๑ เพื่อนข้างบ้านที่คุ้นเคย (๑)
๑
เพื่อนข้างบ้านที่คุ้นเคย
แว่นตากรอบใสถูกถอดออกเมื่องานที่ทำเสร็จสิ้นพร้อมส่ง พรูลมหายใจด้วยความโล่งอกแล้วหยิบแก้วชาที่วางไว้ใกล้มือขึ้นมาดื่ม บิดกายไล่ความเมื่อยล้าหลังนั่งทำงานทั้งวันไม่ได้ลุกไปไหน ข้าวปลาก็ไม่ได้แตะเสียด้วยซ้ำจนท้องเริ่มร้องประท้วง จึงต้องเร่งรีบเข้าครัวมาหาอาหารเที่ยงกิน ในเวลาหกโมงเย็นที่ตะวันเคลื่อนต่ำใกล้ลาลับขอบฟ้า
เลศยาในวัยเบญจเพสไม่มีเรื่องราวร้ายเกิดขึ้นในชีวิต เพราะสิ่งเหล่านั้นเธอจัดให้อยู่ในช่วงอายุยี่สิบสองปี วันที่เสียยายผู้เป็นที่รักไปตลอดกาล ความทรงจำที่กลับบ้านเพื่อถ่ายรูปรับปริญญากับท่าน กลับพบหญิงชรานอนหลับสนิทบนแคร่หน้าบ้าน
ไร้ซึ่งลมหายใจ...
เธอร้องไห้ปริ่มขาดใจ แทบจะปลิดชีพตามท่านไปด้วย นึกโกรธยายที่ทิ้งตนเอาไว้บนโลกเพียงลำพัง วันงานสวดศพไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรสักอย่าง นอกจากนั่งนิ่งมองรูปหน้าโลงศพ คล้ายร่างที่ไร้วิญญาณ จนคนในหมู่บ้านต้องมากอดปลอบและอยู่เป็นเพื่อนถึงวันเผา
เมื่อพิธีทางศาสนาเสร็จสิ้น หล่อนปิดตายบ้านหลังนั้นแล้วนำอัฐิของคนในครอบครัวมาเมืองหลวงด้วย เลือกจะซื้อบ้านจัดสรรใกล้ที่ทำงาน โดยใช้เงินประกันของยายส่วนหนึ่งมาดาวน์บ้าน ค่อยผ่อนจ่ายตามจำนวนเป็นระยะเวลากว่าสามปีแล้ว
หากได้เงินจากงานที่ทำเยอะก็จ่ายในส่วนของบ้านเยอะหน่อย อีกไม่กี่ปีก็คงจะหมด บ้านหลังนี้จะได้เป็นของหล่อนสักที...
“ถึงเวลาเที่ยวแล้วเหรอ ไปจังหวัดไหนดีนะ” ทำอาหารง่ายๆ รับประทานยามเย็นอย่างสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ ใช้เวลาไม่เยอะเพราะขี้เกียจจะมาหุงข้าวแล้วต้องรอ กว่าจะได้กินคงหมดอยากกันพอดี
หล่อนเคยทำงานบริษัทเกี่ยวกับบัญชีที่ร่ำเรียนมา แต่ไม่มีความสุขในการทำงานจึงลาออกแล้วกลายเป็นนักเขียนนิยายออนไลน์ ไม่น่าเชื่อว่ารายได้แต่ละเดือนจะมากจนสามารถผ่อนบ้านและซื้อรถได้หนึ่งคัน
ไม่ต้องออกไปเบียดเสียดกับผู้คนให้วุ่นวาย ทำงานตามใจตัวเอง แบ่งเวลาไปเที่ยวพักผ่อนบ้าง แค่นี้ก็พอแล้ว...
เธอไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่านี้อีก
“ค่ะพี่เมฆ บุ้งอยู่บ้านค่ะ พี่เมฆจะเข้ามาหรือเปล่า” เลือกสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ดีๆ หน้าจอก็เปลี่ยนเป็นสายเรียกเข้าจากแฟนหนุ่มที่คบหามานานกว่าสี่ปี
เขาเป็นรุ่นพี่รั้วมหาวิทยาลัยเดียวกัน ตอนแรกก็คบหาเป็นพี่รหัสน้องรหัส แต่นานวันเข้าความรู้สึกก็เริ่มเปลี่ยนไป จนสถานะของเราพัฒนาเป็นคนรัก ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะมีแฟน ตอนที่ถูกเขาขอเป็นแฟนกลางร้านอาหารยังตกใจแทบแย่ นึกว่าอีกฝ่ายล้อเล่นเสียอีก
แต่เราก็คบกันมาถึงตอนนี้ ทุกอย่างคือเรื่องจริง...
หลังกลับจากงานศพยายก็มีอีกฝ่ายคอยปลอบ ทั้งช่วยเรื่องบ้านช่วยเรื่องงาน ถ้าไม่มีแฟนหนุ่มก็คงแย่ไปแล้ว
“อ้อ ไม่เป็นไรค่ะบุ้งเข้าใจ พี่เมฆไปกินข้าวกับครอบครัวเถอะ ไม่ต้องมาหาบุ้งทุกวันก็ได้” พอทราบว่าแฟนหนุ่มโทรมาเพื่อบอกว่าติดธุระมาหาที่บ้านไม่ได้ก็รีบพูดไม่ให้เขากังวล
ชาคร ก้องการุณรักษ์
ลูกชายของท่านนายพลยศใหญ่มีคนนับหน้าถือตามากมาย ส่วนมารดาเป็นถึงคุณหญิงผู้ทำคุณประโยชน์ให้แผ่นดิน ครอบครัวเขาค่อนข้างมีชื่อเสียงพอสมควร จนเธอไม่กล้าจะเข้าไปแนะนำตัวด้วยซ้ำ ชายหนุ่มก็ไม่ได้เอ่ยปากว่าจะพาเข้าไป เคยคุยกันครั้งหนึ่งก็บอกแค่ถึงเวลาเหมาะสมจะพาหล่อนเข้าไปกราบพวกท่าน
เพราะอย่างไรสะใภ้เล็กของวิชิตบรรหารก็ต้องเป็นเลศยาอยู่แล้ว
คำพูดนั้นไม่ได้ทำให้ตนใจพองโต แต่เหมือนเสียงกระซิบให้ตนอยู่กับความเป็นจริงมากกว่าเดิม ว่าวันหนึ่งเราอาจเลิกรากันเพราะคำว่าไม่เหมาะสม
ตนเป็นคู่ลูกหลานชาวนามาจากต่างจังหวัด หน้าที่การงานไม่ได้โดดเด่นเพียงแค่หาเลี้ยงตัวเองในแต่ละวัน ไม่ได้เหมาะสมกับเขาสักนิด
วางสายแล้วรับประทานอาหารจนอิ่ม ค่อยหาผลไม้มากินพลางหาละครต่างประเทศดูยามกลางคืน เมื่อเขียนนิยายเสร็จและส่งเข้าแอพลิเคชั่นเพื่อเปิดนักอ่านซื้อ เหลือก็รอติดตามผลว่าจะขายดีหรือเปล่า กระแสตอบรับเป็นไปในทิศทางไหน
จากนั้นค่อยเรื่องนิยายเรื่องต่อไป...ที่วางเค้าโครงไว้เรียบร้อย
เธอมักจะเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเดือนเว้นเดือน หาแรงบันดาลใจในการทำงาน พักผ่อนกายใจและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ชีวิตแบบนี้ก็มีความสุขดีเหมือนกัน
“ฮัลโหลใหม่ ว่าไง” ระหว่างที่กำลังนั่งดูภาพยนตร์อยู่ห้องรับแขกด้านหน้าที่ไม่ค่อยจะมีแขกแวะมาเยี่ยมเยียนสักเท่าไหร่ เพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยต่างก็ทำงานหนักหรือมีครอบครัวมีลูก นัดเจอกันแต่ละครั้งแสนยากเย็น
แต่วันนี้ท่าจะแปลกที่เพื่อนร่วมภาควิชาซึ่งอยู่กลุ่มเดียวกัน พบปะสังสรรค์กันบ่อยโทรมาหา ไม่รอช้ารีบรับสายแล้วทักทายเสียงสดใส
‘อยู่กับพี่เมฆเหรอ คุยได้หรือเปล่า’
“พี่เมฆไปกินข้าวกับครอบครัว ฉันอยู่คนเดียว แกมีอะไรว่ามาสิ”
‘พี่เมฆไปกินข้าวกับครอบครัวเหรอ เขาบอกแกแบบนั้นหรือคิดเอาเอง’
“เขาบอกแบบนั้น ฉันจะไปคิดเองทำไมล่ะ...ว่าแต่แกเถอะ โทรมาหาฉันมีอะไรหรือเปล่า อยากชวนเที่ยวไหนเหรอ แต่บอกไว้ก่อนไม่เที่ยวกลางคืน” เธอไม่ชอบไปเที่ยวสถานเริงรมย์เป็นทุนเดิม เพื่อนในกลุ่มชวนไปหลายครั้งก็ไปแค่พอเป็นมารยาทแล้วรีบกลับหอมาอ่านหนังสือ
เธอไม่ใช่คนเรียนเก่งจึงต้องขยันกว่าใครเพื่อนหน่อย กว่าจะจบสี่ปีเรียกได้ว่าแทบกราบกรานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วมหาวิทยาลัย
‘ไม่มีอะไรแค่โทรมาคุยด้วย แกกับพี่เมฆรักกันดีใช่ไหม’ น่าแปลกที่บทสนทนาของเรามีแต่ชื่อแฟนหนุ่ม แต่หล่อนก็ตอบโดยไม่ได้ติดใจอะไร
“รักกันดีจ้า ไม่ต้องห่วง”