บทที่ 2
อีกสิบนาทีต่อมาเครื่องบินส่วนตัวของแอรอนก็แล่นลงจอดบนไฮเวย์ของสนามบินสุวรรณภูมิ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ก้าวลงมาจากเครื่องบินด้วยท่าทางสง่างามดูมีอำนาจ โดยมีรถลีมูซีนคันหรูที่ทางรัฐบาลไทยจัดเตรียมไว้ให้จอดรออยู่ รวมทั้งมีหน่วยอารักขาของประเทศเจ้าบ้านกระจายอยู่โดยรอบ
แล้วยังมีคณะรัฐมนตรีเดินทางมารับแอรอน ในฐานะแขกของรัฐบาล การเดินทางมาเมืองไทยของแอรอนในครั้งนี้ เขามาแทนบิดาในฐานะทูตสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ อีกทั้งยังมาพูดคุยหารือเรื่องการค้าส่งออก นำเข้าผลิตภัณฑ์ของสองประเทศ
อัสนีหัวหน้าหน่วยในงานสำคัญนี้ ยืนอยู่ข้างประตูรถ มองแอรอนที่กำลังก้าวเดินมาใกล้ด้วยสายตื่นตะลึง ในรูปภาพช่างต่างกับตัวจริงมากเหลือเกิน ร่างกายของแอรอนบึกบึนและดูแข็งแรง ดวงตาของอีกฝ่ายแลดูมีพลังอำนาจอย่างล้นเหลือ แข็งกร้าว ไม่ยอมคน ใบหน้าของแอรอนเรียบเฉยหากแต่หล่อเหลาบาดใจ เป็นชายหนุ่มที่มีเสน่ห์และน่าหลงใหลยิ่งนัก อัสนีไม่แปลกใจเลยที่หญิงสาวที่ตนหลงรักมาหลายปี มีใจรักมั่นต่อชายหนุ่มคนนี้
แอรอนหัวใจเต้นรัว เมื่อเห็นหญิงสาวหน้าตารูปร่างคุ้นตายืนอยู่ข้างรถ เธอสวมชุดสูทสีดำแบบกางเกง ดูทะมัดทะแมงสมกับหน้าที่ เคียงข้างชายหนุ่มคนหนึ่งที่เขาเข้าใจว่าน่าจะอยู่ในทีมอารักขาเดียวกัน
แต่ละก้าวของเขาที่ย่ำเท้าเดิน แอรอนรู้สึกว่ากำลังเดินบนกองเพลิง มันร้อนรุ่มสุมทรวง ภาพของสตรีคุ้นตาคนนั้นเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ อยู่ๆ แอรอนก็หยุดเดินก่อนจะถึงรถยนต์คันดังกล่าวไม่กี่ก้าว ดวงตาสีฟ้าคล้ายมีความร้อนจากเปลวไฟจ้องมองณัฐกานต์ตาไม่กระพริบ หัวใจแข็งกระด้างเต้นไม่เป็นจังหวะ เหมือนเวลาบนโลกนี้หยุดหมุน
เขาไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เจอณัฐกานต์ที่นี่ เวลานี้ วินาทีนี้ ภาพเก่าๆ เมื่อวันวานถูกย้อนกลับเข้ามาในสมอง กระตุ้นความรักที่เขาใช้ความพยายามอย่างหนักจะตัดใจจากเธอ ดูเหมือนว่าวินาทีนี้มันแลดูไม่ได้ผล ความรักที่เขามอบให้ณัฐกานต์ยังตราตรึงในหัวใจดวงนี้เรื่อยมา แต่มันก็แฝงไว้ด้วยความแค้นอย่างร้ายกาจ
เวลานี้ณัฐกานต์คือผู้หญิงที่เขาปรารถนาชิดใกล้มากที่สุด ในขณะเดียวกันเธอก็เป็นสตรีที่เขาอยากไกลห่างมากที่สุดเช่นกัน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยสว่างไสวเมื่อเห็นดวงหน้าของเธอ กลับมืดสนิทมีเพียงแสงไฟสีแดงฉานในอกที่แทบจะทะลุล้นออกมาภายนอก
หัวใจดวงน้อยของณัฐกานต์เต้นรัว ตื่นเต้นเป็นที่สุดกับการพบเจอแอรอน ชายหนุ่มที่เธอไม่เคยลืมเลือนไปจากจิตใจ ทุกภาพ ทุกเหตุการณ์ของความสุข ยังคงตรึงในห้วงจิตใจ
ดวงตาคู่สวยของณัฐกานต์หลบสายตาแข็งกร้าวและแค้นเคืองด้วยหัวใจที่สั่นไหว เธอรู้ว่าสายตาคู่นี้ไม่เป็นมิตรเหมือนครั้งก่อน ดวงตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก เสียงอันไพเราะยามพูดคุย อ้อมกอดอบอุ่น จูบเร่าร้อนและอ่อนหวานในคราเดียวกัน เธอจะไม่ได้สัมผัสกับสิ่งที่กล่าวไปอีกแล้ว สิ่งที่ ณัฐกานต์สัมผัสได้คือ รังสีแห่งความโกรธแค้นและชิงชัง
แอรอนก้าวเดินต่อไป เขาเดินผ่านร่างของณัฐกานต์ราวกับคนไม่รู้จัก ยามที่เขาก้าวเดินผ่านร่างเธอไปนั้น หัวใจของเขาแทบหยุดเต้น กลิ่นหอมบางๆ แสนคุ้นเคยโชยเข้ามาในโพรงจมูก กลิ่นหอม เย้ายวนยังตราตรึงอยู่ในความรู้สึกของเขา ทำให้เขาหวนนึกถึงวันวาน วันเวลาแห่งความสุขระหว่างเขาและเธอ ในคืนนั้นเป็นคืนที่วิเศษที่สุดในชีวิต เป็นค่ำคืนที่เขาไม่มีวันลืม เหมือนกับเธอที่แอรอนไม่มีวันลืมเช่นกัน
ณัฐกานต์คือผู้หญิงที่เขย่าหัวใจของเขาด้วยความรักและความแค้น ถึงเวลาแล้วที่เขาต้องทำให้เธอได้รับรู้ว่า การที่ทำให้เขาเจ็บ เธอต้องเจ็บยิ่งกว่า ความรักและความแค้นสุมอยู่ในทรวงมาตลอดสี่ปี สี่ปีที่เขาไม่เคยนอนหลับสนิทเลยสักคืน…กำลังถูกสะสาง
...........
ณ โรงแรมดิแอมมอรัล
อัสนีเดินถือแฟ้มเอกสารเข้ามาในห้องสวีทวีไอพี ห้องที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้แอรอนแขกคนพิเศษ เป็นห้องที่อยู่ชั้นบนสุดของโรงแรมระดับเจ็ดดาวครอบคลุมทั้งชั้น เพื่อรายงานแผนการรักษาความปลอดภัยให้กับแอรอนได้รับฟัง และแนะนำตัวผู้อารักขาให้อีกฝ่ายฟังตามหน้าที่ เพราะตลอดระยะเวลาที่เขาอยู่ในเมืองไทย อัสนีและทีมจะเป็นเสมือนเงาตามตัว จำเป็นต้องแนะนำทำความรู้จักก่อนจะเริ่มลงมือปฏิบัติงาน หลังจากที่อัสนีทำความรู้จักกับเหล่าอารักขาของแอรอนเรียบร้อย
อัสนีวางเอกสารลงบนโต๊ะกระจกภายในห้องนั่งเล่น แอรอนเหลือบตามองอัสนีเพียงนิด ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแฟ้มเล่มนั้นขึ้นมา เปิดแฟ้มและพลิกดูทีละหน้า
“เอกสารเหล่านี้เป็นรายชื่อของบุคคลที่ทำหน้าที่อารักขาคุณแอรอนครับ” อัสนีรายงาน
แอรอนพลิกกระดาษสีขาวที่มีประวัติของแต่ละคนเพียงผ่านๆ สายตาคมเข้มหยุดมองที่กระดาษแผ่นสุดท้ายนานกว่าทุกแผ่น จ้องดวงตาไปยังรูปถ่ายหน้าตรงติดอยู่มุมขวาของกระดาษ เขากวาดสายตาอ่านประวัติของเจ้าของรูปถ่ายอย่างละเอียด
ณัฐกานต์ยังสวยเหมือนเดิม ดูเธอจะสวยขึ้นมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ปลายนิ้วแกร่งลูบไปยังริมฝีปากของคนในรูปถ่ายภาพเบามือราวกับถูกมนต์สะกด กลีบปากนุ่มคู่นี้ครั้งหนึ่งเขาเคยได้สัมผัส ได้แตะต้อง เขายังจำได้ถึงความหอมนุ่มและซาบซ่าน รอยสัมผัสของเธอยังคงคงติดแน่นอยู่ในร่างกาย ในจิตใจของเขา ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานกี่ปี เธอเป็นหญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก ทว่าบาดแผลที่เธอทิ้งไว้ให้กับตนเองนั้นหนักหนาสาหัสเกินกว่าเขาจะทานทนและให้อภัย ฉับพลันดวงเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก เปลี่ยนแสงเป็นความโกรธแค้นที่หยั่งรากลึกฝังอยู่ในใจ ได้เวลาแล้ว เวลาที่เขาจะคิดบัญชีกับคนที่ฝากรอยแผลไว้กับเขาแล้ว
“ผมอยากเจอทีมของคุณทุกคน พามาให้ผมรู้จักได้ไหม ผมอยากทำความรู้จักกับเขาเหล่านั้น ทีละคน” แอรอนบอกจุดประสงค์ที่ตนต้องการอย่างมีแผนการในใจ
อัสนีอึ้งไปชั่วขณะ เขารู้ว่าไม่อาจปฏิเสธความต้องการของชายหนุ่มตรงหน้าได้ มีเพียงคำตอบเดียวเท่านั้นที่เขาจะตอบกลับไป “ได้ครับ”
อัสนีก้มศีรษะทำความเคารพตามมารยาท หมุนตัวเดินออกไปจากห้อง เพื่อไปตามผู้ใต้บังคับบัญชามาพบแอรอนทีละคน
“ณัฐแน่ใจนะว่าทำได้” อัสนีเอ่ยถามณัฐกานต์ด้วยความเป็นห่วง เพราะการเข้าไปทำความรู้จักกับแอรอนในครั้งนี้ เขารู้ว่าแอรอนต้องมีจุดประสงค์แอบแฝง คนอย่างแอรอนไม่จำเป็นต้องทำความรู้จักกับทีมอารักขา แต่ที่อยากทำความรู้จัก เพราะมีรายชื่อหนึ่งในทีมนามว่าณัฐกานต์อยู่นั่นเอง
“ทำได้ค่ะ...ณัฐทำใจไว้แล้ว” เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ หากภายในจิตใจนั้นแสนจะประหม่าก็ตาม