บทที่ 2 สาวใช้อุ่นเตียงของจวนสกุลเผิง
จวนสกุลเผิง ยามโฉ่ว (01.00 - 02.59 น.)
วรกายสูงของเผิงเจี้ยนสิงนั่งอย่างสงบอยู่บนเก้าอี้ไม้เนื้อดีที่ห้องโถงรับแขก มองเผิงเจียอีที่เอาแต่เดินไปเดินมาราวกับคนร้อนใจอย่างแสนสาหัสด้วยท่าทางสุขุมไม่ทุกข์ร้อน เพราะมั่นใจในฝีมือของผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ว่าอย่างไรซูหนานก็ต้องพาคนที่หนีไปกลับมาได้
และก็ไม่ผิดจากที่คาดการณ์ไว้นัก เวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วยาม ซูหนานก็กลับมาที่จวนในมือหิ้วปีกร่างบางของสตรีผู้หนึ่งเข้ามาด้วย
"ปล่อยนะ บอกให้ปล่อยไงเล่า พวกแกเป็นใครกันถึงได้มาจับตัวคนอื่นแบบนี้ เป็นแก๊งค์ลักพาตัวเรียกค่าไถ่หรือไง คอยดูเถอะฉันจะแจ้งตำรวจจับพวกแกทุกคนให้ติดตะรางหัวโตกันหมดเลย" หม่าลู่เหยาที่ฟื้นขึ้นมาแล้วพบว่าตนกำลังนั่งอยู่บนหลังม้าโดยมีบุรุษผู้หนึ่งเป็นคนควบคุม ก็รู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรมากไปกว่านี้เพราะเขาขู่ว่าจะผลักเธอตกหลังม้าและทิ้งไว้ให้เป็นผีเฝ้าป่าแห่งนี้เสีย
จวบจนกระทั่งควบม้ากลับมาถึงจวนหลังใหญ่แห่งหนึ่ง เขาก็หิ้วคอเสื้อของเธอลงจากหลังม้าพาเดินเข้ามาข้างใน
หม่าลู่เหยาหันไปเห็นสตรีคนหนึ่งยืนอยู่ ท่าทางดูเป็นคนใจดี ก็คิดว่าคงมีจิตใจเมตตาอ่อนโยนอยู่บ้างแหละ หม่าลู่เหยาดิ้นจนหลุดจากพันธนาการของผู้ชายที่จับตัวนางมาและรีบวิ่งเข้าไปหาสตรีผู้นั้น คว้าไปที่ข้อมือบอบบาง
"คุณคะอย่างน้อยเราก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ช่วยฉันด้วยเถอะนะคะ ฉันถูกลักพาตัวมา กลัวมากเหลือเกิน"
"ลักพาตัวงั้นหรือ เจ้าต่างหากที่ทำผิด ข้าจ่ายเงินซื้อตัวเจ้ามาจากพ่อค้าทาสตามที่เจ้าร้องขอตั้งสองหมื่นตำลึงทอง แต่เจ้ากลับหนีข้าไปไม่ทำตามข้อตกลงของเรา" เผิงเจียอีสะบัดมือออกทันที พลางมองคนตรงหน้าด้วยกรุ่นโกรธ
"ข้อตกลงอะไร ฉันไม่เข้าใจ" หม่าลู่เหยาขมวดคิ้วมุ่น เธอกับผู้หญิงคนนี้เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกแท้ๆ
"เจ้าตกลงกับข้าว่าจะยอมเป็นสาวใช้อุ่นเตียงให้ท่านพี่เป็นเวลาหกเดือน จากนั้นข้าจะปล่อยให้เจ้าเป็นอิสระ"
"ห๊ะ?! สาวใช้อุ่นเตียง บ้าไปแล้ว! นี่มันยุคสมัยไหนแล้วแม่คุณ"
"เช่นนั้นก็ตามใจ หากไม่ทำตามข้อตกลงก็หาเงินมาคืนเสีย แต่ถ้าหาเงินคืนไม่ได้ข้าก็จะขายเจ้าต่อให้คนอื่น ขายให้หอบุปผางามดีหรือไม่ นางหน้าตางดงามคงจะได้ราคาดี" ท้ายประโยคสตรีวัยกำดัดก็หันไปเอ่ยกับสตรีวัยกลางคนที่ยืนสงบเสงี่ยมอยู่ข้างหลัง
"ดีเจ้าค่ะคุณหนู นางยังบริสุทธิ์ อีกทั้งยังมาจากตระกูลสูงส่งคงเรียกราคาดีๆ ได้ไม่ยาก"
หม่าลู่เหยารู้สึกร้อนๆ หนาวๆ กับสายตาของทุกคนที่จับจ้องมา เริ่มรู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆ คนแต่งตัวประหลาดในเรือนโบราณคล้ายกับนิยายรักจีนโบราณอิโรติกที่เธอเขียนอย่างไม่มีผิดเพี้ยน
'ไม่จริงหรอกน่า เรื่องราวย้อนยุคทะลุมิติก็มีแค่ในนิยายเท่านั้นแหละ' หม่าลู่เหยาส่ายศีรษะไปมา เมื่อสบโอกาสก็หมุนกายหันหลังทำท่าจะวิ่งหนี แต่แล้ว...
ตุ้บ!
ร่างบางปะทะเข้ากับร่างกำยำของคนผู้หนึ่งอย่างแรง ในตอนที่เสียหลักจะล้มลงก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้น มือหนาของใครบางคนก็คว้าแขนของเธอเอาไว้เสียก่อน ทำให้ตอนนี้ทั้งตัวตกอยู่ในอ้อมแขนของเขา
หม่าลู่เหยาเงยหน้าขึ้นแล้วดวงตากลมโตก็ค่อยๆ เบิกกว้างขึ้น
"หมิงหยวน!" หม่าลู่เหยามองภาพตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา หมิงหยวนดาราหนุ่มชื่อดังกำลังยืนอยู่ตรงหน้าของเธอแล้ว!
เขินจะตายอยู่แล้ว กรี๊ดดด
สองแก้มขาวแดงระเรื่อ แย้มยิ้มอย่างเขินอาย ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นสบตาดุคมของเขา
หมั่บ
"อึ่ก!" ใบหน้าสวยจากที่เขินอายในตอนแรกก็เหยเกเข้าหากันด้วยความเจ็บ เพราะถูกมือหนาของเขาบีบปลายคางของเธอเอาไว้
"ช้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย จะยอมเป็นสาวใช้อุ่นเตียงของข้าหรือจะให้ข้าขายเจ้าให้หอบุปผางาม" เขาถามเสียงเหี้ยม ไม่หลงเหลือความปราณีใดๆ
ชัดแล้วนี่ไม่ใช่หมิงหยวน และนี่ก็ไม่ใช่ยุคปัจจุบัน ฉันได้ทะลุมิติเข้ามาในยุคโบราณจริงๆ หรือเนี่ย โอย... อยากจะบ้าตาย
"ว่าอย่างไรล่ะลู่เหยา ตอบท่านพี่ไปสิ" เผิงเจียอีเอ่ยเร่งเร้า
หม่าลู่เหยาทำท่าคิดหนัก ตอนนี้รู้แค่เพียงว่าตนเองได้ย้อนอดีตมา แต่ไม่รู้ว่ามาได้ยังไง เข้ามาอยู่ในร่างไหนและมีชีวิตอย่างไร
ทว่า หนทางรอดเดียวที่หลงเหลืออยู่ในตอนนี้ก็ไม่พ้นการยอมเป็นสาวใช้อุ่นเตียงของเขา เพราะอย่างน้อยก็ยังดีกว่าการที่พวกเขาขายเธอให้กับหอนางโลมก็แล้วกัน
เธอไม่ทุกข์ใจหรอกนะ
อีกอย่างเป็นสาวใช้อุ่นเตียงของบุรุษที่หน้าตาเหมือนดาราในดวงใจก็ดีเหมือนกัน ถือซะว่าคนผู้นี้คือหมิงหยวนในยุคโบราณก็แล้วกัน
"ยอมแล้ว ฉัน เอ๊ย ข้าจะยอมเป็นสาวใช้อุ่นเตียงของท่านก็ได้เจ้าค่ะ แต่อย่าขายข้าให้หอนางโลมเลยนะเจ้าคะ ข้ากลัว ฮึก" หม่าลู่เหยาแกล้งทำหน้าตาน่าสงสาร หวังเพียงว่าจะให้เขาเห็นใจนางบ้าง
"หึ!" เผิงจิ้งเสียนแค่นเสียงหัวเราะออกมาในลำคอ ก่อนจะผลักร่างบางออกให้พ้นตัว
"ข้าขอสั่งให้ทุกคนจับตัวนางไว้ให้ดี ซูหนานบอกทหารของเราหากเห็นหม่าลู่เหยาคิดหนีอีกก็จัดการสังหารนางทิ้งได้เลย" เอ่ยจบเพียงเท่านั้น ขายาวก็ก้าวเดินกลับไปยังหอนอน ค่ำคืนสงบสุขของเขาถูกทำลายเพราะสาวใช้อุ่นเตียงไร้ค่าอย่างนาง น่าหงุดหงิดยิ่งนัก!
"รอช้าอันใดอยู่รีบพานางไปอาบน้ำเปลี่ยนอาภรณ์เพื่อปรนนิบัติท่านแม่ทัพสิ" เผิงเจียอีรีบเอ่ยสั่งสาวใช้ จากนั้นหม่าลู่เหยาก็ถูกลากตัวไปที่ห้องอาบน้ำ
ฉีหงพาหม่าลู่เหยาไปที่เรือนหลังหนึ่งซึ่งเป็นเรือนหลังเล็กที่ตั้งอยู่ท้ายจวน ถึงแม้จะไม่กว้างขวางเท่าเรือนใหญ่แต่ก็มีสิ่งของอำนวยความสะดวกครบครัน เรือนหลังนี้อยู่ติดกับสวนอุทยานทำให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย
"ต่อจากนี้เจ้าจะต้องอยู่ที่เรือนหลังนี้" ฉีหงเอ่ยขึ้นเมื่อเดินมาเข้ามาข้างใน
หม่าลู่เหยาส่งสายตามองไปรอบๆอย่างสำรวจ จากนั้นก็ผงกศีรษะรับ ถึงที่นี่จะไม่ได้ดูกว้างขวางแต่ก็ไม่ได้เล็กแคบอย่างที่นึกกลัว ถือว่าใช้ได้พอประมาณ
"คุณหนูเจียอีมีเมตตา ถึงแม้เจ้าจะเป็นเพียงแค่สาวใช้อุ่นเตียงแต่ก็นับว่าอยู่สุขสบายกว่าสาวใช้อุ่นเตียงจวนอื่น"
ป้าฉีกล่าวพลางลอบมองสำรวจเด็กสาวตรงหน้าด้วยความสงสาร ก่อนจะเดินนำไปยังห้องอาบน้ำและบังคับให้นางเปลื้องผ้าทิ้งกายลงไปแช่ในอ่างน้ำขนาดใหญ่ที่มีกลีบบุปผานานาชนิดลอยอยู่ข้างบน มีสาวใช้อีกสองคนช่วยนางอาบน้ำ
"ท่านป้าเจ้าคะ"
"เรียกข้าว่าป้าฉีเหมือนคนอื่นเถอะ" ป้าฉีเป็นหัวหน้าสาวใช้ของจวน เคร่งครัดในกฏระเบียบ หากแต่นางเป็นคนยุติธรรมและมีเหตุผล กระทั่งเผิงจิ้งเสียนกับเผิงเจียอียังเคารพนางเสมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง
"เจ้าค่ะ ป้าฉีเจ้าคะ เหตุใดข้าถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้ล่ะเจ้าคะ ข้าเป็นใครหรือ"
"หืม... นี่เจ้าจำเรื่องราวของตัวเองไม่ได้เลยหรือ" ป้าฉีถามด้วยความประหลาดใจ วันแรกที่นางเข้ามานางมีท่าทีสงบเสงี่ยมเจียมตัวว่านอนสอนง่าย แต่ก็ยังไม่ได้ซักถามหรือพูดคุยกันมากนักนางก็สร้างเรื่องหนีไปก่อนจนถูกตามจับตัวกลับมา
"จำไม่ได้เลยเจ้าค่ะ สงสัยจะความจำเสื่อม" หม่าลู่เหยาส่ายศีรษะไปมา ก่อนจะส่งสายตาใสซื่อไปให้หญิงสูงวัยกว่า
ป้าฉีได้แต่ทอดถอนหายใจออกมาเบาๆ มองนางด้วยความเวทนา
"เจ้าชื่อหม่าลู่เหยาอายุสิบเจ็ดหนาว มาจากสกุลหม่า เดิมทีบิดาของเจ้าเคยเป็นเสนาบดีกรมโยธาทว่าสิ้นชีพไปเมื่อสามปีก่อน เจ้าอาศัยอยู่กับมารดาเลี้ยงและน้องสาวต่างบิดา และถูกมารดาเลี้ยงขายให้พ่อค้าทาสไปเมื่อหลายวันก่อน เมื่อเช้าคุณหนูเจียอีไปเดินตลาดเห็นเจ้าแล้วเกิดความสงสารก็เลยซื้อตัวเจ้ามาให้เป็นสาวใช้อุ่นเตียงของท่านแม่ทัพเผิง"
"สตรีมีตั้งมากมายเหตุใดต้องเป็นข้าด้วยล่ะเจ้าคะ" หม่าลู่เหยาซักไซ้ตามประสาคนช่างสงสัย
"ก็เจ้าเป็นคนขอร้องให้คุณหนูช่วยซื้อตัวเจ้ามาอย่างไรเล่า เจ้ายังบอกอีกด้วยว่าจะยอมทำตามคำสั่งของคุณหนูทุกอย่าง" ป้าฉีนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าพลางถ่ายทอดให้นางฟัง
หม่าลู่เหยาได้ยินเช่นนั้นก็ขานรับดังอ้อขึ้นมาเบาๆ นับว่าเจ้าของร่างนี้เจ้าเล่ห์ยิ่งนัก หลอกให้เผิงเจียอีซื้อตัวมาเพื่อให้รอดพ้นจากพ่อค้าทาสและวางแผนแอบหนีเพราะไม่อยากเป็นสตรีอุ่นเตียงของแม่ทัพสินะ
"ถึงไม่เต็มใจก็อดทนหน่อยเถิด แค่หกเดือนเท่านั้น ครบกำหนดเมื่อใดคุณหนูเจียอีก็จะปล่อยเจ้าให้เป็นอิสระแล้ว" ป้าฉีเอ่ยอย่างปลอบประโลม พลางพินิศมองผิวกายขาวเนียนของสาวใช้อุ่นเตียงตาไม่กะพริบ ร่างกายไร้ซึ่งตำหนิ เอวเล็กคอด หน้าอกกับสะโพกอวบอิ่มไม่ว่าชายใดเห็นก็ต้องลุ่มหลงได้ไม่ยาก
"ข้าจะจำคำป้าฉีไว้เจ้าค่ะ" หม่าลู่เหยารับคำอย่างว่าง่าย ไม่ว่าป้าฉีจะให้ทำอะไรก็ยอมทำตามอย่างไม่อิดออด แม้ว่าภายในใจอยากจะรีบเข้าไปหม่ำบุรุษที่มีหน้าตาเหมือนดาราในดวงใจของตนเสียเต็มประดาแล้วก็ตาม