บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 บัวสวรรค์

ร่างสูงเพรียวกำยำในเสื้อทีเชิ้ตสีดำแบรนด์ดังกับกางเกงยีนสีน้ำเงินเข้มชะลอฝีเท้าลงเมื่อสายตาสะดุดกับบางสิ่ง จนสองคนที่เดินเคียงกับเขาต้องชะลอฝีเท้าตาม แล้วมองไปยังทิศทางเดียวกัน ก่อนที่ฝ่ายหญิงสาวจะพูดขึ้น

“ชอปปิงมอลล์ของโรงแรมเปิดพื้นที่ให้ผู้ค้านอกเข้ามาใช้พื้นที่ค่ะ วันนี้เลยเปิดบูธประชาสัมพันธ์ มีสินค้าลดราคามาขายเสริมบรรยากาศด้วย คุณแม็กซ์จะเข้าไปดูใกล้ๆ ไหมคะ เผื่อว่าจะมีคำแนะนำให้เรา”

“ไม่เป็นไรครับ เมื่อกี้ผมคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเห็นคนรู้จัก ส่วนงานของโรงแรม ผมไม่กล้าแนะนำหรอกครับ ประสบการณ์ผมไม่มากพอ ไม่กล้าสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ”

“แหม! คุณแม็กซ์นี่ร้ายจริงๆ นอกจากปากหวานแล้วยังรู้จักใช้สำนวนไทยอีกด้วย”

“ผมก็เป็นคนไทยนี่ครับ อย่างน้อยคุณย่าของผมก็เป็นคนไทยแท้”

“จริงหรือคะ วดีก็สงสัยว่าทำไมคุณถึงพูดไทยได้คล่อง ตอนแรกคิดว่าเพราะต้องติดต่องานกับเมืองไทยเลยเรียนรู้ภาษาไทยเสียอีก”

“ครอบครัวผมอยู่ที่อังกฤษ แต่คุณย่าเป็นคนไทย ท่านเข้มงวดเรื่องภาษาไทยกับคุณพ่อมากครับ พอมาถึงผมซึ่งเป็นหลาน คุณย่าก็เลี้ยงเองตั้งแต่เด็ก ทำให้พูดภาษาไทยได้ด้วย ไม่เว้นแม้แต่คุณแม่ของผม ผมชอบภาษาไทยนะ สำเนียงฟังไพเราะ อาหารไทยก็อร่อย พอเห็นลู่ทางว่าจะได้มาสัมผัสกับเมืองไทย ผมเลยไม่พลาดโอกาส”

“วดีแปลกใจนะคะที่รู้ว่าคุณย่าของคุณเป็นคนไทย ทำให้รู้สึกว่าเราไม่ใช่คนอื่นคนไกล ดีใจที่คุณเลือกมาลงทุนที่เชียงราชด้วย บริษัทพัฒนาอสังหาของคุณมีชื่อเสียงมาก มีผลงานเกือบทั่วโลก พอรู้ว่าคุณเข้ามาในเมืองนี้ วดีก็พลอยตื่นเต้นไปด้วยค่ะ”

“ผมเป็นแค่หนึ่งในหุ้นส่วนครับ ยังไงก็ขอบคุณคุณวดีสำหรับความรู้สึกดีๆ ที่มีให้ผมและบริษัทเราครับ”

คู่สนทนาสองคนยังพูดคุยราวกับว่าสนิทสนมมาช้านาน ไม่ใช่เพิ่งมาเจอกันครั้งแรกในวันนี้...

คนสนิทที่ติดตามใกล้ชิดจึงอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองอย่างประหลาดใจ ไม่คิดว่าเจ้านายจะคุยถูกคอกับสาวสวยเจ้าของโรงแรมเวียงรวีถึงเพียงนี้

หากภาพที่เห็นตำตาระหว่างแม็กซ์เวลกับอรุณวดีก็ยืนยันได้อย่างดี ดังนั้นถึงไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อแล้วละ

ไม่ใช่ธันว์คนเดียวที่รู้สึกสะดุดกับการพูดคุยอย่างถูกคอระหว่างนักลงทุนหนุ่มและเจ้าของโรงแรมสาวสวย เพราะภาพนั้นก็สะดุดสายตาของผู้หญิงสองคนที่หลบอยู่ตรงมุมหนึ่งของบูธจัดงานเช่นกัน

“พี่บัวลากหนูมาตรงนี้ทำไม นั่นคุณแม็กซ์เวล หนูอยากมองเขาใกล้ๆ”

เสียงบ่นกระปอดกระแปดของสาวรุ่นน้องทำให้บัวบูชาต้องถอนหายใจอย่างอ่อนระอา

นายหมาป่าล่าเนื้อมีดีตรงไหนนะ ทับทิมถึงยังเพ้อไม่เลิกสักที

“เขาคุยอยู่กับเจ้าของโรงแรมนี้ ทับทิมจะไปมองเขาใกล้ๆ ได้ยังไง เดี๋ยวก็เกะกะพวกเขาหรอก แล้วที่พี่พามาตรงนี้เพราะยังทำใจให้เห็นนายคนนั้นไม่ได้ ถึงเขาจะไม่รู้จักเราก็เถอะ แต่พี่ก็ไม่อยากให้เขาอยู่ในรัศมีสายตา”

“คุณแม็กซ์เวลจะรู้จักหรือไม่รู้จัก หนูไม่สนใจ แต่หนูมั่นใจว่าเมื่อกี้เขามองเราด้วย แต่พี่บัวพาหนูมายืนตรงนี้เสียก่อน ป้ายของบูธก็บังหนูจนมิด เขาเลยมองไม่เห็นหนูกันพอดี”

“โอ๊ย! ทับทิม เป็นอะไรของเรา ถ้าเขาจะมองเราก็ในฐานะตัวมดตัวมอดที่ยังไต่เกะกะอยู่ในที่ของเขา ไม่รู้เมื่อไรจะโดนเผาไล่ที่ ทำไมถึงไม่นึกถึงข้อนี้เอาไว้”

บัวบูชาพูดอย่างสิ้นสุดความอดทน เธอไม่อยากเห็นและไม่อยากอยู่ใกล้นายคนนั้นสักนิด เพราะเห็นเขาทีไรก็พานให้รู้สึกเครียดจนไมเกรนแทบถามหาทุกที

“คนร้ายกาจ”

คำพูดลอยๆ ของสาวน้อยทับทิมทำให้บัวบูชาโล่งอกอยู่บ้าง เมื่อคิดว่าเจ้าหล่อนคงเข้าใจดีแล้ว จึงไม่ลืมย้ำตามไปอีก

“ใช่ จำไว้เลยนะว่านายคนนั้นเป็นคนร้ายกาจ ทับทิมไม่ต้องไปอยู่ใกล้เขา ไม่ต้องให้เขามองเห็นเรานักหรอก อยู่ห่างๆ กันไว้แหละดี มันปลอดภัยกับเรา”

หากถ้อยคำต่อมาก็ทำให้บัวบูชาต้องหันขวับมองอีกฝ่ายนิ่งค้าง

“พี่บัวนั่นแหละร้ายกาจ เมื่อกี้หนูไม่ได้ว่าคุณแม็กซ์เวลสักหน่อย พี่บัวชอบใส่ร้ายเขา เขาหล่อขนาดนั้นไม่มีทางใจร้ายกับเราหรอก”

“ตรรกะอะไรของทับทิมเนี่ย เขาหล่อแล้วจะไม่ใจร้าย จำไว้เลยนะว่าคนหล่อคนหน้าตาดีไม่มีความเกี่ยวข้องกับความเป็นคนดีหรือคนไม่ดีต่างหาก”

“นั่นละ เขาแค่หน้าตาดี ไม่ใช่คนไม่ดี พี่บัวก็มองเขาใหม่ด้วย”

บัวบูชากลอกตาอย่างเหนื่อยหน่ายใจ ไม่อยากโต้เถียงด้วยอีกแล้ว จึงตัดบทจูงมือเจ้าหล่อนไปอีกทาง เมื่อเห็นป้ายบอกเงื่อนไขของพื้นที่ให้เช่าขายของบริเวณรอบนอกของชอปปิงมอลล์ที่อยู่ติดกับโรงแรมเวียงรวี

หลังจากเสร็จธุระกับเจ้าของโรงแรมเวียงรวี แม็กซ์เวลจึงขอตัวกลับ แม้อีกฝ่ายจะยื้อไว้โดยเสนอตัวเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารว่าง แต่เขาก็ต้องปฏิเสธเพราะมีนัดในช่วงบ่ายนี้แล้ว

เมื่อแยกจากกัน นักธุรกิจหนุ่มที่กำลังมีผลงานพุ่งแรงในช่วงเวลานี้ก็ตรงไปยังลานจอดรถบริเวณด้านหน้าของโรงแรมที่กันไว้สำหรับแขกวีไอพี

ทุกย่างก้าวที่ทอดเอื่อยนั้น คนเดินตามหลังรู้ว่าเขากำลังใช้เป็นโอกาสในการสังเกตรอบตัวพร้อมกับเก็บข้อมูลไปด้วย

เมื่อมาถึงรถคันสีดำประเปรียว เขาจึงเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่งประจำตำแหน่งคนขับ โดยคนติดตามเปิดประตูรถนั่งเคียงข้างไปเงียบๆ

ธันว์จัดการตัวเองเรียบร้อย หากจนสักพักแล้วรถก็ยังไม่เคลื่อนออก จึงหันมองคนที่ทำหน้าที่ขับรถ

“หาคนรู้จักอยู่หรือครับบอส”

เสียงถามเรียบนิ่งถึง ‘คนรู้จัก’ นั้นทำให้แม็กซ์เวลขยับมุมปากยิ้มอย่างนึกขัน เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เขาเพิ่งบอกกับอรุณวดีไป

“นายเคยบอกว่าคนที่อยู่ในที่ดินเราเป็นคนแก่ แต่ฉันจำได้ว่ามีคนหนุ่มสาวอายุไม่มากก็เข้ามาทำกินในที่ดินแปลงนั้นด้วย อย่างน้อยก็ผู้หญิงสองคนเมื่อกี้ ฉันจำได้ แต่เผลอแป๊บเดียว พวกเธอก็หายไปแล้ว”

“ผมไม่แปลกใจที่บอสจำได้ ความจำบอสดีเสมอถ้าเป็นผู้หญิงสวย ว่าแต่คนไหนล่ะ คนที่ผูกผมหางม้าสวมเสื้อสีขาวหรือคนปล่อยผมยาวสวมเสื้อสีน้ำเงิน”

“ฉันไม่มีรสนิยมชอบเด็ก”

“ถ้าอย่างนั้นก็คนปล่อยผมยาวสินะ แต่ผมว่ามองยังไงก็ ‘เด็ก’ ทั้งสองคนแหละครับ” ธันว์ย้ำคำให้อีกฝ่ายได้รู้สึกตัว เขาไม่อยากให้แม็กซ์เวลไปยุ่งกับผู้หญิงอย่างสองคนนั้น “เด็กสาววัยรุ่นกับผู้หญิงสาวที่เพิ่งพ้นวัยรุ่นมาไม่นาน ซึ่งถ้าเทียบกับบอส ยังไงพวกเธอทั้งสองคนก็เด็กไปอยู่ดี”

“สรุปว่าพวกเธอเป็นของต้องห้ามใช่ไหม”

“เรียกว่าไม่เหมาะสมมากกว่าครับ เพราะบอสบอกเองว่าพวกเธออยู่ในที่ดินที่เรากำลังขอให้ย้ายออก อีกอย่างพวกเธอก็ไม่ใช่แนวที่บอสเคยชอบ ผมมองเห็นแต่ความยุ่งยาก ไม่อยากถูกผลักไปรับหน้ากับผู้หญิงของบอสอีก ผมรับมือผู้หญิงแนวนี้ไม่เป็นเสียด้วย คงใจไม่แข็งพอ แต่ถ้าเป็นคุณอรุณวดีก็เชิญตามสบาย”

“นายก็คิดไกลเกินไป”

แม็กซ์เวลหัวเราะอย่างไม่ถือสาหาความ เมื่อธันว์พูดดักออกมาเป็นฉากๆ

นายคนนี้คิดล่วงหน้าไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ทั้งที่เขาก็แค่มองผู้หญิงสองคนนั้นเพราะคุ้นตา ยอมรับละว่าสายตาเพ่งไปหาคนที่ปล่อยผมยาว สวมเสื้อสีน้ำเงินกับกางเกงสีดำแนบกระชับเรียวขามากกว่า...ก็ช่วยไม่ได้นี่นะ ในเมื่อภาพของเธอดึงดูดสายตาเขาไปหาเองโดยไม่รู้ตัว

“ที่ดินกลางเมืองเชียงราชอยู่ในมือของบอสสามแปลง สองแปลงมีพื้นที่มากกว่าสิบไร่ สามารถขึ้นโครงการตามแผนของบริษัทได้โดยไม่มีข้อจำกัด แต่ที่ดินย่านเมืองเก่า บริเวณตึกแถวและตลาดสดด้านหลัง รวมกันยังไม่ถึงแปดไร่ดี แถมมีปัญหาคนเช่าเก่าด้วย ถ้าบอสจะขายต่อผมก็คิดว่ามีเหตุผลให้ทำ”

“แล้วยังไงต่อ”

“ปกติบอสเป็นคนไม่ชอบปัญหา ตรงไหนติดขัด บอสไม่เก็บไว้ แต่ไม่ใช่กับแปลงนี้ แถมยังเข้าไปดูหลายรอบ ผมเลยสงสัยว่าติดใจอะไร”

“ติดใจทำเล” นักธุรกิจหนุ่มตอบเสียงเรียบ ไม่สนใจว่าคนฟังจะเชื่อเขาหรือเปล่า “เหตุผลที่เก็บที่ดินย่านเมืองเก่าไว้เกี่ยวกับงานล้วนๆ ส่วนผู้หญิงคนนั้น...เธอสวยสะดุดตา ฉันยอมรับ แต่ไม่มากพอให้แลกกับงานหรือเม็ดเงินที่จะได้มา”

เขาไม่รู้ว่าธันว์จะเชื่อในเหตุผลสักแค่ไหน เพราะเมื่อเหลือบมองก็เห็นสีหน้าของเจ้าตัวยังเรียบนิ่ง ก่อนจะได้ยินถ้อยคำตามมา

“บอสมีนัดกับคุณไรวินทร์ใช่ไหม งั้นช่วยไปส่งผมที่รีสอร์ตแสงตะวันก่อน ออกนอกเส้นทางไปไม่ถึงสิบกิโล วันนี้ผมขอลางานช่วงบ่าย อยากพักผ่อน”

เมื่อลูกน้องคู่ใจสั่ง บอสใหญ่ก็ได้แต่ไหวไหล่แล้วเคลื่อนรถออกอย่างว่าตามกันง่ายๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel