๑ เพื่อนข้างบ้านที่คุ้นเคย (๔)
“ยังไม่ได้ขายเลย แค่ถามเอง...แต่ทุกคนก็ทำกับข้าวอร่อยกว่าพ่อหมดนั่นแหละ พ่อทำแล้วกินไม่ได้เลย” ส่ายหน้าทันทีจนเธอนึกสงสัย กับข้าวบนโต๊ะเขาไม่ได้ทำเหรอ
“กับข้าวพี่ซื้อมาจากตลาด บุ้งกินข้าวหรือยัง มากินด้วยกันไหม” พยักหน้าเข้าใจทันทีว่าทำไมลูกสาวถึงถามเรื่องทำอาหาร ที่แท้คุณพ่อทำกับข้าวไม่เก่งและพึ่งอาหารจากตลาดนั่นเอง หล่อนแอบยิ้มเอ็นดูท่าทีของเขา ก่อนคิดขึ้นได้ว่าตนทำมื้อเย็นเอาไว้
ถ้ามาแบ่งให้เด็กหญิงได้กินด้วยก็คงจะดี...
“ได้ค่ะ แต่บุ้งทำสปาเก็ตตี้เอาไว้...เดี๋ยวไปตักมาให้ลองชิมนะคะ” หนูน้อยตาลุกวาวด้วยความดีใจ ความจริงไม่ค่อยอยากกินอาหารที่บิดาซื้อเท่าไหร่
“หนูอยากกิน!”
เธออมยิ้มกับท่าทีแสนน่ารักของหลานสาว เดินกลับบ้านแล้วทำอาหารจนเสร็จ ปิดบ้านเรียบร้อยจึงเดินมาบ้านข้างเคียง แค่วางอาหารลงบนโต๊ะก็ถูกเด็กหญิงตักเข้าปากทันที สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศที่หล่อนทำกินเป็นประจำเพราะค่อนข้างสะดวกทำง่ายไม่ต้องรอนาน ใครจะคิดว่าต่อจากนี้จะกลายเป็นเมนูโปรดของเด็กหญิงดลญาดาไปซะได้
“น้าบุ้งทำกับข้าวอร่อย อร่อยมากเลย” ชมไม่ขาดปาก เธอเห็นก็นึกเอ็นดู
พูดเก่งเหมือนนลินลิดาไม่มีผิด ทำเอาคิดถึงเพื่อนสนิทขึ้นมาครามครันจนน้ำตาคลอเบา ไม่น่าด่วนจากไปเลย...
“หนูขอไปกินข้าวบ้านน้าบุ้งได้ไหม”
“ได้สิ หนูมาได้ตลอดเลยนะ น้าอยู่บ้านไม่ค่อยได้ออกไปไหนหรอก” คนที่ตื่นเต้นไม่ใช่แค่ลูก แต่เป็นคนพ่อด้วยที่ตาโตด้วยความดีใจ เหมือนนางฟ้ามาโปรดก็ไม่ปาน
“ไม่ค่อยได้ออกไปไหนเหรอ แล้วบุ้งทำงานอะไร”
“เขียนนิยายค่ะ ส่วนมากก็แต่งอยู่บ้าน...บางครั้งก็ไปเที่ยวบ้างสักสัปดาห์ค่อยกลับ พี่ภพมีอะไรหรือเปล่าคะ” บอกเขาตามตรงและดูท่าว่าคำตอบของหล่อนจะสร้างความพอใจแก่ชายหนุ่มเป็นอย่างมาก ถึงขั้นจ้องเธอตาวาว
เล่นเอาหญิงสาวทำตัวไม่ถูก แต่พอจะมองออกว่าเขาคงต้องการความช่วยเหลือ
“พี่ฝากญาดาหน่อยได้ไหม บางวันพี่ต้องทำงานเลิกค่ำบ้างก็กลัวว่าลูกจะอยู่คนเดียว หรือถ้าวันไหนพี่ไปรับลูกไม่ทันจะฝากบุ้งช่วยไปรับได้หรือเปล่า” พอจะทราบว่าชายหนุ่มเป็นวิศวกรแต่ไม่รู้เนื้องานของเขาเท่าไหร่
ทว่าดูจากแววตาเป็นกังวลของอีกฝ่าย เธอก็ไม่อาจใจจืดใจดำได้ อย่างไรตนก็อยู่บ้านคนเดียว มีเด็กมาอยู่ด้วยก็ดีเหมือนกัน เผื่อได้แรงบันดาลใจแต่งนิยายเรื่องต่อไป คิดดังนั้นก็พยักหน้ารับด้วยความยินดี
“ได้ค่ะ ดีเหมือนกันบุ้งจะได้มีเพื่อน”
“เย้! หนูจะได้กินข้าวอร่อยๆ” เด็กหญิงร้องตะโกนด้วยความดีใจ คนเป็นพ่อถึงกับอับอายที่ตัวเองไม่ได้เรื่องจนลูกสาวเอาไปขายได้
อาหารมื้อนั้นพวกเขารับประทานด้วยกันจนอิ่ม โดยที่หล่อนขอเป็นคนล้างจานตอบแทน ค่อยกลับบ้านของตัวเองเพื่อเช็คงานแล้วล้มเลิกแผนที่จะไปเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์ เหมือนว่าต่อจากนี้ตัวเองจะไม่ได้เหงาอีกต่อไป
มีเพื่อนต่างวัยอยู่ด้วยแล้ว...
ช่วงเช้าที่เคยตื่นสายก็ต้องตื่นเช้าเพราะเสียงปลุกจากเพื่อนบ้าน ไม่น่าเชื่อว่าเพิ่งเจอกันเพียงครั้งเดียวแต่หนูน้อยกลับรู้สึกสนิทสนมกับคุณน้าจนไปมาหาสู่ได้อย่างปกติ ปีนรั้วบ้านข้ามมาเคาะประตูด้านหน้าจนร่างบางต้องลุกจากเตียงแล้วลงมาต้อนรับ
“หนูอยากถักเปียค่ะ น้าบุ้งถักให้ได้หรือเปล่า” ถือยางหลากสีกับกิ๊บตัวการ์ตูนมาด้วย
เธอยิ้มรับแล้วเปิดบ้านให้เด็กหญิงเข้ามา เรื่องนี้ทำผมต้องยกให้เธอเพราะเพื่อนสนิทมักขอร้องให้ทำผมตามสมัยนิยม จึงกลายเป็นว่าทำจนชิน สร้างสรรค์ทรงผมได้หลากหลายเป็นที่ถูกใจนักเรียนชั้นอนุบาลสามจนต้องมาหาคุณน้าทุกเช้า
ขณะที่คนเป็นพ่อรีบแต่งตัวเพราะตื่นสาย กลัวไปส่งลูกช้าแล้วจะไปทำงานไม่ทัน แต่พอเรียกหากลับไม่พบดลญาดา
“พ่อเรียกแล้วนะลูก”
“หนูไม่อยากไปกับพ่อ”
พ่อขับรถเร็วแล้วก็สบถเวลาเจอรถตัดหน้า บอกพ่อแล้วว่าไม่ให้พูดก็ยังพูดอีกตั้งหลายครั้ง จนหนูน้อยไม่อยากนั่งรถด้วย
“งั้นรอน้าแป๊บนะคะ” ได้ยินอย่างนั้นพร้อมกับฟังเสียงร้อนรนของเขา ก็ตัดสินใจเดินไปหาอีกฝ่ายที่ริมรั้ว
“พี่ภพคะ” เพียงแค่เห็นใบหน้าแฉล้มของสาวข้างบ้านก็รู้ได้ในทันทีว่าลูกสาวตัวน้อยอยู่ที่ไหน เขาไม่รอช้ารีบถามหาอย่างรวดเร็ว
“ญาดาอยู่บ้านบุ้งเหรอ”
“ค่ะ แกให้บุ้งช่วยทำผม...ถ้าพี่ภพรีบไปก่อนก็ได้นะ วันนี้บุ้งว่างจะไปส่งแกที่โรงเรียนเอง พี่ไปช้าจะเข้าสายนะคะ”
สายตาของเขาเต็มไปด้วยคำขอบคุณ ความจริงจะฝากลูกไว้ที่บ้านปู่ย่าก็ได้ แต่เขาก็กลัวว่ายิ่งห่างไกลสายสัมพันธ์พ่อลูกจะห่างกันไปด้วย จึงเอาลูกมาเลี้ยงที่นี่ และเป็นโชคดีของเขาที่เพื่อนบ้านคือคนรู้จัก ช่วยแบ่งเบาชายหนุ่มได้มากทีเดียว
“ขอบคุณมากนะ ไว้ตอนเย็นพี่จะซื้อกับข้าวมาฝาก” เธอพยักหน้ารับก่อนมองร่างสูงขับรถออกจากบ้าน ค่อยเดินกลับเข้ามาทำผมอีกข้างให้หนูน้อย สงสัยคราวหน้าจะต้องทำอาหารเช้าไว้คอยท่าเสียแล้ว เท่าที่ฟังจากเด็กหญิงเล่า คนเป็นพ่อเตรียมแค่ขนมปังกับไส้กรอกให้ลูกเท่านั้น
สารอาหารไม่ครบแล้วจะโตได้อย่างไร หล่อนจะขุนลูกสาวของเพื่อนเอง
ไปส่งเด็กหญิงที่หน้าโรงเรียนแล้วโบกมือลากันเรียบร้อย แต่ยังไม่ทันจะขับรถออกไปไหนก็มีข้อความเข้ามาเสียก่อน
‘ใจเย็นและตั้งสติเอาไว้นะแก พวกฉันอยู่ข้างแกเสมอ’
เป็นเพื่อนที่ส่งไลน์เข้ามา พร้อมแนบรูปภาพที่ทำให้เธอนั่งอึ้งอยู่กับที่ หัวใจตกไปอยู่ตาตุ่มขณะไล่สายตาอ่านการ์ดแต่งงาน
ดาริกา ชาคร
ทำไมชื่อเจ้าบ่าวถึงเป็นแฟนของเธอล่ะ!
ที่สำคัญตามกำหนดการในการ์ด งานหมั้นและงานแต่งจัดขึ้นวันนี้ โดยที่หล่อนไม่รู้เรื่องหรือระแคะระคายสักนิด!