บำเรอพิศวาสจอมมาร

83.0K · จบแล้ว
อัญญาณี
42
บท
35.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“มานั่งตรงนี้สิ” เขาใช้ฝ่ามือตบบนเบาะข้างตัวเบาๆ หญิงสาวมองมือหนาแล้วปฏิเสธออกไปอย่างนุ่มนวล“ดิฉันไม่อาจเอื้อมค่ะ ดิฉันยืนอยู่ตรงนี้ดีแล้ว และมั่นใจว่าคนอื่นๆ ในทีมก็ยืนที่จุดนี้เหมือนกัน” เธอตอบอย่างชาญฉลาด“ดิฉันไม่อาจเอื้อมเหรอ” เขาพูดทวนประโยคด้วยโทนเสียงสูง มองร่างอรชรตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า นัยน์ตาสีฟ้าคู่นั้นโลมเลียอย่างเห็นได้ชัด ยกยิ้มขึ้นข้างหนึ่ง เอ่ยประโยคที่ทำให้คนฟังชาวาบไปทั้งกาย“แต่ฉันจำได้ว่า ผู้หญิงที่ไม่อาจเอื้อมตรงหน้านี้ เคยแก้ผ้ามาประเคนให้ฉันถึงเตียง อย่างนี้เรียกว่าอาจเอื้อมหรือเปล่า ตกลงเธอจะมาหรือไม่มา ถ้าไม่มาก็เชิญออกไปจากห้องของฉัน แล้วพาทีมเธอกลับไปด้วย เพราะฉันก็ไม่ต้องการทีมอารักขาชุดนี้อยู่แล้ว แค่คนของฉันก็พอ”น้ำเสียงทรงอำนาจพูดราบเรียบแต่ทว่าหนักแน่น เธอรู้ว่าดีกว่าใครว่า เขาพูดจริงทำจริงเสมอ และคำสั่งแกมข่มขู่ในครั้งนี้เป็นเรื่องที่เธอจะปฏิเสธไม่ได้ เพราะจะส่งผลต่องานที่ตระเตรียมกันมาเป็นเวลาหลายเดือนต้องพังลง ซึ่งณัฐกานต์คงยอมให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้ งานจะมาพังเพราะเธอไม่ได้เท้าเล็กก้าวเดินไปยังโซฟาตัวนั้นตามคำสั่งของแอรอน ณัฐกานต์เลือกที่จะนั่งชิดด้านริมแทนที่จะนั่งข้างร่างหนาตามที่เขาต้องการ แอรอนใช้ฝ่ามือตบเบาะแรงๆ อย่างขัดใจ หญิงสาวสะดุ้งแต่พยายามนั่งนิ่ง แม้ในใจหวาดกลัว“รังเกียจฉันมากหรือไง ถึงได้นั่งห่างกันเป็นวาขนาดนี้” แอรอนพูดเสียงดัง ด้วยความไม่พอใจ ดวงตาคมเปล่งประกายไปด้วยแรงโทสะ“เปล่าค่ะ...ดิฉันไม่ได้รังเกียจคุณแอรอน แต่คิดว่านั่งตรงนี้น่าจะเหมาะกว่า”เธอพูดเสียงนุ่มแลดูสั่น หัวใจเต้นรัวเป็นทวีคูณ เมื่อร่างสูงใหญ่เป็นฝ่ายขยับร่างเข้ามาใกล้และใกล้ จนกระทั่งชิดกับร่างของตนลำแขนข้างหนึ่งตวัดร่างเล็กเข้ามาในอ้อมแขน มืออีกข้างจับแก้มเนียนสวยแล้วบีบบังคับให้ดวงหน้าสวยหันมาเผชิญหน้ากับตน ให้เธอได้มองเห็นดวงตากรุ่นโกรธ เหมือนลูกระเบิดที่พร้อมจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อหญิงสาวสะบัดตัวหนีด้วยความตกใจ ไม่ใช่รังเกียจ เธอจะรังเกียจอ้อมแขนของเขาได้อย่างไรเพราะอ้อมกอดนี้เป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุด เป็นอ้อมกอดของคนที่เธอรักสุดหัวใจ“ทีหลังฉันสั่งให้นั่งตรงไหนก็ต้องนั่งจำไว้...และนี่คือโทษของเธอที่ขัดคำสั่งของฉัน”การลงโทษของเขาทำให้ณัฐกานต์เบิกตากว้าง ตกใจกับการกระทำของแอรอน ริมฝีปากหนาได้รูปฉกจูบเรียวปากบางสวยอย่างรวดเร็ว ไม่ทันให้หญิงสาวตั้งตัว บดเคล้าเร่าร้อนและรุนแรงรักแสนรัก แค้นแสนแค้น โหยหา คิดถึง หลากหลายความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ ถูกถ่ายทอดลงไปบนเรียวปากสีชมพูที่เผยอรับลิ้นหนาแทรกผ่านเข้าไปในช่องปากหวานล้ำโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากอารามตกใจทำให้ปากสาวตั้งใจจะเปิดปากร้องค้าน และนั่นเป็นโอกาสให้เขาได้ลิ้มรสหวานในโพรงปากของเธอ ลิ้นใหญ่สอดรัดเกี่ยวกระหวัดหาความหวานจากปากของเธออย่างดื่มด่ำ เพียรหารสชาติพิเศษให้สมกับเวลาสี่ปีที่เขาไม่ได้สัมผัส

นิยายแฟนตาซีนิยายปัจจุบันประธานรักหวานๆดราม่ามาเฟียเศรษฐีโรแมนติกพระเอกเก่ง

บทนำ 1

ณัฐกานต์ยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนของแอรอน ชาล์ลวาเกีย ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของประธานาธิบดีมอร์แกน ชาล์ลวาเกียแห่งประเทศเมอริกันด้า ประเทศเล็กๆ ทางตอนเหนือของประเทศสเปน ชายหนุ่มที่มอบความรักให้กับตนจนหมดใจ เอาใจใส่และดูแลเธอมาตลอดสองปี เฝ้ารอให้เธอมอบความรักตอบกลับไป

แล้ววันนี้ณัฐกานต์ก็พร้อมมอบความรู้สึกนั้นให้กับเขา หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วผ่อนออกมา ราวกับเรียกกำลังใจให้ตนเอง ก่อนจะตัดสินใจครั้งสุดท้ายว่า จะต้องทำในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้ก่อนที่ตนจะไม่มีโอกาส

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

มือเล็กยกขึ้นเคาะประตูไม้ขัดเงา ไม่นานนักเสียงของเจ้าของห้องก็ดังผ่านเทเลคอมที่ติดอยู่ด้านข้างของประตู

“ใคร” คนในห้องถาม

“ณัฐเองค่ะแอรอน” เสียงของคนที่อยู่ด้านนอกตอบกลับไป

“เข้ามาสิครับ” เขาเอ่ยตอบกลับ ก่อนที่ผู้พูดจะเอื้อมมือไปกดปุ่มเปิดล็อคประตูบนโต๊ะหัวเตียง และเมื่อคนด้านนอกได้ยินเสียงปลดล็อค มือเล็กค่อนข้างสั่นก็เปิดประตูบานนั้นแล้วผลักเข้าไป

ณัฐกานต์เดินเข้ามาในห้องนอนของแอรอนชายหนุ่มที่ตนรักด้วยรอยยิ้ม แต่คงไม่มีใครรู้หรอกว่ารอยยิ้มของหญิงสาวนั้นขมขื่นเพียงใด เป็นเพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เธอจะอยู่ที่นี่ และวันนี้จะเป็นวันที่เธอพร้อมจะบอกรักเขา ก่อนจะจากแอรอนไปตลอดกาล

แอรอนละสายตาจากนิตยสารในมือ ทอดมองณัฐกานต์ที่เดินเข้ามาหาตนด้วยหัวใจเต้นระรัว ตื่นตะลึง สาเหตุที่ทำให้เขาเกิดความรู้สึกเช่นนี้เป็นเพราะ คนที่เดินมาหยุดริมเตียง ทำในสิ่งที่เขาไม่คาดคิด เธอค่อยๆ ถอดเสื้อคลุมสีขาวออก และทันทีที่เสื้อคลุมตัวนั้นไปกองอยู่บนพื้น ภาพที่เขาเห็นคือ เรือนร่างสวยงามอวดส่วนเว้าส่วนโค้งภายใต้ชุดนอนบางเบา มองผ่านเนื้อผ้าทะลุไปถึงด้านในมองเห็นทุกสัดส่วนได้อย่างแจ่มตา ลมหายใจของบุรุษรูปงามติดขัด กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบาก มือที่ถือนิตยสารเริ่มสั่น ทุกสัดส่วนในร่างกายลุกโชน เพียงแค่ได้เห็นเรือนร่างเซ็กซี่ของเธอ

เขาไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน แอรอนยอมรับว่าผ่านผู้หญิงมามาก หลากหลายเชื้อชาติ แต่ไม่เคยมีใครทำให้อารมณ์ดิบของเขาเดือดพล่านได้เท่าสาวตรงหน้ามาก่อนเลย

“ณัฐ...” เขาเอ่ยชื่อสาวอันเป็นที่รักเสียงพร่า มองเรือนร่างสาวตาไม่กระพริบ

ณัฐกานต์ข่มความเขินอายเดินเข้าไปหาเขา ยืนชิดติดริมเตียงขนาดใหญ่ที่สามารถนอนได้ถึงห้าคน หญิงสาวทำในสิ่งที่เขาไม่คาดคิดอีกครั้ง เธอปลดชุดนอนออกจากร่างกายอย่างเชื่องช้า เผยให้เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าสวยสดยิ่งนัก ณัฐกานต์ข่มความเขินอายมองใบหน้าของชายที่ตนรัก ส่งยิ้มหวานน่าประทับใจให้กับชายหนุ่ม

“แอรอนคะ...ณัฐมีเรื่องจะบอก”

เธอไม่พูดเปล่า ยังอาจหาญหย่อนกายนั่งลงบนหน้าขาของเขา ใช้ลำแขนโอบรอบลำคอหนาไว้หลวมๆ จ้องมองซึ้งลงไปในดวงตาสีฟ้าแลดูมีเสน่ห์ ร่างสูงใหญ่แข็งทื่อราวกับหิน นิตยสารร่วงหลุดลงไปจากมือ ร่างกายขาวลออแต่งแต้มด้วยสีแดงระเรื่อจากอาการอาย ทำให้เขาร้อนรุ่มไปทั้งตัว ทำใจอย่างลำบากที่จะไม่กอดร่างเปลือยเปล่านี้

“มีอะไรจะบอกผม...คนดี...รีบบอกก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้บอก”

เขาพูดเสียงสั่น ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเปล่าเปลือยของเธอไปมา กลิ่นกายสาวยามอยู่ใกล้ทำให้เขาตบะแตก ทรวดทรงองค์เอวของเธอทำให้เขาอยากกลายร่างเป็นหมาป่า ไล่ตะปบเหยื่อสาว อารมณ์ดิบในร่างกระพือเดือดยิ่งกว่าลาวา

ตลอดระยะเวลาสองปีที่เธออยู่ที่นี่กับเขา แอรอนไม่เคยแตะต้องร่างกายของณัฐกานต์มากไปกว่าโอบเอว เขาให้เกียรติ ให้ความรัก ทะนุถนอม ดูแลเอาใจใส่ ให้คลายจากความเศร้าโศกเสียใจเรื่องคนรักเก่า ที่บัดนี้กลายมาเป็นน้องเขยของเขา แอรอนพร้อมจะรอให้เธอรับรัก แม้ว่าจะต้องคอยไปตลอดชีวิตก็ตาม

“คุณรอให้ณัฐบอกคำๆ หนึ่งกับคุณ แล้ววันนี้ณัฐพร้อมที่จะบอกคำๆ นั้นแล้วค่ะ” เธอหยุดพูด แย้มยิ้มให้ชายตรงหน้า “ณัฐรักคุณค่ะแอรอน”

กำแพงหัวใจที่ปิดกั้นคำว่ารัก นับตั้งแต่ถูกอัคนารถคนรักเก่าทิ้งไปแต่งงานกับโซเฟีย น้องสาวต่างมารดาของแอรอนเมื่อสองปีก่อน ณัฐกานต์ก็สัญญากับตัวเองว่า จะไม่เปิดรับรักใครอีก หัวใจดวงนี้เจ็บปวดและเข็ดหลาบกับความรัก เธอกลัวว่าจะต้องพบกับความผิดหวังอีกครั้ง และกลัวว่าตนเองจะทานรับความรู้สึกนั้นไม่ไหว

คำว่ารักกลับบ่มเพาะในหัวใจของเธอทีละน้อยๆ โดยไม่รู้ตัว ความรัก ความเอาใจใส่ การดูแลและคำปลอบโยนของแอรอน ทำให้กำแพงกั้นสูงค่อยๆ ทลายลง แต่เธอก็ยังไม่มั่นใจมากนัก ในช่วงแรกที่รู้หัวใจตัวเอง ณัฐกานต์กลัวเหลือเกินว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ทว่าแอรอนก็ทำให้เธอมั่นใจในตัวเขาได้ในที่สุด

ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้าง ใบหน้าคมหล่อเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม หัวใจเอิบอิ่มเต้นเร็วกว่าครั้งไหนๆ เมื่อได้ยินคำๆ นี้ คำว่า “รัก” ที่เขารอมานานแสนนาน ในที่สุดแอรอนก็ได้หัวใจเธอมาครอบครองเสียที เวลานี้เขาไม่อาจบอกได้ว่า ความดีใจนั้นมากมายแค่ไหน บอกได้เพียงแค่ว่า ไม่เคยมีความดีใจครั้งใดเท่าครั้งนี้

ทันทีที่กล่าวความในใจจบ เรียวปากนุ่มก็ทาบทับกลีบปากหนาของแอรอนอย่างแผ่วเบา นุ่มนวล และไม่เป็นประสบการณ์ อากัปกิริยาของเธอสร้างความงุนงงให้กับเขาเป็นอย่างมาก ไม่คาดคิดว่าสาวในดวงใจจะเป็นฝ่ายจู่โจมเขาก่อน

ทว่าเวลานี้แอรอนคิดอะไรไม่ออก ไม่สนใจสิ่งใดทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุและผล สิ่งที่แอรอนเลือกที่จะทำคือ จุมพิตตอบกลับอย่างเร่าร้อน แฝงไว้ซึ่งความอ่อนโยนและนุ่มนวล ลิ้นหนารุกเร้าลิ้นบางแลกเร้าจนร่างสาวอ่อนยวบไม่ต่างกับขี้ผึ้งลนไฟ

อกนุ่มหยุ่นแนบชิดกับอกกว้างแน่นขนัดไปด้วยกล้ามเนื้อ เมื่อเขาใช้ฝ่ามือดันแผ่นหลังบาง ส่งผลให้มวลสารความร้อนจากเรือนกายของเขาและเธอ ถูกถ่ายทอดให้แก่กันและกัน

“ณัฐรักคุณค่ะ และพร้อมที่จะเป็นของคุณ”

ณัฐกานต์มีโอกาสพูดเมื่อเขาปล่อยให้ปากสาวได้รับอิสระ แอรอนมองดวงตาคู่สวยซึ้งของณัฐกานต์หญิงสาวที่เขารักจนสุดหัวใจ มือหนายกขึ้นสูงวางบนบ่าเนียนสวย ไล้เบาๆ จนร่างเธอสยิวซ่าน เขาโน้มใบหน้าเข้าใกล้เธอ จรดปลายจมูกบนแก้มเนียนสวย คลอเคลียเรื่อยมาถึงใบหู

“ณัฐแน่ใจนะ” น้ำเสียงของเขาสั่นนิดๆ แอรอนต้องการคำยืนยันจากเธอ หากคำตอบคือ ไม่แน่ใจ เขาจะหยุดการกระทำทุกอย่าง ข่มอารมณ์ปรารถนาพลุ่งพล่านของตน แล้วพาเธอไปส่งที่ห้อง

“ค่ะ” ณัฐกานต์ตอบกลับเสียงหนักแน่น “ณัฐแน่ใจค่ะ ไม่เคยแน่ใจอะไรอย่างนี้มาก่อนค่ะ”

เท่านั้นเองร่างของเธอก็ถูกผ่อนลงบนที่นอนหนานุ่ม โดยมีร่างสูงใหญ่ทาบทับ แอรอนมอบจุมพิตอ่อนหวานและเปี่ยมไปด้วยความรักให้กับณัฐกานต์ เป็นจุมพิตที่เขาไม่เคยมอบให้ผู้หญิงคนไหนมาก่อน เธอเป็นคนแรกและจะเป็นคนสุดท้าย

รสจุมพิตในครั้งนี้จึงอุดมไปด้วยความรักผลิบานท่ามกลางสองหัวใจ ร่างกายของทั้งสองอุ่นร้อนไปด้วยเพลิงเสน่หาลามเลีย ปลายลิ้นหนารัดเกี่ยวลิ้นนุ่มสั่นระริกไปด้วยความประหม่า กล้าๆ กลัวๆ ที่จะตอบโต้ลิ้นใหญ่ ปล่อยให้เขาเป็นฝ่ายรุกและสอนประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับเธอ

ฝ่ามือแข็งแรงยังคงลูบไล้ไปทั่วร่างสาว ลากผ่านผิวเนื้อนุ่มละเอียดมือ ข้างลำตัวสาวเริ่มมีความร้อนแผ่กระจายเนื่องจากฝ่ามืออุ่นกำลังชโลมเชื้อไฟ ไล้แผ่วเบาชวนสยิว ลากต่ำลงไปยังสะโพกผายบีบเคล้นชั่วครู่ก็วกมือมายังร่างกายส่วนหน้า ขยับมือขึ้นสูงจนพบเจอกับอกอวบที่เขาไม่รอช้า นวดเฟ้นพอเป็นกระษัย จากนั้นค่อยเติมเชื้อเพลิงปรารถนาให้มากขึ้นและมากขึ้น

ฝ่ามือข้างนั้นไม่ได้ทำแค่เพียงเคล้นคลึง เขาหยอกเย้าปลายถันสีสวย ปั่นเบาๆ สลับกับสะกิดช้าๆ ร่างสาวถึงกับสั่น เสียงครางเบาๆ ก้องอยู่ในลำคอของเธอ พร้อมกันนี้ร่างกายยังบิดเร้าบนที่นอนราวกับว่า ทนความเสน่หาร้อนเร่าไม่ไหว

สาวอ่อนประสบการณ์ร่างกายรุ่มร้อนประหนึ่งเธอยืนอยู่ท่ามกลางดวงตะวัน ที่กำลังส่องแสงร้อนแรงสาดใส่ ทุกสัดส่วนแทบจะหลอมละลายเพียงแค่เขาโอ้โลม ไม่อยากจะคิดต่อไปว่า หากแอรอนทำมากกว่านี้ ร่างกายของตนจะเป็นเช่นไร จะมลายกลายเป็นไอหรือไม่

เป็นนานกว่าที่เขาจะปล่อยให้ปากสาวเป็นอิสระ วินาทีนั้นเธอเรียกลมหายใจของตนเองเข้าสู่ร่างทันที เพราะเวลานี้ระดับออกซิเจนในร่างกายกำลังลดทอนลง ทว่าเขาไม่ได้ละห่างไปไหนไกล ปากและจมูกยังคงสูดดมไปตามผิวแก้มที่หอมยิ่งกว่าดอกไม้ชนิดใดในโลก ละเรื่อยมาถึงใบหูหอมสะอาดที่ถูกลิ้นสากใหญ่ตวัดเล่นอยู่บริเวณติ่งหู ก่อนจะไล้เลียไปตามก้านหู โดยที่เขาใช้ไรฟันขบกัดเบาๆ ไปด้วย

“แอรอน...แอรอน” เธอครางเบาๆ รับความกระสันซ่านที่เขามอบให้ แล้วเขาก็ไม่ได้หยุดสร้างความรู้สึกนั้นเพียงแค่นี้ ยังมีความรู้สึกอีกหลากหลายอย่างที่เธอต้องพบเจอ

ความเสียวสะท้านสุดห้ามใจเกิดขึ้นกับณัฐกานต์ เมื่อริมฝีปากร้อนผะผ่าวเดินทางมาถึงดอกอุบลคู่งามชวนหลงใหล เขาซุกซบใบหน้าคลอเคลียไม่ห่าง ทั้งสูดดม ทั้งแทะเล็มและใช้ปลายลิ้นเลียไล้ ก่อนจะอ้าปากครอบครองปลายถันสีสะดุดตาล่อใจให้เขาเชยชม

“แอรอน...แอรอน” ณัฐกานต์ยังคงระบายเสียงครางออกมาอย่างต่อเนื่อง รูขุมขนทุกอณูลุกซู่ โลหิตในร่างเดือดพล่าน เดือดระอุไม่ต่างกับน้ำเดือดบนเตาไฟ

ปลายถันทั้งซ้ายขวาถูกชายหนุ่มครอบครองสลับกันไปมา คล้ายกับว่าไม่ต้องการให้อีกข้างน้อยเนื้อต่ำใจ และนั่นยิ่งเพิ่มความเสียวสยิวให้กับณัฐกานต์เพิ่มขึ้น ทุกลมหายใจที่ผ่อนออกมาติดขัดและร้อน เช่นเดียวกับเสียงครวญรัญจวนที่บ่งบอกถึงอารมณ์ปรารถนา