้งใจฟังคำตอบด้วยความอยากรู้

“ซีเนียร์ก็แปลว่าคนที่มีอายุมากกว่า อาวุโสหรือแก่กว่า ส่วนจูเนียร์ก็แปลว่าคนที่มีอายุน้อยกว่าเหมือนน้องบลู ถ้ามีใครเรียกบลูซีเนียร์ก็หมายถึงคุณอา ถ้าบลูจูเนียร์ก็หมายถึงน้องบลูไงครับ” โดมินิทอธิบายพร้อมด้วยรอยยิ้มกว้าง

“ตกลงครับคุณอาบลูซีเนียร์ น้องบลูเข้าใจแล้วครับ”

น้องบลูกระโดดกอดคอโดมินิทด้วยความดีใจ ร่างสูงใหญ่กอดตอบและหอมแก้มยุ้ยๆ ซ้ายขวาของเด็กน้อยข้างละฟอด ส่วนน้องบลูเองก็กอดชายหนุ่มไว้แน่น ซบใบหน้าเล็กลงกับซอกคอของโดมินิท รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

“บลูจูเนียร์เรามาชนหมัดกันหน่อยไหมครับ”

“ทำยังไงครับ น้องบลูไม่เคยเล่นครับ”

น้องบลูปล่อยแขนลง เงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยถามอย่างงุนงง เพราะตัวเองไม่เคยเล่นกับแม่หรือน้าปุ้นมาก่อน

“เขาต้องทำแบบนี้ครับ น้องบลูทำตามอาบลูนะครับ”

โดมินิทกำมือใหญ่เป็นหมัดและชูขึ้นให้เด็กน้อยดู ส่วนน้องบลูก็กำมือเล็กเป็นหมัดและชูขึ้นมาข้างหน้าเหมือนกัน

“จากนั้นเราก็เอามือมาชนกันแบบนี้ครับ” โดมินิทจับมือเล็กๆ ที่กำเป็นหมัดมาชนกับกำปั้นของตัวเอง

“ดีจังเลยครับอาบลู เอาอีกรอบครับ” น้องบลูกระโดดโลดเต้นบนเก้าอี้ มือเล็กกำมือรอให้ชายหนุ่มกำหมัดมาชนกันอีกครั้ง

โดมินิทยิ้มเอ็นดูในความน่ารักของน้องบลู จากนั้นก็กำหมัดไปชนกับหมัดเล็กๆ ของน้องบลูอีกครั้ง

“คุณอาบลูครับ คุณอากอดน้องบลูอีกครั้งได้ไหมครับ”

น้องบลูอยากให้ชายหนุ่มกอดตัวเองอีกครั้ง เด็กน้อยไม่เคยได้รับอ้อมกอดจากคนที่เป็นพ่อ เคยได้รับความอบอุ่นเอาอกเอาใจจากคนที่เป็นแม่และน้าสาวเท่านั้น พอได้รับอ้อมกอดจากชายหนุ่มแปลกหน้า เด็กน้อยจึงรู้สึกอบอุ่นอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน อีกทั้งยังรู้สึกปลอดภัยเหมือนมีคนคอยมาปกป้องตัวเอง

โดมินิมยิ้มรับพลางโอบแขนแข็งแรงไปรอบตัวเด็กน้อย ดึงร่างป้อมๆ เข้ามากอดเต็มอ้อมแขน ใบหน้าหล่อเหลายื่นไปหอมตรงพวงแก้มยุ้ยทั้งสองข้าง และตรงกลางหน้าผาก ความรักที่มีให้กับเด็กน้อยถ่ายทอดออกมาทั้งทางสายตาและใบหน้า ซึ่งดูอ่อนโยนลงทุกครั้งเวลามองมาตัวน้องบลู และทั้งๆ ที่เพิ่งพบกันครั้งแรก แต่เขากลับรู้สึกเอ็นดูและรักน้องบลูมาก

โดมินิทไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด เขาเคยพบเจอเด็กที่น่ารักมากมาย แต่ก็ไม่เคยรู้สึกรักเด็กคนไหนเท่ากับน้องบลูมาก่อน หรืออาจเป็นเพราะความน่ารัก การพูดจาฉะฉานไม่กลัวใคร หรืออาจเป็นเพราะดวงตาคู่สวยสีน้ำเงินเข้ม ที่สะดุดใจเขามากที่สุด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญให้เขารักน้องบลูมาก

โดมินิทและน้องบลูหารู้ไม่ว่า สิ่งที่เชื่อมโยงระหว่างเข้าทั้งสองคนเข้าด้วยกัน นอกเหนือจากความรัก ดวงตาสีน้ำเงินเข้มและใบหน้าที่เหมือนกันแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ทั้งสองคนเข้าหากันก็คือ ความสัมพันธ์ทางสายเลือดของความเป็นพ่อลูกกัน ซึ่งทั้งโดมินิทและน้องบลูยังไม่รู้ถึงเหตุผลในข้อนี้...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel