บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1/2

“วันนี้หนูสวยมากปณิดา” ภูเบศกล่าวชื่นชมจากใจจริงและนึกถึงพิธีในช่วงเช้าซึ่งบุตรชายของเขาเอาแต่เหลือบแลเจ้าสาวอยู่นับครั้งไม่ถ้วนจนเขาอดยิ้มอย่างพอใจไม่ได้

“ขอบคุณค่ะ เอ่อ...ว่าแต่คุณลุงทำไมถึงให้จัดงานต่อละคะในเมื่อหนูไม่ใช่ณีรนุช” ปณิดาเอ่ยถามในสิ่งที่ค้างคาใจ

“ลุงยอมรับว่าตอนแรกก็โกรธมาก แต่พอเห็นหนูแล้วก็คิดว่าจะเป็นหนูดาหรือหนูนุชก็เหมือนกันเพราะลุงก็ไม่ได้รังเกียจหนูทั้งสองคนแม้แต่น้อย” เขาตอบยิ้มๆจนทำให้ปณิดารู้สึกตื้นตันและดีใจที่อีกฝ่ายเข้าใจทุกอย่างได้ดี แต่ทว่าการสนทนาของทั้งคู่นั้นกลับเล็ดรอดเข้าไปถึงหูของเจ้าบ่าวที่เดินผ่านมาพอดี ร่างสูงหยุดนิ่งข้างประตู มือหนากำเข้าหากันแน่นพร้อมกับฟันกรามทั้งสองที่ขบเข้าหากันจนเป็นสันนูนด้วยความโมโหและโกรธจัด

“ขอบคุณคุณลุงมากนะคะที่ไม่เอาเรื่องพวกเรา” ปณิดายกมือไหว้ชายสูงวัยด้วยความซาบซึ้งใจ

“หนูดาสบายใจได้ ลุงไม่เคยคิดโกรธแค้นทั้งพ่อแม่ของหนู หรือแม้กระทั่งตัวหนู” ภูเบศคลี่ยิ้มกว้างให้อย่างอ่อนโยนก่อนจะยกนาฬิกาขึ้นที่ข้อมือขึ้นมอง แล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มให้หญิงสาวพร้อมกับพูดขึ้นอีกครั้ง “เดี๋ยวลุงออกไปต้อนรับแขกก่อน ส่วนหนูถ้าเรียบร้อยก็ตามออกไปนะ”

“ค่ะ” หญิงสาวรับคำแล้วยิ้มให้ จากนั้นภูเบศก็เดินออกไป ปณิดาจึงหันมามองสำรวจตัวเองอีกครั้ง แต่แล้วร่างบางก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อร่างสูงในชุดทักซิโด้สีขาวยืนจังก้าอยู่ที่หน้าประตู ก่อนจะก้าวเข้ามาหาเธอด้วยแววตาและสีหน้าที่ดุดัน ก่อนจะตะคอกใส่เสียงกร้าว

“คุณไม่ใช่ณีรนุชยังงั้นเหรอ”

“เอ่อ...คือว่า...คือ...ฉันชื่อ...ปณิดา...เป็นพี่...เอ่อ..พี่สาว” ปณิดาหน้าซีดปากสั่นจนพูดอะไรไม่ออก ร่างบางถอยห่างออกมา 2 ก้าวและรู้สึกว่าชายหนุ่มตรงหน้าน่ากลัวราวกับเสือหนุ่มที่กำลังจ้องเหยื่อ

“เล่นบ้าอะไรของคุณ เลวที่สุด! นี่คงอยากแต่งงานจนต้องปลอมตัวเป็นเจ้าสาวของผมเชียวเหรอหน้าด้านไม่มียางอาย หาผัวเองไม่ได้แล้วหรือไงถึงใช้วิธีนี้” นนทกานต์เน้นเสียงลอดไรฟันแล้วจับหมับเข้าที่ต้นแขนบางก่อนจะออกแรงบีบ จนอีกฝ่ายหน้าเบ้ด้วยความเจ็บและร้องออกมา

“โอ๊ย! ฉันเจ็บนะคุณนนทกานต์ แล้วเราก็ไม่ได้ตั้งใจจะหลอกลวงคุณหรือใคร” ปณิดามองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง ความกลัวเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นความโกรธขึ้นมาแทนที่เมื่อโดนดูถูกอย่างหยาบคายจากชายหนุ่ม

“นั่นแหละสิ่งที่ผมต้องการ พ่อแม่คุณคงคิดว่าผมโง่เป็นควายสินะที่เอาตัวคุณมาประเคนให้ผมแทน ฮึ ฮึ ครอบครัวคุณอยากได้ทรัพย์สมบัติของพ่อผมขนาดต้องหลอกลวงกันเลยเหรอ น่าทุเรศสิ้นดี” พูดจบมุมปากของเขาก็เหยียดออกอย่างเยาะเย้ย

“อย่ามาพูดจาดูหมิ่นคุณพ่อคุณแม่ของฉันนะ” เธอตะคอกใส่ด้วยความโมโห ก่อนจะกัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้เพื่อระงับความโกรธที่พุ่งขึ้นมากับคำพูดที่พาดพิงถึงบุพการีผู้มีพระคุณ

“ดูถูกก็ดีกว่าดูผิดไม่ใช่เหรอ” นนทกานต์หรี่ดวงตาลงและนึกไปถึงประวัติของครอบครัวนี้ที่เขาได้มาจากนักสืบว่าครอบครัวของนายบัลลพมีลูกสาว 2 คน คนโตเป็นลูกบุญธรรมที่ขอมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ส่วนอีกคนก็คือบุตรสาวแท้ๆ แล้วถ้าเขาเดาไม่ผิดผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นบุตรสาวคนโต รอยยิ้มเยาะเย้ยจึงฉายขึ้นอีกครั้งบนเรียวปากของเจ้าบ่าวสุดหล่อพร้อมกับคำพูดเหยียดหยาม

“ถ้าผมเดาไม่ผิดคุณก็คงจะเป็นลูกที่พวกเขาขอมาเลี้ยง คงดีใจไม่น้อยเลยสิที่ได้แต่งงานกับผม คงนึกสินะว่าตัวเองเป็นหนูตกถังข้าวสาร แต่ผมขอบอกเอาไว้ก่อนนะว่าคุณคิดผิดเพราะแมวอย่างผมจะไม่ยอมปล่อยหนูอย่างคุณให้สุขสบายแน่”

“คุณอยากจะพูดอยากจะคิดอะไรก็เรื่องของคุณ แต่ฉันขอบอกคุณให้รู้เอาไว้เหมือนกันว่าฉันไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิดที่ต้องมาแต่งงานกับผู้ชายอย่างคุณ ขอทานข้างถนนยังดีเสียกว่าอีก” ปณิดากลั้นอารมณ์โมโหและพูดตอกกลับไปบ้าง และนั่นก็ทำให้ใบหน้าคมเปลี่ยนจากยิ้มเยาะมาเป็นบึ้งตึงทันทีก่อนที่ร่างสูงจะดึงร่างบางเข้ามาปะทะอกและเน้นเสียงลอดไรฟันอย่างโกรธแค้นใส่ใบหน้าสวยหวานนั้น

“ปากกล้านักนะ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน ผมจะคอยดูสิว่าคุณจะทนได้สักแค่ไหน คุณเตรียมตัวรับความทุกข์ทรมานได้เลย” พูดจบเขาก็ผลักร่างบางล้มลงไปกับพื้นแล้วยิ้มเยาะที่มุมปากก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้ปณิดานั่งกำมือแน่นด้วยความเจ็บแค้นใจ ถึงจะเจ็บกายแต่มันก็ไม่เท่ากับเจ็บที่ใจ เธอไม่คิดเลยว่าผู้ชายที่หน้าตาดีๆมีการศึกษาสูงจะมีจิตใจที่ต่ำช้าได้มากขนาดนี้ แล้วนี่เธอจะทำยังไงในเมื่อกระโดดลงมาในบ่อเพลิงแห่งนี้แล้วถ้าจะถอนตัวก็ไม่ทันเสียแล้ว นอกจากจะเดินหน้าและเผชิญกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel