บทที่ 3 ทำหน้าที่ NC
ยามนี้เป็นฤดูสารท อากาศยามค่ำคืนไม่ร้อนเหมือนในตอนกลางวันมากจนเกินไปนัก อีกทั้งยังมีสายลมพัดเย็นสบายมาปะทะผิวกายอยู่เนืองๆ
หม่าลู่เหยายืนอยู่หน้าหอนอนของคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นประมุขของจวน สูดลมหายใจเข้าปอดด้วยความตื่นเต้น หัวใจเต้นแรงราวจะหลุดออกมานอกอก ยืนมองป้าฉีที่ยกมือขึ้นเคาะประตู ไม่นานก็ได้ยินเสียงอนุญาตดังมาจากข้างใน
"เข้ามา!"
หม่าลู่เหยาแย้มยิ้มกว้าง แต่เมื่อป้าฉีหันหน้ากลับมา นางก็แกล้งก้มหน้าลงทำหน้าตาเศร้าโศกราวกับโดนบังคับฝืนใจ
"ไม่ต้องกลัว ทำตัวว่านอนสอนง่าย อย่าขัดใจท่านแม่ทัพเด็ดขาด"
"เจ้าค่ะป้าฉี" หม่าลู่เหยารับคำและก้าวเดินเข้าไปในห้อง ก่อนที่จะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงปิดประตู
เพียงเข้ามาข้างในกลิ่นหอมอ่อนๆ ของไม้จันทน์ก็ลอยเข้ามาแตะจมูก บัดนี้เจ้าของห้องกำลังนั่งเอนหลังพิงหัวเตียง เขาสวมใส่ชุดคลุมสีดำสนิท สาบเสื้อด้านบนแยกออกจากกันเล็กน้อยเผยให้เห็นทรวงอกกำยำหนั่นแน่นที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม
"จะยืนมองอีกนานหรือไม่" เผิงจิ้งเสียนตวัดสายตามองไปยังร่างเล็กที่ยืนอยู่หน้าประตู ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นก้าวเดินเข้ามาหา ย่อกายอุ้มคนร่างบางไว้ในอ้อมแขนและโยนลงบนเตียงอย่างไม่ทะนุถนอม
แสงจากตะเกียงเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาอย่างชัดเจน ยามนี้ใบหน้าของเขาและนางอยู่ห่างกันเพียงแค่คืบ เผิงจิ้งเสียนได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากกายสาว เขาจึงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ป้าฉีเตรียมตัวนางให้พร้อมปรนนิบัติเขามาอย่างดีจริงๆ
"ป้าฉีบอกอะไรเจ้าบ้าง"
"ป้าฉีบอกให้ข้าปรนนิบัติท่านแม่ทัพอย่างดีและห้ามขัดใจท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ"
"เช่นนั้นก็ทำเสียสิ" เอ่ยพลางขยับออกห่าง และตวัดร่างบางขึ้นมาบนตัวของเขาแทน
หม่าลู่เหยาเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น จากนั้นก็ปลดเสื้อคลุมตัวยาวออก เผยให้เห็นตู้โตวสีขาวและชั้นในตัวจิ๋วที่ปกปิดความเป็นอิสรตรีเอาไว้ ดวงหน้างามถูกแต้มด้วยเครื่องประทินโฉมอ่อนๆ เรือนผมสีดำยาวสนิทดั่งขนกาน้ำถูกรวบไว้ครึ่งหนึ่งและดับด้วยปิ่นหยกที่น้องสาวของเขามอบให้
ลมหายใจของเผิงจิ้งเสียนสะดุดลงไปเล็กน้อย ในขณะที่สายตากวาดมองไปทั่วเรือนกายสาว ผิวพรรณของนางเปล่งปลั่งสีชมพูระเรื่อ เรียบเนียนไร้ตำหนิ
ทางด้านของหม่าลู่เหยาเมื่อเห็นสายตาคมที่จ้องมองมาก็ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย นางไม่เขินหรอก จะบอกว่าเคยมีประสบการณ์ก็ไม่เชิง อาชีพในโลกก่อนคือนักเขียนนิยายอิโรติกจีนโบราณมือทองที่ได้รับรางวัลนิยายที่ได้รับความนิยมสูงสุดทุกปี หนังผู้ใหญ่ที่เคยดูผ่านตาไม่ต่ำกว่าร้อยเรื่องเหตุใดจะไม่รู้วิธีเกี้ยวพาปลุกอารมณ์กำหนัดของบุรุษ นับว่าความรู้ด้านทฤษฏีนั้นช่ำชองเป็นอย่างมาก หากแต่ไม่เคยปฏิบัติจริงก็เท่านั้น
ก็วันนี้แหละนะที่จะได้ปฏิบัติจริงๆ เสียที หม่าลู่เหยาคิดในใจด้วยความตื่นเต้น เอาล่ะขั้นแรกก็ต้องเล้าโลมด้วยการจูบก่อน
หม่าลู่เหยาใช้มือวางทาบไปบนแผงอกกว้างที่ตึงแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นลอนนูน ก่อนจะลุกขึ้นคร่อมร่างหนาของเขาเอาไว้ ท่าทีไร้ความประหม่าเขินอายทำให้เผิงจิ้งเสียนรู้สึกแปลกใจไม่น้อย
"เจ้าเคยทำเรื่องพรรค์นี้มาก่อนหรือ" ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นถาม พลางนึกไปถึงตอนที่เผิงเจียอีกระซิบบอกเขาว่าให้ปฏิบัติกับนางอย่างอ่อนโยนเพราะนางยังบริสุทธิ์ไม่เคยต้องมือชายมาก่อน
หรือว่านางจะโกหก!
"ข้าไม่เคยเจ้าค่ะ แต่เสี่ยวเหยาเป็นคนหัวดี จดจำสิ่งที่ป้าฉีสอนมาได้ ท่านแม่ทัพไม่ชอบหรือเจ้าคะ" หม่าลู่เหยาเงยหน้าขึ้นใช้สายตามองไปที่เขาอย่างออดอ้อน เผิงจิ้งเสียนเห็นเช่นนั้นก็กระแอมขึ้นมาเบาๆ หนึ่งหน พลางเบือนหน้าหลบสายตาของนางไปทางอื่น
"ทำต่อสิ"
หม่าลู่เหยาแย้มยิ้มกว้าง ก่อนจะใช้มือจับปลายคางของเขาให้หันกลับมา ยื่นหน้าไปหาหมายจะจุมพิตที่ปากหนาได้รูปของเขา
ทว่า...
"จูบมีไว้สำหรับคนที่รักกันเท่านั้น แต่เจ้ากับข้าหาได้เป็นเช่นนั้นไม่" เผิงจิ้นเสียนปัดมือของนางที่จับปลายคางของเขาออก
หม่าลู่เหยาส่งเสียงชิออกมาเบาๆ ดูทำเข้า เหมือนกับว่ารังเกียจนางเสียเต็มประดา ด้วยความไม่พอใจทำให้หม่าลู่เหยาเปลี่ยนเป้าหมาย มือบางลูบไล้ไปทั่วแผงอกจนมาถึงหน้าท้องแข็งเป็นลอนสวย ก่อนจะไล่ต่ำลงกอบกุมความเป็นชายเอาไว้เต็มอุ้งมือและบีบแรงๆหนึ่งหน
ใหญ่คับมือดีจริงๆ!
เผิงจิ้งเสียนผวาเฮือก ตั้งแต่เกิดมาจนอายุย่างเข้ายี่สิบห้าหนาวยังไม่เคยต้องมือสตรีใดมาก่อน ก้มหน้ามองมือบางที่กำลังขยับท่อนเอ็นใหญ่ของเขาขึ้นลงอย่างอึ้งๆ
"ไหนว่าไม่เคย แต่เหตุใดถึงได้ช่ำชองถึงเพียงนี้เล่า" ดวงตาคมดุจเหยี่ยวหันมองนางอย่างจับผิด
"ป้าฉีสอนมาเจ้าค่ะ" มุมปากบางยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ แต่เมื่อเห็นสายตาเต็มไปด้วยความสงสัยที่มองไม่เลิกรา นางจึงก้มลงหลบสายตาของเขาอ้าปากอมยอดถันสีน้ำตาลเข้มพร้อมดูดดึงเล่นแทน
"อะ! ลู่เหยา" เผิงจิ้งเสียนโดนคนตัวเล็กโจมตีทั้งข้างบนและข้างล่างก็ได้แต่หลับตานอนเปล่งเสียงร้องครวญครางราวกับทรมานอย่างแสนสาหัส มือเล็กของหม่าลู่เหยาเพิ่มความเร็วขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังจะเดินทางไปถึงฝั่งฝันก็หยุดมือลงเสียดื้อๆ
"หยุดทำไม!" ความรู้สึกของเผิงจิ้งเสียนเหมือนว่าโดนทิ้งให้ลอยเคว้งคว้างอยู่กลางอากาศ เขารีบลืมตาขึ้นมองคนที่นั่งคร่อมเขาอยู่ด้วยความไม่เข้าใจ
"ท่านแม่ทัพต้องสัญญากับข้าก่อนว่าจะไม่ขายข้าให้หอบุปผางาม"
"ข้าต้องทำตามข้อตกลงของเราอยู่แล้ว"
"ครบหกเดือนท่านต้องปล่อยข้าให้เป็นอิสระ" หม่าลู่เหยาถามย้ำขึ้นมาอีกหน ถึงแม้ว่าบุรุษผู้นี้จะมีหน้าตาเหมือนหมิงหยวนแต่ก็ไม่ใช่หมิงหยวนจริงๆ เสียหน่อย อีกทั้งฐานะของนางในตอนนี้ก็เป็นเพียงสาวใช้อุ่นเตียงที่แสนไร้ค่า ใครจะอยากอยู่ในสถานะนี้ไปจนตายเล่า!
"ข้าเป็นคนรักษาคำพูด ต่อให้เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าอาจเปลี่ยนใจไม่อยากไปจากข้า แต่ข้าก็จะไม่ยอมอยู่ให้เจ้าอยู่กับข้าหรอก"
วาจาของเผิงจิ้งเสียนทำให้หม่าลู่เหยาแอบเบะปากใส่เขาด้วยความหมั่นไส้ คนอะไรหลงตัวเองชะมัดเลย!
"ดียิ่ง หวังว่าท่านแม่ทัพจะรักษาคำพูดจริงๆ นะเจ้าคะ"
เผิงจิ้งเสียนเปล่งเสียงหึออกมาเบาๆ เมื่อเห็นหน้าตากระเง้ากระงอดของนาง ก่อนที่จะไล่สายตาไปหยุดอยู่ที่ตู้โตวสีขาว ส่วนเว้าส่วนโค้งดุนดันออกมาผ่านเนื้อผ้าจนเห็นเป็นตุ่มไต หม่าลู่เหยาเป็นคนตัวเล็กที่มีหน้าอกใหญ่เกินตัว และมันทำให้เขารู้สึกลำคอแห้งผาก ยามที่จ้องมองมัน
"ว้าย!" หม่าลู่เหยาอุทานขึ้นมาเบาๆ ด้วยความตกใจที่จู่ๆ คนที่เอนกายอยู่บนเตียงก็ผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาจัดการปลดตู้โตวออกจากกายของนางเผยให้เห็นทรวงอกอวบอิ่มขาวเนียนปรากฏสู่สายตา เหนืออกข้างซ้ายของนางปรากฏปานรูปพระจันทร์เสี้ยว เขาใช้มือลูบไล้มันไปมาเบาๆก่อนจะก้มหน้าลงฝังจมูกลงบนกลางอกของนาง
"อื้อออ ทะ ท่านแม่ทัพเจ้าคะ" หม่าลู่เหยาครวญครางออกมาเสียงแผ่ว มองใบหน้าหล่อเหลาที่ซุกซบอยู่กับอกอวบของตน
ยามนี้อารมณ์กำหนัดของเผิงจิ้งเสียนพลุ่งพล่าน ไม่อาจทานทนความปรารถนาได้อีกต่อไปแล้ว มือหนารวบเต้าทรวงสล้างเข้ามาชิดกัน ก่อนจะก้มหน้าอ้าปากครอบครองยอดถันสีชมพูสด ใช้ลิ้นสากโลมเลียอกสวย หม่าลู่เหยาบิดกายไปมาด้วยความซ่านเสียว แอ่นรับอุ้งปากของเขาและใช้มือกดใบหน้าหล่อเหลาให้แนบชิดกับอกอิ่มของตนมากขึ้น
กระทั่งเขาพอใจจึงผละออกจัดการรูดชั้นในตัวน้อยออกไปให้พ้นขาเรียว ความเป็นสตรีเพศปรากฏขึ้นสู่สายตา เผิงจิ้งเสียนกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ใจเต้นระทึกให้กับบุปผางามที่ปิดสนิทราวกับไม่เคยมีผีเสื้อตัวใดได้ชื่นชมมันมาก่อน
"ท่านแม่ทัพเจ้าขา ข้าเสียวเจ้าค่ะ" หม่าลู่เหยามองมือหนาที่ลูบคลึงเนินเนื้อของตนเบาๆ นิ้วแกร่งกรีดกรายขึ้นลงอย่างช้าๆ
"อ๊าาา" หม่าลู่เหยาเกร็งขึ้นสุดตัว ขนกายลุกชันไปทั่วร่างยามที่เขาสอดแทรกนิ้วกลางเข้าสู่เส้นทางรักที่คับแน่นของตน
เผิงจิ้งเสียนรับรู้ได้ถึงแรงตอดรัดจากช่อบุปผางาม จากที่เริ่มขยับนิ้วเข้าออกช้าๆ ก็แปรเปลี่ยนเป็นเร็วขึ้นและสุดท้ายก็ส่งนางเดินทางไปสู่ปลายทางแห่งความสุขได้สำเร็จ
"ข้าทนไม่ไหวแล้ว" เขาคำรามขึ้นมาเสียงดัง จัดการเปลื้องชุดคลุมสีดำตัวยาวออกจากกายอย่างรวดเร็ว สายตาดุดันกวาดมองเรือนร่างเย้ายวนด้วยความกระสัน มีสตรีมานอนเปลื้องผ้าทอดกายอย่างเชิญชวนเช่นนี้ เหตุใดบุรุษทั้งแท่งอย่างเขาจะทนไหว
และก็ไม่รู้ว่าจะทนไปเพื่ออะไรด้วย ในเมื่อนางอยู่ในฐานะสาวใช้อุ่นเตียงของเขา หน้าที่ของนางคือการปลดเปลื้องอารมณ์กำหนัดของเขาอยู่แล้ว
"ท่านแม่ทัพ นี่เป็นครั้งแรกของข้าได้โปรดอ่อนโยนกับข้าด้วย"
"เจ้าไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรจากข้า" เผิงจิ้งเสียนพ่นถ้อยคำเจ็บแสบชวนปวดใจออกมา พลางใช้หัวเข่าดันแยกขาเรียวออกจากกันและแทรกกายเข้าไปอยู่ตรงกลาง มือหนาจับกายแกร่งเอาไว้พร้อมกดเข้าไปในโพรงสวาทซึ่งมันไม่ง่ายเลยที่จะเข้าไปข้างในนั้น