๓ ธรรมดาที่แสนพิเศษ (๑)
๓
ธรรมดาที่แสนพิเศษ
แต่ละวันของเธอผ่านพ้นไปด้วยการเลี้ยงหลานสาวแสนน่ารัก เสาร์อาทิตย์ที่เคยเงียบเหงาก็มีเด็กหญิงดลญาดามาคอยสร้างสีสัน ไม่รู้ว่าตรีภพเลี้ยงลูกมาอย่างไร ทำไมหนูน้อยถึงน่ารักมากขนาดนี้ เธอมองพี่อนุบาลสามด้วยแววตาทอประกายอบอุ่น
วิศวกรหนุ่มยุ่งมากขึ้นเพราะได้รับโปรเจคใหญ่ วันหยุดก็ไม่ได้หยุดต้องไปทำงานข้างนอก หน้าที่พี่เลี้ยงจึงตกเป็นของหล่อนไปโดยปริยาย บางครั้งเขาก็ให้เงินเธอเอาไว้ซื้อของกินและใช้จ่ายสำหรับลูกสาวตัวน้อยบ้าง พร้อมคำขอบคุณที่ได้ยินจากปากหนาบ่อยเหลือเกิน แววตาที่มองก็ซาบซึ้งในน้ำใจของหญิงข้างบ้าน
“หนูไปนอนกับน้าบุ้งนะ” วันที่เขาหยุดอยู่บ้าน คิดจะเล่นกับลูกสาวให้หายคิดถึง แต่เด็กน้อยกลับหอบตุ๊กตาตัวโปรดวิ่งจากชั้นบนผ่านหน้าเขาไปโดยไม่ลืมหันมาบอกแบบขอไปที ทำเอาตรีภพเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นหมาหัวเน่า
“เดี๋ยวก่อน มาหาพ่อ” เท้าเล็กหยุดชะงัก จำต้องเดินไปหาบิดาก่อนที่เขาจะอุ้มอีกฝ่ายขึ้นนั่งบนตัก
ดวงตากลมวาวเหมือนนลินลิดาไม่มีผิด มองทีไรก็เหมือนเห็นภาพของภรรยาทับซ้อน ของขวัญชิ้นพิเศษที่หล่อนมอบไว้ให้ดูต่างหน้า เขาจึงพยายามทะนุถนอมลูกสาว และคิดว่าชีวิตนี้จะมีเพียงเมียเดียว ไม่ขอเอาใครมาแทนที่อีก
“ไม่คิดถึงพ่อเหรอ วันนี้อุตส่าห์ว่างจะเล่นกับลูก ยังทิ้งพ่อไว้คนเดียวอีก...พ่อน้อยใจเหมือนกันนะ” ทำหน้าเศร้าอ้อนเด็กบนตัก พอดลญาดาเห็นอย่างนั้นก็รู้สึกผิด แต่ความต้องการในใจก็ไม่ได้เปลี่ยนไป
“พรุ่งนี้จะมาเล่นกับพ่อ หนูไปนะ” อย่างไรพรุ่งนี้ก็ไม่ได้ไปโรงเรียน วันนี้ให้เวลากับน้าสาวส่วนพรุ่งนี้เป็นของพ่อ ทุกอย่างดูลงตัวไปหมดจนเขานึกเอ็นดูคนที่ช่างจัดแจง จำยอมต้องปล่อยเด็กหญิงลงก่อนที่ดวงตาจะฉายแววเจ้าเล่ห์
“ก็ได้...ถ้างั้นบัตรเข้าสวนสนุกก็ไม่ต้องเอาหรอกเนอะ หนูไปเล่นกับน้าบุ้งเถอะ เดี๋ยวพ่อเอาบัตรไปให้คนอื่นเอง” พอได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจ รีบปีนป่ายขึ้นมานั่งตักบิดาแล้วกอดคอหนาเอาไว้อย่างที่เคยทำเป็นประจำ
เรื่องอ้อนขอให้บอก ทำจนกลายเป็นความสามารถพิเศษยามอยากให้คนอื่นตามใจแล้ว “หนูอยากไป ไปกับพ่อ...แล้วก็น้าบุ้งด้วย” ยิ้มกว้างจนเห็นฟันซี่เล็กเรียงตัวสวย
การได้ไปเที่ยวกับพ่อคือความฝันเพราะเคยไปด้วยกันเพียงแค่ครั้งสองครั้ง จึงรีบฉวยโอกาสนั้นเอาไว้ แต่การไปสองคนก็ไม่สนุกเท่าไหร่ จึงเอ่ยชื่อของคุณน้าข้างบ้านที่ตอนนี้สนิทสนมกันเป็นอย่างดี ตัวติดกันแทบเป็นปาท่องโก๋อยู่แล้ว
เพราะเลศยาตามใจและทำอาหารอร่อย
เสียงก็เพราะยิ้มก็สวย...แถมยังใจดีอีกต่างหาก
จะไม่ให้เด็กหญิงดลญาดาหลงคุณน้าได้อย่างไร
“ไปชวนสิ พ่อจะขึ้นไปเปลี่ยนชุดแล้วออกไปข้างนอกกัน”
“ค่ะ!”
มองตามแผ่นหลังเล็กที่วิ่งไปข้างบ้าน เห็นอย่างนั้นก็เผยยิ้มเอ็นดูลูกสาวตัวน้อย ก่อนจะเดินขึ้นห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เป็นเสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่ดูทางการกว่าใส่กางเกงขาสามส่วนอยู่บ้าน แต่ก็ไม่ดูแฟชั่นจนเกินไป
แต่งตัวเรียบร้อยก็เดินลงมาข้างล่าง ก่อนจะพบเพื่อนข้างบ้านที่วุ่นอยู่ในห้องครัว โดยมีดลญาดาตามติดไม่ห่าง เหมือนแม่ลูกกันชะมัด เขาแอบคิดและเผลอหัวเราะคนเดียว
น่าเสียดายที่นลินลิดาจากไปตั้งแต่ลูกน้อยยังไม่ทันรู้ความ จึงเห็นเพียงภาพถ่ายและฟังเรื่องบอกเล่าจากพ่อเท่านั้น ไม่ได้รับความรักจากคนเป็นแม่เหมือนคนอื่น แต่เขาก็พยายามทำหน้าที่พ่อและแม่ให้หนูน้อย
ทว่ามันอาจจะไม่ดีพอ...
“ทำอะไรเหรอบุ้ง” เดินเข้าครัวแล้วก็เอ่ยปากถาม
“อ้อ แซนวิชค่ะ พี่ภพบอกว่าจะไปสวนสนุกกลัวว่าญาดาจะหิวเลยทำไปเผื่อเอาไว้ มีคุกกี้ด้วยนะคะ ทำเมื่อวานค่ะพี่ภพจะลองชิมหรือเปล่า” พอได้รู้จักและพูดคุยกันบ่อยทำให้สนิทสนมไปโดยปริยาย อาการเขินอายที่มีในตอนแรกจึงค่อยเบาบางลง
เขาหยิบคุกกี้จากมือของเธอกัดเข้าปาก ชิมรสชาติถึงกับยกนิ้วโป้งเป็นการชม “อร่อยมาก” หล่อนมีฝีมือในการทำอาหาร ขนาดอาหารบางอย่างที่ไม่เคยทำ เพียงแค่ดูจากวิดีโอก็ทำตามแล้วอร่อยเป็นอย่างมาก ผิดจากตนที่พยายามทำตามเท่าไหร่ก็ไม่อร่อยสักที
อย่างนี้แหละจึงต้องพึ่งอาหารจากตลาดตลอด แต่พอมีเลศยาเข้ามาดูแลเรื่องลูกสาวของเขา เธอก็ช่วยเรื่องการกินไปด้วย เขาจึงได้รับอานิสงค์กินอาหารอร่อยสดใหม่แทบทุกเช้าโดยไม่ต้องรีบตื่นไปซื้ออยู่ตลาด
บอกลาขนมปังปิ้งกับไข่ดาวไปได้เลย...
“ไปกันค่ะ” เตรียมของทุกอย่างเรียบร้อยก็เงยหน้ามองชายหนุ่มที่ตอนนี้หยิบคุกกี้เข้าปากจะหมดกล่องอยู่แล้ว เขากินเพลินไปหน่อยจึงทำได้เพียงยิ้มแหยะตอนหล่อนมอง กลัวหญิงสาวจะดุแต่เธอกลับไม่พูดอะไร
“ครับ”
ตอบรับเสียงเบาแล้วเดินไปขึ้นรถยนต์ของตนเอง นั่งตำแหน่งคนขับโดยสองน้าหลานพากันนั่งข้างหลัง เบาะหน้าเป็นที่วางของซึ่งทำให้เขาดูเหมือนคนขับรถไปโดยปริยาย
พอเธอบอกจะไปนั่งข้างหน้าด้วยก็ถูกหลานสาวดึงเอาไว้ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินไปนั่งเบาะหลังแล้วขอโทษขอโพยชายหนุ่ม แต่เขาก็ไม่ได้คิดมาก ดีเสียอีกที่เธอนั่งคุยเป็นเพื่อนดลญาดาที่ช่างจ้อเสียเหลือเกิน