บท
ตั้งค่า

กว่าจะมีวันนี้

กว่าจะมีวันนี้

" ภัทร...ทำอะไรอยู่อ่าาาา " รุจิการ้องตะโกนออกมาจากห้องนอน

เสียงที่ดังขึ้นทำให้คนที่นอนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ที่โซฟาด้านนอกรีบยันกายลุกขึ้น ขายาวก้าวฉับตรงไปยังต้นเสียงที่เอ่ยเรียกทันที วันนี้ลูกชายตัวแสบของเขามีไข้ ตัวร้อนแต่ก็ไม่ได้มากอะไร...รุจิกาบอกว่ารับมือได้จึงไม่ได้พาเด็กตัวน้อยไปหาหมอ

คงเพราะเมื่อวานโดนละอองฝนแน่ๆ

เขาจำคำพูดของเมียสุดที่รักมาพูดน่ะนะ...หลายคนอาจคิดว่า เฮ้ยยย!! ... ใช่เหรอ แค่โดนละอองฝนแค่นี้ก็ป่วยแล้วเหรอ มันอาจไม่ใช่สำหรับเด็กคนอื่นแต่กับลูกชายของเขานั้นจริงแท้แน่นอนเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก

น้องพอร์ทเคยป่วยหนักเพราะติดเชื้อ RSV ตอน 10 เดือนกว่าๆและป่วยเป็นปอดติดเชื้ออีกในช่วง 1 ขวบ 11 เดือน

จากการป่วยทั้งสองครั้งส่งผลให้ปอดของลูกชายของเขาไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ ช่วง 2 - 4 ขวบก็ป่วยบ่อยมาก เป็นแต่ละครั้งนี่ภรรยาของเขาแทบจะไม่ได้นอนเพราะต้องเฝ้าดูแลลูกทั้งคืน ยิ่งเป็นไข้แล้วมีไอด้วยเนี้ย...เด็กตัวเล็กไอจนหน้าดำหน้าแดงเลยทีเดียว ใครเห็นก็เป็นสงสารทุกคน หลายคนบอกไอน่ากลัวมาก เขาและภรรยาต้องพาตัวเล็กไปพ่นยาที่คลินิกบ่อยๆ

" มีอะไรรึเปล่า " ชายหนุ่มเอ่ยถามเพราะรู้ว่าเธอคงอยากจะได้อะไรสักอย่างแน่นอน รุจิกาเป็นคนเก่ง...หากไม่เหนือบ่ากว่าแรงเธอจะไม่เอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากใครเลย

" ไปดูมะนาวในตู้เย็นให้หน่อยว่าเหลือเท่าไหร่ ถ้ามีไม่เยอะเธอต้องออกไปซื้อให้เค้านะ...เผื่อคืนนี้ลูกตัวร้อนขึ้นมาอีกจะได้มีใช้ "

" อึ้ม " คนตัวสูงรับคำอย่างว่าง่าย

" เดี๋ยว !! "

" ... " ภัทรพลหมุนตัวกลับมามองหน้าคนที่นั่งอยู่บนเตียงกับลูกชาย คนตัวน้อยของเขากำลังหลับตาพริ้มอยู่

" ดูในกล่องยาให้ด้วยว่ามียาเขียวตราใบโพธิ์เหลืออยู่มั้ย อันนี้แหละขาดไม่ได้เลย "

" อึ้ม "

" เดี๋ยว !! " และก่อนที่สามีหนุ่มจะเดินออกจากห้องไปรุจิกาก็เอ่ยเรียกเขาไว้อีก

" ... " หญิงสาวแอบหวั่นเล็กน้อยเมื่อเขาหันกลับมาอีกครั้งและก็ไม่ได้พูดอะไร

" เปล่า...แค่จะบอกว่าให้ดูดีๆนะ มันขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ " พูดจบเธอก็ส่งยิ้มหวานให้เขา สามีของเธอเป็นคนไม่ค่อยพูด...เข้าสังคมก็ยาก หากไม่สนิทจริงๆเขาก็จะไม่พูด จะมีคุยหยอกล้อเล่นด้วยบ้างแต่ก็กับคนที่สนิทมากเป็นพิเศษเท่านั้น

" มีอะไรอีกมั้ย " เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น...เขาคงไม่ได้รำคาญเธอหรอกนะ ใช่มั้ย ?

" ไม่มีแล้ว... Thank นะคะคุณพ่อ " รุจิกาลากเสียงพร้อมกับส่งยิ้มหวาน เขาส่ายหน้าและส่งยิ้มกลับเหมือนกัน...ภัทรพลหมุนตัวเดินออกจากห้องแล้วตรงไปยังห้องครัวเพื่อตรวจเช็คสิ่งที่ภรรยาของเขาอยากรู้

รุจิกามองตามแผ่นหลังของสามีแล้วก็อดที่จะหวนนึกถึงวันเก่าๆไม่ได้ กว่าที่เธอและเขาจะมีวันนี้ไม่ง่ายเลย...กว่าจะมาเป็นครอบครัว มีพ่อ แม่และลูกแบบนี้ไม่ง่ายเอาเสียเลย

16 ปีก่อน

" สวัสดีค่ะ...มาพบพี่พราวค่ะ " รุจิกาเอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้พนักงานหญิงที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์

" กิ๊วที่มาสมัครงานใช่มั้ย " เธอถามกลับด้วยท่าทางเป็นมิตร

" ใช่ค่ะ " รุจิกาพยักหน้า

" พี่พราวรออยู่ในห้อง...เดินเข้าไปเลย " รุจิกายิ้มหวานพยักหน้าแล้วเดินไปทางที่เธอชี้บอก หญิงสาวเคาะประตูห้องที่เปิดไว้อยู่แล้วเพื่อขออนุญาต

" เข้ามาเลย...กิ๊วใช่มั้ย " เมื่อได้รับอนุญาตจากคนด้านในหญิงสาวจึงเดินเข้าไปอย่างไม่รีรอ

" สวัสดีค่ะ...หนูกิ๊วค่ะ "

" สวัสดีจ๊ะ...อ่า..นั่งเลย ไม่ต้องมีพิธีรีตรองอะไร พี่สบายๆอยู่แล้ว "

" ขอบคุณค่ะ " รุจิกายกมือไหว้เจ้าของร้านอีกครั้ง หญิงสาวมองคนตรงหน้าด้วยความแปลกใจเล็กน้อย..ก็ไหนพี่ปั้นบอกเจ้าของร้านแต่งงานจนมีลูกสองแล้วเธอก็นึกว่าพี่พราวจะมีอายุแล้วเสียอีก

" ยิ้มอะไรจ๊ะ..หน้าพี่มีอะไรติดอยู่อย่างนั้นเหรอ " เมื่อเห็นคนมาใหม่นั่งลงแล้วเอาแต่ยิ้มไม่พูดไม่จาอะไรเจ้าของร้านสาวจึงเอ่ยถาม

" โอ๊ะ..ไม่..ไม่นะคะ คะ คือ เห็นพี่ปั้นบอกว่าพี่เป็นคุณแม่ลูกสองแล้วหนูก็นึกว่า...เอ่อ...พี่จะแก่กว่านี้ แฮร่ ... " รุจิกายิ้มเจื่อนๆแล้วเอ่ยแบบกระท่อนกระแท่น

" ฮ่าๆๆ ความจริง 30 นี่ก็แก่แล้วอย่างกิ๊วว่านั่นแหละ "

" โอ้ยยย..ไม่นะคะ ยังไม่แก่เลย นี่หนูยังนึกว่าพี่เป็นนักศึกษาอยู่เลยนะคะ "

" แหม...ปากหวานนะเราเนี้ย อ๊ะ...มาคุยเรื่องงานดีกว่า เคยทำร้านกาแฟมั้ย "

" ทำแบบเต็มตัวยังไม่เคยค่ะ แต่มีไปช่วยร้านของพี่สาวเพื่อนบ้างเป็นครั้งคราว " รุจิกาตอบตามความจริง เธอยังไม่รู้ว่าวันนี้มาแล้วจะได้งานหรือไม่...รุ่นพี่ข้างบ้านบอกให้มาลองสัมภาษณ์ดูก่อนเผื่อเจ้าของร้านจะรับเธอเข้าทำงาน

" เห็นปั้นบอกเราอยากหางานพิเศษทำไปด้วยเรียนไปด้วยเหรอ "

" ค่ะ...อยากช่วยแบ่งเบาภาระของแม่น่ะค่ะ "

" แล้วคิดว่าไหวแน่นะ...ที่นี่ลูกค้าจะเยอะช่วงเย็นยิ่งเย็นวันศุกร์นี่ไม่ได้นั่งกันเลยล่ะ " เจ้าของร้านสาวเอ่ย

" ไหวแน่นอนค่ะ ... ให้หนูทดลองงานก่อนก็ได้นะคะ ถ้าชอบไม่ชอบยังไงพี่บอกหนูได้เลย " เด็กสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

" โอเค...ถ้าคิดว่าไหวก็ลองดู งั้นพรุ่งนี้มาเริ่มงานเลย โอเคมั้ย "

" นี่พี่รับหนูเข้าทำงานแล้วเหรอคะ " ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความดีใจ

คาเฟ่ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากหอพักของเธอ หากได้งานพิเศษที่นี่เธอก็ไม่ต้องลำบากนั่งรถไกลๆ หรือวันไหนเลิกดึกรถประจำทางหมดเธอก็สามารถเดินกลับเองได้

" ทดลองงานไปก่อนนะ ถ้าไหวจริงๆพี่จะปรับเงินเดือนเพิ่มให้ ช่วงนี้ก็ทำเป็นรายชั่วโมงไปก่อน "

" ไม่เป็นไรค่ะ แล้วแต่พี่เลย...หนูยังไงก็ได้ขอแค่มีรายได้เพิ่มก็พอแล้ว " รุจิกาว่า...เธอหมายความแบบที่พูดจริงๆ...เรื่องเงินเดือน...จะได้มากได้น้อยเธอไม่เกี่ยง ขอแค่ได้งานที่นี่ มีรายได้เพิ่มขึ้นมาแค่นั้นก็พอแล้ว

ร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากที่พัก...ข้อนี้สำคัญสุด เพราะหากแม่รู้ว่าเธอได้งานไกลๆกลับค่ำๆมืดๆแม่คงไม่ยอมแน่ๆ แม่ของเธอยอมเหนื่อยเพื่อหาเงินมาส่งเสียให้เธอเรียน...แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็จะไม่ยอมให้แม่เหนื่อยคนเดียวหรอก

ผวั๊ะ....ระหว่างที่สองสาวกำลังคุยกันอยู่ ประตูห้องด้านในสุดของร้านก็ถูกเปิดออกมา ร่างสูงเดินขยี้หัวตัวเองออกมา ใบหน้าของเขายังดูสะลึมสะลือบ่งบอกได้ว่าพึ่งจะตื่นและลุกเดินออกมาจากที่นอน

" อ้าว...ตื่นแล้วเหรอ " เจ้าของร้านสาวที่กำลังคุยกับรุจิกาหันไปหาแล้วเอ่ยทัก

" อึ้ม...มึนหัวชะมัด นี่ลูกยังไม่กลับมาอีกเหรอ "

" ยัง...คุณแม่พึ่งโทรมาบอกว่าจะป้อนข้าวก่อนแล้วถึงจะมาส่งให้ ภัทรหิวรึยังอะ "

รุจิกามองสองคนที่กำลังคุยกันอยู่ หญิงสาวค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อยที่สามีของเจ้าของร้านเป็นชายหนุ่มที่เธอเจอที่ห้องสโมสรวันนั้น.....นี่เขามีลูกตั้งแต่ที่ยังเรียนอยู่เลยเหรอเนี้ย แต่จะว่าไป...เขาเองก็มีลูกตั้งสองคน น่าจะเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์มากกว่านี้ วันนั้นเล่นแต่โทรศัพท์มือถือ แล้วนี่อยู่บ้านไม่เอาแต่เล่นมือถือเหมือนที่มหาวิทยาลัยหรอกเหรอ

แล้วเด็กๆ ไม่ติดโทรศัพท์เหมือนคนเป็นพ่อเหรอเนี้ย โธ่ !!!

" กิ๊ว " แพรวพราวเอ่ยเรียกเมื่อเห็นคนตรงหน้านั่งนิ่ง

" กิ๊ว "

" กิ๊ว !!! " เมื่อเรียกแล้วหญิงสาวยังคงนิ่งเงียบ เจ้านายสาวคนใหม่จึงเน้นเสียงให้หนักขึ้น

" ขะ ... คะ อะไรนะคะพี่พราว "

................................................................................

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel