๒ น้ำตาไหลกลับ (๒)
คิดถูกแล้วที่พาดลญาดามาด้วย...
“พ่อ เหมือนน้าบุ้งจะไม่สบายเลย ตอนไปรับหนูที่โรงเรียนตางี้แดงก่ำ เหมือนคนร้องไห้ ไม่รู้น่าบุ้งเป็นอะไร...หนูสงสารน้าบุ้งจัง” รีบเข้ามานั่งข้างพ่อแล้วบอกเล่าสิ่งที่เห็น เขาได้ฟังเช่นนั้นก็นึกเป็นห่วงหล่อน ชะเง้อมองข้างบ้านเห็นเพียงไฟหน้าบ้านที่เปิด
แต่ข้างในกลับมืดสนิทเหมือนไม่มีคนอยู่ ใจเขาก็เริ่มพะวงทว่าไม่อยากคิดอะไรมาก เธอทำงานอยู่บ้านทั้งวันไม่น่าจะมีเรื่องเศร้าหรอก ลูกสาวเขาอาจคิดไปเอง
“เราไปรู้ได้ยังไง แสนรู้เหลือเกินนะลูกสาวพ่อ”
“พ่ออ่ะ เพื่อนหนูเคยร้องไห้ก็เป็นแบบน้าบุ้งเลย พ่อพาหนูไปหาน้าบุ้งหน่อยสิ นะพ่อ น้า” ปฏิบัติการอ้อนพ่อเริ่มขึ้น แล้วอย่างนี้เขาจะขัดได้ที่ไหนล่ะ จำต้องพยักหน้าแล้วลุกจากโซฟา อุ้มเด็กหญิงเอาไว้มั่นก่อนเดินไปข้างบ้าน
รั้วไม่ได้ล็อคจึงเลื่อนเปิดอย่างง่ายดาย เธอจะว่าเขาเสียมารยาทหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ตอนนี้วางเรื่องมารยาทลงก่อนเถอะ อยากรู้เหมือนกันว่าหล่อนร้องไห้จริงไหม
แล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเลศยากันแน่
“บุ้ง บุ้ง...เปิดประตู...อ้าว ไม่ได้ล็อคนี้น่า” เคาะประตูแต่กลายเป็นว่าบานประตูเลื่อนออกอย่างง่ายดาย เขาจึงพึมพำกับตัวเองแล้วค่อยเดินเข้ามาในบ้านของเธอเป็นครั้งแรก กลิ่นหอมจากสเปรย์ปรับอากาศเตะเข้าจมูก บ้านสะอาดสะอ้านจนคิดว่าฝุ่นสักเม็ดบนพื้นยังไม่มีด้วยซ้ำ
เขาพยายามกวาดตามองหาเจ้าของบ้าน เลือกจะเดินไปเปิดไฟเพราะคิดว่าตำแหน่งน่าจะอยู่ที่เดียวกับบ้านของตน เพราะบ้านของพวกเราเป็นบ้านจัดสรรที่โครงสร้างภายในเหมือนกันแทบทุกหลัง นอกจากบางหลังที่ต่อเติมเอง
เพียงแค่ไฟสว่างก็ต้องตกใจเมื่อเห็นร่างบางนั่งดื่มแอลกอฮอล์อยู่บนพื้นเพียงลำพัง รีบปล่อยบุตรสาวลงแล้วเดินเข้าไปหาหล่อน ไม่รู้ดื่มไปนานแค่ไหนแต่คนตัวเล็กก็นั่งแทบไม่ตรง ขยับตัวโงนเงนพร้อมน้ำตาที่ไหลพราก
ร้องไห้แต่ไม่มีเสียงสักแอะ คงพยายามเก็บความเจ็บปวดเอาไว้ จนเขาสงสัยว่าเธอเสียใจเรื่องอะไร
“เกิดอะไรขึ้น บอกพี่ได้หรือเปล่า เสียใจเรื่องอะไร” เสียงทุ้มที่ดังขึ้นตรงหน้า ทำให้คนเมาเงยขึ้นมอง พอเห็นว่าเป็นใครก็ร้องไห้หนักกว่าเดิม โดยที่ไม่พูดอะไรเลยสักคำ
ตรีภพเองก็เคยทิ้งเธอไปเหมือนกัน
ทิ้งเธอไว้กับรักแรกที่เจ็บปวด...
แต่เขาไม่ผิดหรอก ชายหนุ่มไม่ผิดเลย ความรักมันบังคับกันไม่ได้ การที่ร่างสูงไม่รักเธอคงจะโทษเจ้าตัวไม่ได้ ผิดที่หล่อนไปหลงรักรุ่นพี่สุดหล่อเอง
และผิดที่เธอให้ใจกับคนไม่คู่ควร...ชาคร
ทำแบบนี้ได้อย่างไร ทิ้งตนไปแต่งงานกับคนอื่น คิดจะหลอกกันไปอีกนานแค่ไหน หากเพื่อนสนิทไม่ส่งการ์ดให้ดู ทุกวันนี้เธอก็คงเป็นแค่คนโง่ที่ให้เขาหลอกไปวันๆ
“ฮึก” นั่งชันเข่าแล้วยกมือกอดขาตัวเองเอาไว้ ซุกใบหน้าลงก่อนสะอื้นไห้จนตัวโยน เขาเห็นเช่นนั้นก็สงสารหล่อนเป็นอย่างมาก แต่ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร เคยปลอบใครเสียที่ไหนล่ะ รู้ดีว่าถึงปลอบไปก็ไร้ความหมาย
เหมือนตอนที่ภรรยาของเขาจากไป ชายหนุ่มไม่กินข้าวกินปลาเอาแต่นั่งเหม่อลอยคิดถึงหล่อน กระทั่งได้ยินเสียงลูกร้องจึงได้สติ คิดได้ว่าเธอไม่ได้ไปตัวเปล่ายังหลงเหลือความทรงจำแสนสุขที่เคยมีร่วมกันไว้ให้เขา
และดลญาดาที่ต้องดูแลแทนเธออย่างดี ไม่ให้นลินลิดามาว่าเอาได้ว่าเขาละเลยลูก
“น้าบุ้งไม่ร้อง ฮือ ไม่ร้องนะคะ” เด็กหญิงสงสารคุณน้าจับใจ เดินเข้ามากอดพร้อมกับปลอบเสียงสะอื้น ปล่อยโฮเช่นเดียวกันจนเธอต้องเงยหน้าขึ้นมองหลาน
“หนูรักน้าบุ้งไหม”
“รัก หนูรักน้าบุ้ง”
“จะไม่ทิ้ง ไม่ทิ้งน้าใช่ไหม”
“ไม่ทิ้งค่ะ หนูจะอยู่กับน้าบุ้ง” พอได้ยินคำว่าไม่ทิ้งก็เหมือนยิ่งทำให้เธอร้องไห้หนักกว่าเดิม
ไม่ว่าจะพ่อแม่หรือยาย ทุกคนต่างทิ้งหล่อนไว้บนโลกนี้เพียงลำพัง มาถึงตอนนี้ยังถูกชายที่รักทิ้งอย่างเลือดเย็นโดยการไปแต่งงานกับหญิงอื่น หัวใจของเธอแทบจะแหลกสลายเป็นผุยผงอยู่แล้ว แต่ก็กลั้นสะอื้นเอาไว้
กอดหลานสาวตัวเล็กด้วยความรักสุดหัวใจ น้ำตาไหลเป็นสายเปื้อนชุดหนูน้อยจนแผ่นหลังเล็กชุ่มด้วยน้ำ ก่อนที่คนเมาจะปล่อยให้ดลญาดาเป็นอิสระ พร้อมกับร่างกายที่ล้มลงบนพื้นทำเอาเขารับเกือบไม่ทัน
เมาแล้วหลับ...ทั้งน้ำตา