บท
ตั้งค่า

๑ เผชิญดาวร้าย / 5

เมื่อเสี่ยวเมิ่งวิ่งห่างออกไป ข้าจึงอ้าปากกว้างแล้วใช้นิ้วคว้านคอตนเองให้อาเจียนออกมา ความรู้สึกกระอักกระอ่วนมวนท้องคล้ายจะออกก็ไม่ออก มันค้างอยู่ในลำคออย่างไรอย่างนั้น

“โอ้กกกก” ข้าตะเบ็งเสียงออกจากคอ น้ำหูน้ำตาเล็ด ยอบกายไปนั่งย่องๆ กับพื้น เกรงว่าจะหน้ามืดล้มคะมำลงไปเสียก่อน มาก้มๆ เงยๆ เช่นนี้

“โอ้กกกกกกกก...อึก เมื่อไรจะออก ข้าเจ็บคอไปหมดแล้ว” ข้าเอ่ยพึมพำพลางยกแขนเสื้อเช็ดน้ำตาที่ปริ่มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

เหตุการณ์ทั้งหมดของไป๋ซิงหนี่ว์ถูกจับตามองด้วยบุรุษผู้หนึ่ง ก่อนหน้านั้นเขาเดินออกจากกระโจมตามไล่หลังนางมาอย่างคับข้องใจ ตอนนี้เขากำลังยืนกอดอกหลุบตามองสตรีที่นั่งตัวสั่นโยกคว้านคอตนเองอาเจียนออกมา และยืนมองดูพักใหญ่นางก็ยังไม่รู้สึกตัว เขาคร้านที่จะยืนคอยนานจึงเริ่มเปิดบทสนทนาขึ้น

“คุณหนูรอง”

“โอ้ก...” ข้าที่กำลังโก่งคออาเจียนออกมา พลันก็หยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่ทันที น้ำเสียงกดต่ำนี้แลฟังดูคุ้นหูมากนัก

ข้ากลืนของทั้งหมดลงท้องไป ล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้าออกจากอกซับไปที่หางตา และปากตนเอง ยันกายลุกขึ้นยืน กำมือแน่นเรียกสติ และหันหลังกลับไปช้าๆ และเอ่ยกับเขา

“มีธุระอันใดหรือคุณชายจิ้น”

“ธุระ…” จิ้นฝานทวนคำกล่าวของนาง คิ้วมุ่นเข้าเล็กน้อย หรี่ตาข้างเดียวลงมองประเมินสตรีตรงหน้าอย่างเคลือบแคลงในใจ ก่อนจะกล่าวขึ้นต่อ

“ข้าต้องเป็นคนถามถึงจะถูก ว่าคุณหนูรองมีธุระอันใด”

“หืม!” ข้าเค้นเสียงก่อนจะกล่าวตอบเขาด้วยความแปลกใจ “ข้าไม่มีธุระอันใดกับท่าน”

“ไม่มี...การกระทำก่อนนี้คืออันใด” จิ้นฝานกอดอกเอ่ยเสียงทุ้มต่ำลงมากกว่าคราแรก จ้องมองดวงหน้าของนางราวกับว่ากำลังหาคำตอบกับเรื่องที่สงสัยในใจ

“การกระทำ...นี่ท่านติดใจหีบอาภรณ์นั่นน่ะหรือ มันเป็นเรื่องบังเอิญที่บ่าวขนมาผิดห้องเพียงเท่านั้น” ข้าเชิดหน้าขึ้นสบดวงตาดุตรงหน้า แต่ทว่าเท้าข้าเองกลับก้าวถอยหลังออกไปหนึ่งก้าว

“ข้าหมายถึงเอี๊ยมอิสตรีที่มันติดมาในหีบของข้าด้วยต่างหาก” จิ้นฝานเอ่ยเข้าเรื่อง ถ้ามัวคุยอ้อมคงจะไม่รู้เรื่องกันเสียที

“เอี๊ยม...นี่ท่านกำลังหมายถึงเอี๊ยมของข้าหรอกหรือ” ข้ากล่าวทันที จะบ้าไปแล้วหรืออย่างไร มีเหตุผลอันใดที่ต้องยัดเอี๊ยมใส่เข้าไปในหีบของเขาด้วย นี่คงจะคิดหลงตัวเองเกินไปแล้วกระมัง

“ถ้ามิใช่ของท่าน แล้วจะเป็นของสตรีนางใด” จิ้นฝานกอดอกกล่าว

“อย่ามากล่าวดูหมิ่นข้าเช่นนี้ ไม่มีเหตุจำเป็นเลยที่จะต้องทำเรื่องเช่นนั้น” ข้าตอกกลับ จ้องดวงตาที่เริ่มดุขึ้นเรื่อยๆ

“ฮึ” จิ้นฝานเค้นเสียงในคอ ส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะกล่าวสิ่งที่ตนคิดออกมา “ข้าไม่พิศวาสสตรีเช่นท่านหรอกนะ...มิต้องมาหว่านเสน่ห์เหมือนบุรุษอื่นที่ท่านเคยทำ วิธีเช่นนี้ใคร่ว่าจะดูไม่ออก และคุณหนูรองตระกูลหลิงนั่นอีก อย่าได้กระทำเช่นนี้อีก”

แม้จิ้นฝานเป็นบุรุษสงวนท่าทีก็ตาม หากแต่พอกล่าวออกมานั้นล้วนไม่ต่างกับคมมีด นิสัยเขาตรงไปตรงมา ชอบก็ว่าชอบ ไม่ชอบก็จะถอยห่าง หากมายุ่มย่ามให้รำคาญก็จะตอบโต้กลับเหมือนคำกล่าวก่อนหน้านี้

“ท่านบ้าไปแล้วรึคุณชายจิ้น ถึงได้ดูหมิ่นกันอย่างนี้ บุรุษเช่นท่านใคร่ว่าข้าอยากจะเข้าใกล้” ข้าตอบเขากลับไม่ลดละเช่นกัน หลงตัวเองชัดๆ

“ก็จำคำกล่าวท่านเอาไว้” จิ้นฝานกล่าวเสียงนิ่ง หลุบตามองนางตั้งแต่ปลายเท้าถึงศีรษะก่อนที่จะหันหลัง และเดินกลับกระโจมไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัวในอก

“บุรุษชั่วช้า ยังมาปรักปรำข้าอีก” ข้าสบถออกมาอย่างอารมณ์เสีย เมื่อครู่จะอาเจียนออกมาอยู่แล้วเชียว

เพราะเขามาข้าถึงต้องกลืนลงคอไปใหม่ สาเหตุทั้งหมดมาจากหลิงจูแท้ๆ ข้าอุตส่าห์หลีกเลี่ยงจะปะทะกับเขา สุดท้ายก็หนีไม่พ้น โดนกล่าวหาในทางผิดๆ อีก

ตัวก็ใหญ่ ผิวก็เสีย นิสัยยังต่ำช้าเลวทรามอีก มองหาข้อดีไม่ได้สักอย่าง และยังมาโทษข้า เอี๊ยมนั่นอาจจะเป็นภรรยาบ่าวของเขาในเรือนที่ติดมาก็ได้ เจ้าคนบ้า!

เสี่ยวเมิ่งที่ยืนดูเหตุการณ์ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ยกมือขึ้นมาเกาหัวอย่างหนักใจ การจัดฉากนี้มีแต่ทำให้คนทั้งสองความสัมพันธ์ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ไม่มีเค้าจะผูกเส้นสัมพันธ์กันได้แม้แต่น้อย

“คุณหนู! หมอหลวงบอกว่าสุราเหมยฤทธิ์อ่อนราวกับน้ำเปล่าเจ้าค่ะ” เสี่ยวเมิ่งเดินเข้าไปบอก และพยุงแขนนายหญิงตนเองเอาไว้หนึ่งข้าง

“แน่ใจนะ เมื่อครู่ข้าตกใจแทบแย่ เกรงว่าจะส่งผลให้…” ข้าที่กำลังกล่าวก็หุบปากลง เงียบเสียง ดีที่ไม่หลุดปากเอ่ยออกไป

“สบายใจได้เลยเจ้าค่ะ ว่าแต่คุณหนูจะกลับไปงานเลี้ยงต่อหรือไม่เจ้าคะ” เสี่ยวเมิ่งเอ่ยถาม

“ไม่แล้ว ข้าจะกลับกระโจม” ข้าเอ่ยเสียงล้า วันนี้หมดแรงจะไปนั่งสนุกต่ออีกแล้ว สู้กลับไปนอนเอนหลังพักน่าจะดีกว่า

“เจ้าค่ะ ประเดี๋ยวคืนนี้ข้านวดขาให้คุณหนู จะได้นอนหลับสบายมากขึ้น” เสี่ยวเมิ่งเอ่ยเอาใจ

เพราะเเผนการของนาง คุณหนูรองถึงได้ผิดใจกับคุณชายจิ้น เห็นสีหน้าคุณหนูรองตื่นตระหนกเมื่อครู่นี้ เสี่ยวเมิ่งก็อดที่จะรู้สึกผิดไม่ได้

ในวันรุ่งขึ้นเหมือนราวกับว่าท้องฟ้าจะสงบ แต่กลับเกิดพายุลูกใหญ่หอบเอาความเสียหายมากมายมากองเอาไว้ที่ตระกูลไป๋

เจี่ยเจียของข้าถูกลอบทำร้าย จนถึงคราสิ้นใจในอ้อมอกคุณชายเยี่ย

ในยามสายมีเสียงฝีเท้าเหล่าทหารหลายนายวิ่งล้อมกันกระโจมเอาไว้อย่างแน่นหนา

ก่อนหน้าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น ข้านอนเอนหลัง เย็บรองเท้าน้อยให้ลูกในห้อง แล้วก็ได้ยินเสียงตะโกนสั่งการของไท่จื่อที่ดังขึ้น

เรื่องราวเกิดขึ้นรวดเร็วไม่ทันได้ขบคิดหาสาเหตุของเรื่องเสียด้วยซ้ำไป

ยามนั้นข้าเดินออกมาด้านหน้ากระโจมมองสีหน้าตื่นตระหนกของคุณชายเยี่ยได้อย่างติดตา ราวกับว่าเขาจะขาดใจไปให้ได้ ความทุกข์ระทมนั้นแพร่ออกมาจนสัมผัสได้ว่าใจของเขาจะสลายไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel