ตอน ความเจ็บปวดของทัชพาย
“มึงก็ลองคิดดีดีสิ ว่ามันมีวิธีอะไรบ้างที่มึงเคยใช้แล้วกูหายโกรธ” กิมแกล้งหันหน้าหนีไปอีกทางพร้อมกับใบหน้าที่เรียบนิ่งเหมือนเดิม ทัชนิ่งคิดไปสักพัก และเขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ทัชจึงขึ้นไปนั่งคร่อมที่ตักของกิมแล้วใช้มือทั้งสองข้างโอบรอบคอของกิมเอาไว้
“ผมขอโทษครับ” กิมสบตาหวานของคนตรงหน้า ก่อนจะรู้สึกถึงมือของกิมที่ประคองบั้นท้ายของเขาอยู่
“พูดแค่นี้กูไม่หายโกรธหรอกนะ”
“แล้ว..คุณกิมจะให้ผมทำยังไงล่ะครับ” ทัชถามด้วยความไม่เข้าใจ เพราะเขานึกวิธีไหนไม่ออกแล้วจริงๆ นอกจากต้องอ้อนอีกฝ่ายเท่านั้น
“มึงต้องแทนชื่อตัวเองก่อน กูถึงจะยกโทษให้”
ทัชยกยิ้มมุมปากนิดๆก่อนจะขยับเข้าไปใกล้กิม จนใบหน้าของทั้งคู่อยู่ไม่ไกลจากกันเท่าไหร่ สิ่งที่กิมให้เขาทำมันช่างง่ายดายเหลือเกิน เพราะทัชเคยใช้วิธีนี้มาแล้วและใช้แค่กับกิมเพียงคนเดียวเท่านั้น
“กิมยกโทษให้ทัชเถอะนะ ทัชขอโทษนะครับ”
“……………” กิมแกล้งทำหน้านิ่ง ทั้งที่ในใจของเขามันอ่อนยวบลงตั้งแต่ที่อีกฝ่ายอ้อนเขาแล้ว
“กิมครับบ ทัชขอโทษนะครับ อย่าโกรธทัชเลยนะ”
น้ำเสียงหวานๆที่กิมไม่เคยได้ยินจากอีกฝ่ายมานาน มันทำให้เขาต้องยอมหลุดยิ้มเพื่อยอมแพ้ให้กับความน่ารักของคนตรงหน้า
“กิมยิ้มแล้ว” ทัชระบายยิ้มอ่อนๆแล้วใช้ปลายนิ้วสัมผัสที่ปลายจมูกเล็กของอีกฝ่ายเบาๆเป็นเชิงหยอกล้อ
“ก็มึงทำตัวน่ารักนี่หว่า..แบบนี้กูจะไม่หายโกรธได้ยังไง” กิมพูดชมออกมาตรงๆ ทัชอมยิ้มน้อยๆก่อนจะผละลงจากตักแกร่งของกิมแล้วกลับมายืนที่เดิม พลางถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ถ้าคุณกิมรู้เรื่องแบบนี้แล้ว..งานแต่งงานของคุณกิม ยังคงเป็นผมอยู่หรือเปล่าครับ?” ทัชถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งตามฉบับของตน พร้อมกับมาใช้สรรพนามเดิมเรียกอีกฝ่าย
กิมถอนหายใจออกมาหนักๆก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปหาทัช พลางจับมือเล็กของอีกฝ่ายเอาไว้
“ยังไงก็ต้องเป็นมึงอยู่แล้วทัช มึงคือคนสำคัญของกูนะ..”
ทัชชะงักกึก แววตาไหววูบหลบสายตาของกิมที่มองมา ก่อนจะหันกลับมาอีกครั้งเมื่อประโยคต่อไปของกิมได้พูดขึ้น
“เพราะมึงคือคนเดียวที่จะช่วยกูเรื่องนี้ได้ ไม่อย่างนั้นชีวิตกูจะต้องวุ่นวายเพราะผู้หญิงพวกนั้นแน่ๆ กูไม่มีใครแล้วนอกจากมึงนะ..ถ้ากูได้แต่งงานกับมึง ชีวิตโสดที่สดใสของกูก็จะคงอยู่ตลอดไป”
ทัชเม้มปากตัวเองนิดๆก่อนจะพยักหน้าอย่างช้าๆ
“ถ้าอย่างนั้นผมจะไปบอกคุณหญิงท่านให้นะครับ”
“ไม่ต้อง เดี๋ยวมึงเข้าไปในห้องแม่พร้อมกับกูเลยนี่แหละ” กิมพูดบอก ก่อนจะจับมือของทัชให้เดินตามตนเองไปนอกห้อง
เมื่อเข้ามาถึงห้องของนิพภา ทั้งกิมและทัชก็เริ่มพูดคุยถึงเรื่องที่ได้ตกลงกันเอาไว้
“ตกลงเราแน่ใจแล้วใช่ไหมทัช” นิพภาหันไปถามทัชเพื่อความแน่ใจ
“ครับคุณน้า” ทัชพยักหน้าน้อยๆ
“แกไม่ได้ไปบีบบังคับอะไรทัชใช่ไหมตากิม” นิพภาหันไปมองหน้าลูกชายแล้วถามเสียงเขี้ยว
“โธ่แม่ แม่จะให้ผมไปบังคับอะไรบอดี้การ์ดคู่ใจของพ่อได้ละครับ มันเต็มใจที่จะแต่งเองตางหาก” กิมไหวไหล่เล็กน้อย ก่อนจะเดินไปหาแม่ตนเองพร้อมกับโอบเอวนิพภาอย่างอ้อนๆ
“ไม่ต้องเลย ก็แกน่ะชอบใช้วิธีอ้อนเจ้าทัชอยู่เรื่อย และทัชก็ชอบตามใจแกจนแกเสียนิสัยแบบนี้” นิพภาส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย กิมรีบกอดแม่ตัวเองให้แน่นมากยิ่งขึ้น
“เอาเป็นว่าแม่ตกลงยอมให้ผมแต่งงานกับไอ้ทัชแล้วใช่ไหม” กิมถามพร้อมกับมองแม่ตัวเองอย่างลุ้นๆ
นิพภามองหน้าทัชนิ่งๆ ทัชเองก็สบตากับนิพภาโดยไม่หลบสายตาเลยแม้แต่วินาทีเดียว
“อืม ฉันตกลงจะให้แกแต่งงานกับทัช”
“โอเคเลยครับคุณหญิงแม่สุดสวย” กิมยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ ก่อนจะรีบหอมแก้มของนิพภาแล้วลุกขึ้น
“แล้วนี่แกจะไปไหน”
“ผมไปหาเพื่อนก่อนนะครับ จะไปบอกพวกมันว่าไอ้กิมคนนี้กำลังจะสละโสดแล้ว” กิมพูดจบก็รีบเดินออกไปทันที
“ดูๆๆดูเจ้าเด็กไม่รู้จักโตนะทัช แบบนี้จะปรามไหวเหรอ” นิพภาพูดต่อว่าออกมาเล็กน้อย พลางส่ายหน้าไปมาด้วยความอ่อนใจ ทัชเองก็นิ่งเงียบไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
นิพภาเมื่อเห็นว่าทัชนิ่งไป เธอก็รู้สึกสงสัยขึ้นมาทันที เพราะถึงแม้ว่าใบหน้าของทัชจะเรียบนิ่งจนไม่มีใครดูออก แต่เพราะเธอเลี้ยงดูทัชมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เธอสามารถแยกสีหน้าและแววตาของทัชได้อย่างง่ายดาย
“ทัช..มานั่งข้างๆน้านี่มา” นิพภาพยักหน้าไปที่ข้างๆตนเอง ทัชก็รีบทำตามที่นิพภาบอก
“ครับ”
“เราแน่ใจแล้วเหรอว่าเราจะให้มันเป็นแบบนี้น่ะ” เธอถามด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับจับมือของทัชมากุมเอาไว้
“แน่ใจครับ” ทัชตอบกลับไปทันทีโดยไม่ลังเล
“แต่คนที่จะเจ็บที่สุดในเรื่องนี้..มันก็คือทัชนะลูก” นิพภาพูดบอกด้วยความเป็นห่วง
ทัชหลบสายตาของนิพภาที่มองมานิดๆ ก่อนจะหันกลับไปมองอีกครั้ง
“ผมไม่เป็นอะไรครับ ถ้าสิ่งเหล่านี้มันทำให้เขามีความสุขได้..ผมเต็มใจครับ”
“ต่อให้มันจะทำร้ายทัชไปตลอดชีวิตน่ะเหรอ"
“…ใช่ครับ เพราะทั้งชีวิตของผม..ผมยกให้เขามาตั้งนานแล้ว” ทัชจ้องหน้านิพภานิ่งๆเพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาพูดออกไปทั้งหมด
“แต่น้าว่าทัชลองไตร่ตรองดูอีกสักครั้งดีไหม”
“ความจริงน้าเองก็ดีใจนะที่จะได้ทัชเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของน้าจริงๆสักที แต่ถ้ามันต้องแลกกับการทำร้ายทัชไปตลอดชีวิตแบบนี้..น้าเองก็ไม่สบายใจหรอกนะทัช”
“แต่ผม..”
“น้าว่าทัชลองกลับไปคิดทบทวนแล้วค่อยมาบอกน้าดีกว่า เพราะครั้งนี้ที่ทัชยอมมาพูดก็เพราะเจ้ากิมมันใช้มารยาอ้อนทัช ทำให้ทัชใจอ่อนจนยอมตกลงทำตามที่เจ้านั่นบอก แต่ถ้าทัชลองทบทวนอีกสักนิด คำตอบของทัชคงจะไม่ใช่แบบนี้แน่ๆ” เธอจับมือนุ่มของเด็กหนุ่มแล้วบีบเบาๆ
“ผมขอบคุณคุณน้ามากนะครับ..แต่ผมตัดสินใจแล้วจริงๆ และผมก็ไม่ได้คิดว่าสิ่งที่ผมตัดสินใจลงไปมันเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด..คุณน้าได้โปรดอนุญาตด้วยครับ”
นิพภามองหน้าทัชนิ่งๆหลังจากที่ทัชพูดประโยคนั้นจบ เธอรู้ดีว่าความนิ่งและท่าทีที่ไม่รู้สึกอะไรของทัช มันกลับมีความเจ็บปวดอยู่ในแววตาคู่นั้น เธอ..คือคนที่รู้ดีมากที่สุด นั่นก็เพราะ..
..
..
ย้อนกลับไปในช่วงที่ทัชก่อนจะขึ้นปีหนึ่ง
นิพภาที่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว จู่ๆก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่อยู่ด้านหลังของตัวเอง เธอจึงหันไปมองและพบว่าทัชที่ยืนอยู่
“อ่าวทัชแล้วตากิมละ ถ้ายังไม่เข้ามาก็บอกให้รีบๆหน่อย น้าทำกับข้าวเอาไว้รอ” เธอพูดขึ้น
“คุณกิมฝากบอกมาว่าจะกลับดึกๆน่ะครับ พอดีมีงานที่มหาลัย” ทัชพูดบอก เพราะก่อนที่ทัชจะกลับมาที่นี่ กิมได้โทรบอกเขาแล้ว..และถึงแม้ว่าสิ่งที่กิมบอกเขามันจะตรงข้ามกับสิ่งที่เขาบอกนิพภาก็เถอะ
“หึ มีงานที่มหาลัยหรือกำลังจะไปหาใครกันแน่ เฮ้อออเจ้าลูกคนนี้นี่ น้าล่ะปวดหัวกับมันจริงๆ” นิพภาส่ายหน้าไปมาเล็กน้อยแล้วพูดขึ้นอย่างรู้ทัน ก่อนจะหันไปปิดแก๊สแล้วหันกลับไปมองหน้าเด็กหนุ่มมอปลายอีกครั้ง
“ทัชมีอะไรหรือเปล่า? ปกติทัชไม่มายืนทำหน้าลำบากใจกับน้าแบบนี้นะ” นิพภาถามขึ้น เพราะสีหน้านิ่งๆแต่แววตาที่ดูเครียดของทัช มันทำให้คนที่เลี้ยงเด็กตรงหน้ามาตลอดชีวิตนั้นรับรู้ถึงความเปลี่ยนไปได้ดี
“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณน้านิดหน่อยครับ” ทัชหลบสายตาของนิพภา
“คงเป็นเรื่องสำคัญมากใช่ไหม ไม่อย่างนั้นคนที่ไม่กลัวอะไรเลยอย่างทัช..คงไม่หลบสายตาของน้าหรอก”
“..................” ทัชนิ่งเงียบไม่ได้ตอบอะไร
“ตามน้าขึ้นมาข้างบน” พูดจบเธอก็เดินนำเด็กหนุ่มไปทันที
เมื่อมาถึงในห้อง นิพภาก็จับแขนของทัชให้ไปนั่งที่ปลายเตียงกับเธอ
“ทัชมีอะไรหรือเปล่า บอกกับน้ามาได้ตรงๆเลยนะ น้ายินดีรับฟังทุกเรื่อง”
ทัชสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะสบตากับนิพภานิ่ง
“ผมชอบคุณกิมครับ”
นิพภาชะงักเมื่อได้ยินประโยคที่เธอไม่เคยคิดมาก่อน
“ชอบ? ทัช..หมายถึงอะไรเหรอ น้าไม่เข้าใจ”
ทัชเม้มปากนิดๆแล้วนั่งลงคุกเข่าต่อหน้าหญิงสาวที่เปรียบเสมือนแม่แท้ๆของเขา
“ทัช..ลุกขึ้น เราไม่จำเป็นต้องนั่งคุกเข่าแล้วพูดกับน้า” นิพภาพูดเสียงดุเล็กน้อย แต่ทัชก็ไม่มีทีท่าว่าจะลุกตามที่นิพภาพูดเลยสักนิด
“ผม..ชอบคุณกิมครับ ชอบแบบ..แบบที่ผู้หญิงชอบผู้ชาย” ทัชก้มหน้าพร้อมกับหลับตานิ่งเพื่อรับผลที่เขาทำผิดต่อนิพภา แต่สิ่งที่ทัชสัมผัสได้ คือฝ่ามือนุ่มๆกำลังจับไหล่ของเขาอยู่
“ทัชครับ..ทัชฟังน้านะลูก” นิพภายิ้มบางๆส่งให้กับเด็กน้อยในสายตาของเธอ
“ไม่ว่าทัชจะรักหรือชอบใครก็ตาม..สิ่งที่ทัชรู้สึกอยู่มันไม่ได้ผิดอะไรเลย ทัชไม่ได้ทำผิดต่อน้าหรือใครทั้งนั้น เพราะฉะนั้นถ้าทัชไม่อยากให้น้ารู้สึกไม่ดี..ทัชก็ต้องเลิกรู้สึกไม่ดีกับตัวของทัชเองก่อน” เสียงนุ่มของนิพภาทำให้ทัชมีน้ำตาเอ่อคลอ
“ผะ..ผม..”
“ถ้าทัชชอบตากิมจริงๆ ทัชรู้ใช่ไหมว่าเขาเป็นคนยังไง น้าไม่ได้ห่วงเรื่องที่ทัชชอบกิมนะ แต่คนที่น้าห่วงก็คือทัช..กิมไม่เคยจริงจังกับใคร เวลาจะคบคนไหนก็คบได้ไม่นาน ลูกน้าเป็นคนเหลวไหลมากแค่ไหน แล้วแบบนี้ทัชยังจะกล้าเอาหัวใจดวงน้อยๆดวงนี้ของทัช มาแลกกับคนที่ไม่เคยรักใครเลยอย่างลูกชายของน้าจริงๆเหรอ” นิพภาถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวลไม่น้อย
“แต่ผมรักเขาไปแล้วครับ รัก..ทั้งๆที่รู้ว่ายังไงคุณกิมก็คงไม่มีทางคิดกับผมมากเกินไปกว่าน้องชายคนนึง” เสียงที่สั่นเครือของทัชบอกกับผู้มีพระคุณออกไป จนทำให้นิพภาที่ได้ฟังอดที่จะรู้สึกสงสารขึ้นมาไม่ได้ เธอดึงเด็กหนุ่มเข้ามาปลอบทันที
“ไม่เป็นไรนะทัช..ไม่เป็นไร”
“ฮึก..”
“น้ารู้ว่าคนเก่งอย่างทัช จะผ่านเรื่องราวแบบนี้ไปได้อย่างแน่นอน แต่ทัช..ทัชแน่ใจในเรื่องนี้แล้วจริงๆใช่ไหมลูก เพราะมันคือเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตของทัชเลยนะ และมันอาจจะเปลี่ยนชีวิตของทัชไปตลอดกาลด้วย”
“ผม..ฮึก ผมแน่ใจครับ” ทัชตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“แต่มันจะเจ็บนะทัช เพราะตากิมไม่เคยคิดจะรักใครเลย..ลูกชายของน้ามันยังชอบรักสนุกอยู่”
“ผมยอมครับ ผมยอมรับทุกอย่างที่ตัดสินใจ”
++++++++++++++