๒ น้ำตาไหลกลับ (๑)
๒
น้ำตาไหลกลับ
ไม่รู้ว่าหล่อนขับรถจากโรงเรียนของดลญาดามาถึงห้องสำหรับจัดประชุมที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นจัดงานแต่งของโรงแรมได้อย่างไร มองดูแล้วจุคนไม่ต่ำกว่าหนึ่งพัน กวาดสายตามองแขกเหรื่อที่พากันเหลียวมองหล่อนพลางหันไปกระซิบกระซาบ
ไม่ใช่เพราะรู้ว่าตนเป็นใคร
แต่เป็นเพราะการแต่งตัวด้วยเสื้อยืดและกางเกงยีนส์และรองเท้าผ้าใบต่างหาก จึงกลายเป็นจุดสายตาของใครหลายคนซึ่งสวมชุดราตรีมาร่วมยินดีกับคู่บ่าวสาว
แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าคนที่คบมาหลายปีจะหักหลังกันอย่างเลือดเย็น เขาไม่เคยแสดงพิรุธให้สงสัยสักครั้ง ไปมาหาสู่กันปกติ โทรหาทุกวันแม้บางครั้งจะคุยไม่นาน แต่ตอนเย็นก็จะมาหาพร้อมอาหารมากมายวางเรียงเต็มโต๊ะ กับอ้อมกอดอบอุ่นที่ทำให้หล่อนมีพลังทำงาน
ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้...เขาจะกลายเป็นเจ้าบ่าวของหญิงอื่น
หล่อนอุตส่าห์ถนอมร่างกายเพื่อมอบให้อีกฝ่ายในสักวันที่เราจะแต่งงานกัน แต่ตอนนี้เหมือนว่าจะไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว
ดวงตากลมสั่นไหวมองภาพตรงหน้าที่บ่าวสาวเดินยิ้มแย้มทักทายแขก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงเลือกผู้หญิงคนนั้น
ลูกสาวนักธุรกิจทั้งยังเป็นหลานสาวของท่านรัฐมนตรี ครอบครัวมีชื่อเสียงนามสกุลดังสามารถยืนเคียงข้างเขาได้อย่างไม่อายใคร ไม่ใช่หล่อนที่เป็นเพียงหญิงรากหญ้า คล้ายดอกไม้ริมทางให้เขาเด็ดเล่น น่าขันเหลือเกินที่เชื่ออีกฝ่ายหมดหัวใจ
ใครกันที่บอกว่าจะรักเธอเพียงคนเดียว อยากสร้างครอบครัวร่วมกัน
เลศยากังวลตลอดเวลาว่าครอบครัวชายหนุ่มจะไม่ยอมรับตน แต่เขาก็พยายามปลอบจนเธอคลายใจ ว่าเราจะสามารถก้าวข้ามปัญหาทุกอย่างไปด้วยกันได้
สุดท้าย...เธอคือคนที่ถูกทิ้ง
“ขอซองหน่อยได้ไหมคะ ฉันอยากแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว” ยืนมองอยู่สักพักก็เดินไปที่โต๊ะยาวด้านหน้า ซึ่งเป็นจุดเขียนแสดงความยินดีและกล่องใส่ซองที่เต็มไปด้วยน้ำใจของคนมาร่วมงาน
หล่อนรับซองสีชมพูมาถือไว้ ก่อนจะเขียนชื่อของตัวเองเด่นหรา หยิบเงินมาใส่พร้อมปิดซองสนิท หย่อนลงกล่องแล้วไม่ลืมเขียนอวยพรให้ความรักของคนหลอกลวง ถึงภาพตรงหน้าจะพร่าเบลอเนื่องจากน้ำตาที่ไหลไม่หยุด ก็พยายามตั้งสติเขียนจนจบ
“ขอบคุณค่ะ” ไม่อยู่เป็นเป้าสายตาของใคร
ทำธุระเรียบร้อยก็เดินลงไปข้างล่างทันที ขึ้นบนรถมาได้ก็ปล่อยโฮอย่างสุดกลั้น เธอคงจะรู้สึกดีกว่านี้หากไม่เห็นรอยยิ้มหวานของเขาที่แจกจ่ายให้คนรอบข้าง
และมอบให้เจ้าสาว...ราวตกอยู่ในห้วงภวังค์แห่งความรัก
นั่นหมายความว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการบังคับ แต่เป็นเพราะคนทั้งสองรักกันต่างหาก แล้วเธอล่ะ...เธออยู่สถานะไหนในชีวิตของเขา
ไม่มีคำตอบและเธอก็ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไป เช็ดน้ำตาจนหมดก็รีบขับรถกลับบ้าน ภายในหัววนเวียนถึงเรื่องราวความรักของเราที่ผ่านมา รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ เหตุการณ์ที่ผ่านมาร่วมกัน เป็นเธอคนเดียวอย่างนั้นหรือที่จดจำสิ่งเหล่านั้นได้
ขณะที่เขาลืมเลือนไปจนหมด
กว่าจะกลับมาถึงบ้านพลังงานทั้งหมดของวิศวกรหนุ่มก็หมดลงแล้ว เขาเปิดประตูเข้ามาก่อนทิ้งกายลงบนโซฟา ไม่นานก็ได้ยินเสียงกุกกักในครัว ก่อนเด็กหญิงจะเดินถือแก้วน้ำเย็นเข้ามายื่นตรงหน้าคนเป็นพ่อ แค่เห็นก็จุดรอยยิ้มที่มุมปากของตรีภพได้ไม่ยาก
ถึงภรรยาสุดที่รักจะจากไป แต่ก็ยังทิ้งของขวัญแสนล้ำค่าไว้ให้เขาดูต่างหน้า
“น้ำค่ะ”
“ยัยหนูของพ่อน่ารักจังเลย” หยิบแก้วจากมือเล็กมาดื่มจนหมด
ย้ายมาบ้านหลังนี้เกือบสองสัปดาห์แล้ว งานของเขาเริ่มเข้าที่เข้าทางแต่ก็ยังหนักเหมือนเดิม นอกจากออกไซต์ก่อสร้างยังต้องเข้าบริษัททำเอกสารงบประมาณ เขาอยากรีบสร้างผลงานเพื่อให้ตัวเองมีชื่อเสียงในวงการ แต่ทุกอย่างเร่งรีบไม่ได้ ค่อยเป็นค่อยไปก็ดีจะได้ไม่เหนื่อยมาก
ยกมือขึ้นลูบศีรษะมน นึกโล่งใจที่มีเพื่อนบ้านคอยดูแลลูกสาวให้ตน บางวันก็ไปส่งบางวันก็ไปรับมาส่งถึงบ้าน เขาไม่ต้องห่วงหน้าผะวงหลัง กลับมายังมีกับข้าวที่เธอทำเผื่อวางไว้บนโต๊ะอีกต่างหาก ส่วนลูกสาวก็กินอิ่มทุกวัน โดยไม่บ่นฝีมือการทำอาหารของพ่อ หรือบอกว่าเบื่ออาหารอย่างที่เคยเป็น