ตอนที่ 3/2
ภารกิจ ริมฝีปากที่ร้อนผ่าวนั้นซุกไซ้หาความหวานจากเรือนร่างบางที่เปล่าเปลือยเหมือนกับผีเสื้อที่กำลังสำรวจหาแหล่งน้ำหวานและเมื่อเจอก็ดูดกลืนด้วยความเอร็ดอร่อย ทุกสัมผัสที่ช่ำชองของชายหนุ่มปลุกเร้าอารมณ์สาวของปณิดาให้กระเจิดกระเจิงได้เป็นอย่างดี อาการบิดเร้าที่ร่างบางตอบกลับมาอย่างไร้เดียงสาทำให้คิ้วหนาดำขมวดมุ่นแต่ก็เป็นเพียงชั่วครู่เพราะเวลานี่ร่างกายของเขาได้ตื่นขึ้นเต็มตัวแล้ว ดังนั้นกางเกงที่เหลืออยู่ของเขาจึงหลุดออกไปอย่างรวดเร็ว และในตอนนี้ร่างทั้งสองก็ไม่เหลืออะไรบิดบังร่างกายแม้แต่อย่างเดียว และเมื่อเนื้อแนบเนื้อก็ยิ่งกระตุ้นความต้องการทางร่างกายให้โหมกระพือขึ้นอย่างแรงราวกับเปลวไฟที่ลุกโชน
มือเรียวป่ายเปะปะไปมาบนแผ่นหลังของชายหนุ่มอย่างไม่ประสาแต่มันก็ทำให้ร่างแกร่งนั้นเสียวซ่านได้ ใบหน้าสวยเงยขึ้นพร้อมกับหลับตาพริ้มเตรียมรับกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เธอเตรียมใจมาแล้วว่าเรื่องแบบนี้คงหนีไม่พ้นเพราะเธอได้ขึ้นชื่อมาเป็นภรรยาของเขาแล้ว
นนทกานต์ปลุกเร้าอารมณ์ของอีกฝ่ายให้แก่เต็มที่ มือหนาเลื่อนมาลูบคลึงที่เนินอกอวบอิ่มจนอีกฝ่ายต้องแอ่นอกขึ้นด้วยความเสียว และร่างบางก็สั่นสะท้านอยู่ภายใต้ร่างหนาแล้วเมื่อทุกอย่างพร้อมเขาก็ประสานร่างทั้งสองเข้าหากันและเริ่มบรรเลงเพลิงรักตั้งแต่ต้นจนกระทั่งจบลงอย่างสมบูรณ์แบบด้วยความสุขสมและผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
ปณิดาตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่และพบว่าสามีหนุ่มกำลังจ้องมองเธออยู่ทำให้ใบหน้าสวยแดงระเรื่อขึ้นด้วยความอายและโกรธปนกัน ก่อนจะพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่ง แต่แล้วก็ต้องนิ่วหน้าด้วยความปวดร้าวไปทั่วบริเวณท่อนล่างและเสียงของชายหนุ่มก็ดังขึ้นเหมือนกับจะเยาะหยัน
“ไม่น่าเชื่อว่าจะยังไม่เคย แต่ก็ดีถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่ผมเสียไป” พอเขาพูดจบฟณิดาก็หันมามองตาเขียวปัดก่อนจะเม้มริมฝีปากแน่นและมองจ้องหน้าราวกับโกรธแค้นกันมานาน
“ผู้ชายอย่างคุณมันก็ดีแต่รังแกคนที่ไม่มีทางสู้ แต่คนอย่างฉันจะไม่ยอมให้คุณรังแกฝ่ายเดียวแน่” พูดจบหญิงสาวก็รวบผ้าห่มมาพันตัวแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปและใช้เวลาอยู่ในนั้นนานเกือบชั่วโมงจนนนทกานต์เริ่มหงุดหงิดและเดินไปเคาะเรียก
“นี่คุณกะจะแช่น้ำให้เปื่อยเลยหรือไง หรือว่าทำใจไม่ได้กับสิ่งที่เสียไป”
“อย่ามายุ่งกับฉัน คุณจะไปตายที่ไหนก็ไป” เสียงปณิดาตวาดกลับมาและคำด่าแช่งนั้นก็ทำให้นนทกานต์หัวเสียอย่างมาก เขาจึงตะคอกใส่ประตูนั้น
“ผมยังไม่ตายแน่ถ้าไม่เห็นคุณตายก่อน แล้วถ้าคุณยังไม่ออกมาก็ผมจะพังประตูเข้าไป แล้วลากตัวคุณออกมา”
ปณิดาหลับตายืนนิ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นเพื่อเก็บกักน้ำตาเอาไว้และสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดอีกครั้งเหมือนกับเพิ่มกำลังให้กับตัวเอง จากนั้นก็ก้าวออกมาจากห้องน้ำตามคำสั่งของเขาโดยมีผ้าขนหนูพันกายเอาไว้ผืนเดียว เธอมองสบสายตาที่ดุดันของเขาก่อนจะเบือนหน้าหนีเมื่อพบว่าเขามีผ้าขนหนูพันท่อนล่างเอาไว้เพียงอย่างเดียว แล้วก็เดินเลยไปที่ตู้เสื้อผ้า นนทกานต์จึงเดินตามมาติดๆแล้วกระชากแขนเรียวให้ร่างบางหันมาหาเขา
“อย่าทำตัวมีปัญหากับผมเพราะไม่งั้นทั้งครอบครัวของคุณและตัวคุณจะต้องเดือดร้อน อ้อ..แล้วก็ผมสั่งอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว พอทานเสร็จเราก็จะกลับไปที่บ้านของผม เตรียมตัวให้พร้อมด้วย” พูดจบร่างสูงก็ก้าวยาวๆไปทางห้องน้ำ ปณิดาถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมและเดินออกไปนั่งรอที่ห้องรับแขกด้านนอก
และเมื่อทานอาหารเช้าเสร็จเขาก็พาเธอมาที่บ้านซึ่งทุกคนก็เตรียมต้อนรับสมาชิกใหม่กันอย่างคึกคัก
“ยินดีต้อนรับจ้ะหนูดา” ภูเบศเอ่ยทักลูกสะใภ้เมื่ออีกฝ่ายก้าวลงจากรถ และปณิดาก็ยกมือไหว้ผู้อาวุโสก่อนจะคลี่ยิ้มให้
“ขอบคุณค่ะ”
“เข้าไปข้างในกันดีกว่า” เขาบอกแล้วเดินนำเข้าไป หญิงสาวจึงก้าวตามไปแต่ก็ต้องชะงักกึกเมื่อมือหนาคว้าเข้าที่เอวแล้วดึงเข้าไปปะทะร่างหนาก่อนจะก้มลงกระซิบที่ข้างหูของหญิงสาว
“ทำให้เหมือนคู่รักที่เพิ่งแต่งงานกันหน่อยสิ” ปณิดาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคมหล่อเหลานั้นพร้อมกับกัดฟันแน่น แต่ก็ยอมให้อีกฝ่ายประคองเธอเดินเข้าไปในบ้านด้วยอารมณ์ที่ขุ่นเคือง และเมื่อเข้ามานั่งที่ห้องนั่งเล่นเรียบร้อยแล้วภูเบศก็หันมาถามบุตรชายของตนเองทันที
“แล้วนี่แกคิดจะพาหนูดาไปฮันนีมูนที่ไหน คิดเอาไว้หรือยัง”
“จำเป็นด้วยหรือครับคุณพ่อ เท่าที่ผมยอมเข้าพิธีแต่งงานด้วยและไม่หนีการแต่งงานเหมือนกับน้องสาวของเขาก็นับว่าเป็นบุญของเขาแล้วนะครับ” นนทกานต์กล่าวขึ้นก่อนจะหันมามองคนที่นั่งข้างๆอย่างดูแคลน และปณิดาเองก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาเมื่อโดนอีกฝ่ายพูดเหน็บแนม เธอจึงคิดจะโต้กลับไปบ้างแต่เพราะเกรงใจพ่อสามีที่เป็นคนจิตใจดีจึงทนนิ่งเงียบเอาไว้ มีเพียงสายตาขุ่นเคืองเท่านั้นที่ส่งไปให้กับสามีหนุ่มอย่างไม่พอใจ ส่วนภูเบศเองก็รู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของบุตรชายเช่นกัน จึงพูดตำหนิออกไป
“พูดอะไรหัดรักษาน้ำใจเมียของตัวเองบ้างนะเจ้านนท์ แล้วก็อย่าให้มันมากเกินไปนัก”
“ไม่มากหรอกครับคุณพ่อ อย่างเขารับได้สบายขนาดยอมแต่งงานแทนน้องสาวยังทำได้เลย เขาคงเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีแล้ว” ชายหนุ่มหันไปทางผู้เป็นพ่อก่อนจะหันมายิ้มเยาะให้กับหญิงสาว และคำพูดที่รุนแรงของเขาก็ทำเอาปณิดาชักฉุน เธอจึงหันมามองหน้าเขาแล้วก็พูดยิ้มๆ
“สงสัยเมื่อเช้าคุณคงไม่ได้แปรงฟันใช่ไหมคะถึงได้ปากเหม็นขนาดนี้ หรือว่าทานอะไรที่เน่าเสียเข้าไป ฉันว่าคุณรีบไปล้างมันออกดีกว่านะคะ”