ความรัก
ความรัก
หลังจากที่รุจิกาเล่าเรื่องราวอันแสนน่าอับอายของตัวเองให้พี่รหัสที่พ่วงตำแหน่งหัวหน้างานฟังแล้วเธอก็เลื่อนล้อเก้าอี้หมุนกลับมาที่โต๊ะของตัวเองและตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อทันที
ทุกวันนี้อะไรๆก็แพงแสนแพง จะหยิบจับซื้ออะไรทีก็ต้องตรวจเช็คราคา...ดูแล้วดูอีก ดูว่าสิ่งที่จะซื้อนั้นสำคัญและจำเป็นแค่ไหน ไม่ใช่อะไรหรอกนะก็เพราะรายรับของครอบครัวยังมีไม่มากพอที่จับจ่ายซื้อนั่นซื้อนี่ได้ตามอำเภอใจ
ครอบครัวของรุจิกาเองก็อยู่ในฐานะปานกลาง ไม่ได้ขัดสนแต่ก็ไม่ได้มีมากขนาดที่ลูกจะชี้นิ้วสั่งเอานั่นเอานี่ได้ รุจิกานั่งมองรูปของชายหนุ่มสองคนที่นั่งขนาบข้างโดยมีเธอนั่งอยู่ตรงกลางแล้วก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้
คนหนึ่งคือสามีสุดที่รักและอีกคนก็คือลูกชายวัย 5 ขวบเศษที่แสนซน ในรูปทุกคนยิ้มอย่างสดใส ... ใช่แล้ว มันคือความสุข สามีของเธอมีความสุข เธอเองก็มีความสุขไม่แพ้กัน เจ้าลูกชายแสนซนน่ะเหรอ...ไม่ต้องพูดถึง แค่ได้ออกตระเวนเที่ยวได้กินอาหารที่ถูกปากตัวเองก็แสนจะสุขใจแล้ว ลูกชายตัวน้อยของเธอน่ะชอบเที่ยวเป็นที่สุด
แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้...รุจิกาเองก็ผ่านอุปสรรคมามากหัวใจถูกทิ่มแทงจากเรื่องนั้นเรื่องนี้ ก็มีบ้างที่คนรอบข้างช่วยเยียวยาหัวใจแต่แท้สุดคงเป็นเธอที่เข้มแข็งลุกขึ้นสู้ประคับประคองชีวิตจนผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้
ริมฝีปากบางยังยิ้มไม่หยุด...หญิงสาวหวนนึกถึงวันที่ได้เจอกับพ่อของลูกในวันแรก
ณ ห้องประชุมสโมสรของมหาวิทยาลัย
ปึก...มือเล็กออกแรงผลักประตูกระจกบานใหญ่อย่างแรง ขาเรียวรีบก้าวเข้าห้องด้วยท่าทางเร่งรีบ...เจ้าของร่างก้มมองนาฬิกาบนข้อมือตัวเองพลันเธอก็ต้องถอนหายใจด้วยความโล่งอก เกือบไปแล้ว...เกือบมาสายแล้ว ถ้าพลาดงานนี้ชีวิตของเธอต้องแย่แน่ๆ
" พี่ปั้น...รอนานมั้ยคะ " เสียงหวานเอ่ยถามคนที่นั่งหันหลังอยู่ หญิงสาวก้มโค้งตัวไปจับที่หัวเข่าของตัวเอง...รุจิกาหอบหายใจเหนื่อยเพราะรีบวิ่งมาสุดกำลัง
วันนี้รุ่นพี่ที่รู้จักนัดให้เธอมาหาที่ห้องสโมสรเพราะติดต่องานพิเศษให้เธอได้ รุจิกาจำเป็นต้องทำงานพิเศษไปด้วยเพราะฐานะทางบ้านตอนนี้กำลังไม่สู้ดี พ่อป่วย...ต้องออกจากงานมาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านดังนั้นภาระหน้าที่ดูแลค่าใช้จ่ายทุกอย่างจึงเป็นแม่ที่ต้องรับผิดชอบ รุจิกาอยากช่วยแม่...เธอจึงหางานพิเศษทำหลังเลิกเรียนและวันหยุดเสาร์อาทิตย์
งานอะไรเธอก็ทำได้หมด...ทำความสะอาดบ้าน ดูแลเด็ก หรือช่วยงานร้านกาแฟ
รุจิกาไม่เกี่ยง...ขอเพียงทำแล้วได้เงิน ... เธอทำหมด แต่ !!! ยกเว้นงานไม่สุจริตนะ เธอไม่เอา
" พี่ปั้นบอกให้รอก่อน เดี๋ยวมา " เสียงที่ไม่คุ้นหูดังขึ้นนั่นจึงทำให้คนที่เอ่ยถามในคราแรกเงยหน้าขึ้นมอง
เขายังคงนั่งหันหลังอยู่ อะไรกัน !!! จะพูดกันก็ไม่หันหน้ามามองเลย รุจิกาย่นหน้า เม้มปากด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจนัก ร่างเล็กถอนหายใจออกมาพร้อมกับก้าวขาเดินไปนั่งเก้าอี้ตัวที่อยู่ติดกับนักศึกษาหนุ่มคนนั้น ยังไงเธอก็ต้องรอรุ่นพี่ที่หางานให้...จะเดินไปที่อื่นก็ไม่มีเก้าอี้
พรึ่บ..." พี่ปั้นไปไหนอ่ะ ? " หญิงสาวเอ่ยถามพร้อมกับหย่อนก้นนั่งลงเพราะอยากรู้อนาคตของตัวเองว่าเธอต้องรออีกนานเท่าไหร่
" ห้องคณบดี " เขาว่าพลางเลื่อนนิ้วไถไปมาบนหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง นี่พูดกับเธอยังไม่เงยหน้ามามองกันเลย...เสียมารยาทชะมัด รุจิกาคิดในใจ
" ไปนานรึยังแล้วจะกลับมาเมื่อไหร่ พี่ปั้นได้บอกไว้มั้ย " เธอกลั้นใจถามอีกครั้ง
" .... " เงียบกริ๊บ ไม่มีเสียงตอบจากคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
" นี่ !! " เธอเอ่ยเสียงดังขึ้นทำให้คนที่ก้มหน้าก้มตาเล่นมือถืออยู่เงยหน้าขึ้นมามอง ใบหน้าคมเรียบนิ่ง...นี่เขากำลังไม่พอใจเธอใช่มั้ย
" พี่ปั้นบอกแค่ให้เธอรอ อย่างอื่นชั้นไม่รู้ " พูดจบคนที่นั่งอยู่ข้างๆก็ก้มหน้ามองมือถือของตัวเองต่อ
รุจิกานั่งเงียบเมื่อโดนเขาว่ากลายๆแบบนั้น แม้เวลาทุกนาทีของเธอจะมีค่าแต่หญิงสาวก็ทำอะไรไปไม่ได้มากกว่าการนั่งรอ เอาวะ...รอก็รอ เมื่อต้องรอหญิงสาวก็ไม่ปล่อยให้มันเสียเปล่า...เธอหยิบหนังสือนิยายที่พึ่งยืมมาจากห้องสมุดมหาวิทยาลัยออกมาอ่าน เล่มนี้เป็นเล่มโปรดเชียวนะ รอแล้วรออีก...กว่าคนที่ยืมไปก่อนหน้าจะเอากลับมาวางที่ชั้นเหมือนเดิม
ผวั๊ะ !! ... " ว้าว! นี่น้องรักแอบไปมีสาวตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี้ย ไม่เห็นพามาแนะนำให้รู้จักบ้างเลย " เสียงของคนที่พึ่งเปิดประตูเข้ามาทำให้คนทั้งสองที่นั่งอยู่ในห้องก่อนแล้วเงยหน้าขึ้นมอง
" สาวอะไรของพี่ "
" อ้าว...ก็สาวที่นั่งข้างๆมึงนี่ไง อย่าบอกนะว่าไม่ใช่...นั่งตัวติดกันขนาดนี้ " รุจิกามองหน้าชายหนุ่มที่เดินเข้ามาหาพร้อมกับหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
" เฮ้ยยยย !! " สองเสียงร้องดังขึ้นพร้อมกัน นี่เธอนั่งเอนเข้าไปใกล้เขาตั้งแต่เมื่อไหร่ น่าอายชะมัด !!
" อ้าว...ไม่รู้จักกันหรอกเหรอ " ชายหนุ่มเอ่ยถามเมื่อเห็นคนทั้งคู่ผงะแยกตัวออกจากกัน รุจิการู้สึกร้อนผ่าวบนใบหน้า...เธอกำลังอาย ก็ในชีวิตที่ผ่านมานอกจากพ่อแล้วเธอก็ไม่เคยเข้าใกล้ผู้ชายคนไหนเลย จะมีบ้างที่พูดคุยด้วยแต่ถึงอย่างนั้นมันก็รู้สึกประหม่าแทบทุกครั้ง เธอไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชาย อย่าว่าไม่ค่อยเลย...ไม่มีเลยด้วยซ้ำไปแหละ
รุจิกาเรียนโรงเรียนหญิงล้วนมาตั้งแต่มอต้นและในช่วงประถมเธอก็แทบไม่มีเพื่อนผู้ชายเลยสักคน พอโตขึ้นมาเรียนมหาวิทยาลัยนี่แหละที่ทำให้หญิงสาวต้องปรับอารมณ์และจิตใจตัวเองใหม่
ผวั๊ะ !! ... โอ้...สวรรค์ช่างเข้าข้าง รุจิกาแอบถอนหายใจเมื่อคนที่เปิดประตูเข้ามาเป็นรุ่นพี่ที่เธอรู้จัก
" อ้าวไอ้พีท...มาทำไมวะ " พี่ปั้นเอ่ยถามคนที่เข้ามาทีหลัง
" กะว่าจะมาคุยเรื่องออกค่าย "
" อ้าวเหรอ...เออๆงั้นนั่งรอ กูขอคุยกับน้องแป็บนึง " ปัญญากรเอ่ยพร้อมกับหันมาทางหญิงสาวหนึ่งเดียวในห้อง
" อ้าว..น้องมึงหรอกเหรอ กูก็นึกว่าสาวของไอ้ภัทรมันซะอีก " จบประโยคทุกสายตาต่างมองไปที่หญิงสาว
" เปล่า...นี่กิ๊ว...น้องข้างบ้านที่กูหางานให้ น้องเรียนมนุษย์ศาสตร์ เอกอะไรนะกิ๊ว "
" เอกอิ้งค่ะ " หญิงสาวว่าพลางส่งยิ้มนิดๆให้เพื่อนของรุ่นพี่คนสนิท
" เอ้อ...พี่ก็ลืมทุกที โทษทีนะที่ให้รอพอดีคณบดีเรียกพี่กะทันหันน่ะ ไอ้ภัทรมันบอกแล้วใช่มั้ย " รุจิกาอยากจะบอกรุ่นพี่ข้างบ้านเหลือเกินว่า...ใช่ เขาบอก บอกคำเดียวจริงๆ บอกให้รอ...แค่นั้น
จะพูดยาวๆ ขยายความให้ฟังหน่อยก็ไม่ได้ ... หน้าเนี้ย...ไม่รู้จะนิ่งไปไหน เกิดมาไม่เคยเล่นรึยังไง ... มือถือน่ะ
" แหม !!! ทำงานทำการได้แล้วจ้าาา อย่ามัวแต่คิดถึงหนุ่มๆที่บ้าน นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างกับคนมีความรักอย่างนั้นแหละ " รุจิกาสะดุ้งตื่นจากภวังค์ นี่เธอแอบเผลอคิดถึงพ่อของลูกไปนานขนาดนั้นเลยเหรอเนี้ย