บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 - เธอ...ปาลิน 3

แล้วในตอนนั้นเองกำลังใจของเขาก็หมดลงเมื่อสิ่งที่ได้ยินจากปากของมารดาเมื่อเขากลับถึงบ้านคือการจากไปของพ่อของเขาด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ไคล์สูญเสียทั้งปู่และพ่อไปตอนนี้เขาเหลือเพียงมารดาเพียงคนเดียวที่ยังเป็นกำลังใจสำคัญให้กับเด็กหนุ่มอายุยี่สิบสองปีในตอนนั้น

หากย้อนเวลากลับไปถ้าเขายอมเสียบริษัทที่ปู่สร้างมันขึ้นมาเพื่อแลกกับชีวิตบุคคลที่เขารักทั้งสอง ในวันนี้เขาคงจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง แต่ปู่และพ่อคงจะไม่ยอมให้เขาได้ทำแบบนั้น เขาต้องรักษาคาร์ดิตันไว้ไม่ว่าจะยากลำบากสักเท่าไหร่เขาก็จะไม่ยอมให้สิ่งที่เป็นของครอบครัวเขาต้องตกอยู่ในมือคนอื่นเด็ดขาด

จนในวันนี้วันที่คาร์ดิตันผงาดอยู่เต็มท้องฟ้าอย่างไม่กลัวเมฆฝนหรือพายุใดๆ มาถล่มเขาอยากให้ปู่และพ่อของเขาได้เห็น

เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูบริษัทอยู่ๆ ชายหนุ่มก็ฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ เขาทอดสายตามองออกไปยังท้องถนนด้านหน้า

‘อีกไม่นานรถของคาร์ดิตันกรุ๊ปก็จะได้ออกไปโลดแล่นอยู่บนท้องถนนแบบนั้นบ้าง’

“คิดอะไรอยู่เหรอครับคุณไคล์” เสียงทุ้มแก่ของคนสูงวัยเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังเขา เมื่อหันมองจึงรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือแอนดริวชายชราเจ้าของบริษัทที่เป็นเครือข่ายของคาร์ดิตันกรุ๊ปที่แคนนาดา คนสูงวัยก้าวเดินไปข้างหน้าจนหยุดยืนอยู่ข้างๆ เขา สองมือที่ผิวหนังเหี่ยวย่นล้วงกระเป๋ากางเกงและยืนในท่าเดียวกันกับชายหนุ่มรุ่นหลาน แอนดริวเป็นเพื่อนของปู่เขา เท่าที่ไคล์จำได้ท่านทั้งสองก็ดูรักใคร่กันดียกเว้นตอนที่คาร์ดิตันมีปัญหาภายใน

เขาไม่เคยถามว่าทั้งสองคนเป็นอะไรกันรู้เพียงตอนนั้นสิ่งที่เขาสนใจคือการเอาบริษัทกลับคืนมา ส่วนเรื่องคนทรยศนั้นไคล์ยังไม่ได้สืบสาวราวเรื่องอะไรอย่างละเอียดแต่ก็พอรู้แกวของคนกลุ่มนี้อยู่บ้าง ในเมื่อเขาอยากจะกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของคาร์ดิตันอีกทั้งที่ตัวเองหายหัวไปในตอนที่บริษัทย่ำแย่ที่สุดชายหนุ่มก็ไม่ขัด

หลักในการทำธุรกิจของไคล์ของสิ่งไหนที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กรหรือบริษัทเขายอมลงทุนที่จะเสี่ยงแต่เมื่อรู้ว่าอะไรที่ทำไปแล้วส่งผลเสียต่อตัวเองเขาย่อมจัดการอย่างไม่ลังเล เข้าทำนองนิ้วไหนร้ายตัดนิ้วนั้นและสองปีที่เพื่อนของปู่เขากลับมา เขาได้แสดงให้เห็นว่าตัวเองยังมีประโยชน์กับคาร์ดิตันอยู่ชายหนุ่มจึงยอมที่จะเก็บเสือไว้ใกล้ตัวคราใดที่มันคิดจะแว้งกัดเขาย่อมรู้ตัวได้เร็วเท่านั้น

“สายตาของเธอฉายแววมุ่งมั่นและทุ่มเท ไม่ผิดกับสายตาของคาร์เลนเลยสักนิด” เขาหมายถึงคาร์เลน คาร์ดิตัน ปู่ของไคล์ ปากพูดแต่สายตายังไม่ละจากท้องถนน

“เขาก็มีสายตาแบบนี้ตอนเขาบอกกับฉันว่าเขาจะเปิดบริษัท” แอนดริวเริ่มเล่าเรื่องราวในครั้งอดีต ทั้งที่ตลอดเวลาสองปีเขาไม่เคยคิดจะเปิดปากเล่าเรื่องราวอะไรของปู่ที่เกี่ยวกับบริษัทนี้เลย

“อย่างนั้นเหรอครับ” ชายหนุ่มหันมองเสี้ยวหน้าเพื่อนรักของปู่

“เขาทุ่มเททุกอย่างให้กับมัน ทั้งแรงกายแรงใจจนมันประสบผลสำเร็จ”

“แต่ก็ต้องสูญเปล่า เพราะปู่ไว้ใจคนผิดและไว้ใจคนอื่นมากกว่าตัวเอง” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นแทรก เขายังจำเหตุการณ์ที่วิกฤตที่สุดของคาร์ดิตันได้ เขาไม่มีวันลืมน้ำเสียงสุดท้ายที่ปู่พูดกับเขา สายตาที่จ้องมองเขาและประโยคที่เขาจำขึ้นใจจนทุกวันนี้

‘ไคล์ จงรักษามันไว้เพราะมันเป็นสิ่งสุดท้ายในชีวิตของปู่’

“เรื่องนั้น”

“ช่างมันเถอะครับ ผมไม่อยากพูดถึงมันอีก ถ้าคุณไม่มีธุระอะไรกับผมอีก ผมขอตัว” ชายหนุ่มตัดบทพร้อมกับเดินจากไปทันทีเมื่อรถยนต์สีดำคันหรูที่มีสัญลักษณ์แปลกใหม่กว่ารถที่วิ่งตามท้องถนนทั่วไปจอดเทียบตรงบันได

‘ไอ้เด็กนรกส่งมาเกิด’ ชายแก่สาปส่งในใจ

รถยนต์สีดำติดสัญลักษณ์เป็นรูปตัวซีกลับด้านวิ่งโลดแล่นโฉบเฉี่ยวอยู่กลางท้องถนนของมหานครนิวยอร์กมุ่งตรงสู่ย่านเซ็ลทรัลพาร์คที่ที่เปรียบเสมือนปอดอีกแห่งของนิวยอร์กก็ว่าได้

“ผมว่าคุณแอนดริวคงฉุนไม่น้อยที่คุณสะบัดก้นหนีเขามาแบบนั้น ทั้งที่เขามีเรื่องอยากคุยกับคุณ” เอาบัสเลขาคู่ใจของไคล์เอ่ยขึ้นอย่างติดตลก ทั้งสองรู้จักกันเมื่อครั้งที่ไคล์เคยขอให้เอเมทพี่ชายเขาที่เป็นทนายมาช่วยเรื่องคดีความ ด้วยความที่อายุห่างกันเพียงหนึ่งปีและศึกษาในสาขาวิชาใกล้เคียงกันจึงทำให้สนิทกันอย่างรวดเร็วจนตบท้ายด้วยการเป็นเพื่อนรักและเจ้านายกับลูกน้องฝีมือดีบวกฝีปากกล้าในที่สุด

“ช่างมันสิ” เขาพูดอย่างไม่ยีระ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าคนเขี้ยวลากดินอย่างแอนดริวคิดจะทำอะไรและเขาจะปิดกั้นทุกทางไม่ให้ใครหน้าไหนได้มีโอกาสทำตามใจชอบ ‘เพราะประวัติศาสตร์จะต้องไม่ซ้ำรอยเดิม’

เอาบัสส่ายหน้าให้กับท่าทีของเพื่อน ไคล์ก็จะเป็นคนแบบนี้เขาจะไม่พูดถ้าเขาไม่คิดจะทำและเมื่อพูดออกมาและจะต้องทำมันให้สำเร็จ ทุกอย่างที่เขาถามคือของขอความคิดเห็นและคำปรึกษาไม่ใช่ความเห็นชอบว่าดีหรือไม่ดีหรือว่าควรทำหรือไม่ควรทำ

“อ่อ...ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้เรื่องที่รถนายเกือบวิ่งเฉี่ยวคนที่ถนนแถวอนุสาวรีย์เทพีแห่งเสรีภาพวันนั้น” เขาเอ่ยชื่อเสียยืดยาว

“คนของเราส่งข้อมูลมาแล้ว นายเห็นแล้วอาจจะช็อกก็ได้” ว่าแล้วก็ยื่นซองสีน้ำตาลซองหนึ่งให้ ไคล์ที่นั่งอยู่เบาะด้านหลัง ชายหนุ่มรับมันมาดูพร้อมกับหยิบเอกสารภายในออกมา ดวงตาสีน้ำตาลมีแววสั่นไหวเล็กน้อยเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในนั้น

“แปลกใจล่ะสิที่เป็นเธอ”

“...” ไม่มีคำตอบจากคนที่นั่งอยู่ด้านหลัง

“นายจะเอายังไงต่อไคล์ ให้คนคอยตามอยู่เป็นปีๆ แล้วไม่คิดจะทำอะไรสักอย่างนี่ไม่ใช่สไตล์ของไคล์ คาร์ดิตันเลยนะ”

เอาบัสเริ่มตีรวน เขาเป็นหนึ่งในสองคนที่รู้เรื่องนี้ เรื่องของไคล์คาร์ดิตันกับเด็กสาวอายุสิบห้าในวันนั้น จนตอนนี้เธอโตเป็นหญิงสาวเต็มตัวอายุราวยี่สิบห้าปีได้และที่สำคัญคือเธอสวยสะดุดตาผิดกับตอนที่ไคล์เล่าให้ฟังว่าเจอเธอครั้งแรกอย่างลิบลับราวกับคนละคน

“ช่างเถอะ!” เขาเอ่ยออกมาอย่างนั้น แต่แววตากลับแสดงออกถึงความอาลัยเด็กสาวคนนั้นอย่างปิดบังไม่มิด

“ช่างเถอะ!ๆ นายจะพลาดเรื่องนี้เข้าสักวันนะไคล์ ถ้าไม่อยากเสียใจละก็รีบทำอะไรที่หัวใจเรียกร้องซะ” เอาบัสเตือนอย่างคนหวังดีเขาใกล้ชิดกับไคล์ที่สุด ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าชายหนุ่มต้องการอะไรเพียงแต่เขาไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มรออะไรเท่านั้นเอง

ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองรูปถ่ายสองใบในมือ ใบซ้ายเป็นรูปชายหนุ่มคนหนึ่งที่เขาเองก็พอจะคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ตามหน้าข่าวธุรกิจในหนังสือพิมพ์อยู่บ้าง ใบขวามือเป็นรูปหญิงสาวคนหนึ่งทั้งโครงหน้า จมูก และรอยยิ้มทั้งหมดยังเหมือนเดิมอย่างที่เขาเคยเห็นเว้นเสียแต่นัยน์ตาสีดำเหมือนทะเลในยามค่ำคืนของเธอนั้น บัดนี้ไม่หลงเหลือร่องรอยแห่งความเศร้าและหวาดกลัวอย่างในวันนั้นอีกแล้ว

‘เธอยังอยากจะเจอเขาอีกมั้ย?’

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel