ตอน หน้าที่บอดี้การ์ด(?)
“มึงต้องช่วยกูนะเว้ยไอ้ทัช” กิมกระพริบตาปริบๆมองทัชเพื่อขอความเห็นใจ
ทัชมองลูกของเจ้านายตัวเองด้วยสายตาที่เรียบนิ่งตามเดิม หลังจากที่กิมบอกกับแม่ของตัวเองไปแบบนั้น นิพภาก็ให้ทัชเป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งเธอไม่ได้รู้สึกต่อต้านใดๆทั้งสิ้น กลับดีใจเสียมากกว่าถ้าหากคนที่จะเข้ามาเป็นคู่ของกิมคือทัชจริงๆ เพราะเธอเองก็รักทัชเหมือนกับคนในครอบครัว
นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้กิมลากทัชขึ้นมาในห้อง แล้วเอาแต่จับมือของทัชพลางนั่งลงคุกเข่าเพื่อขอร้องให้อีกฝ่ายยินยอมแต่งงานกับเขา
ทัชได้แต่มองไปที่กิมแล้วถอนหายใจออกมาอีกครั้ง เพราะตอนนี้กิมกำลังกดดันเขาอยู่
“ผมว่ามันมีวิธีที่ดีกว่านี้นะครับคุณกิม คุณลองคิดดูอีกทีไหมครับ” ทัชถาม เผื่อว่าเจ้านายของเขาจะเปลี่ยนใจ
“วิธีนี้ดีที่สุดแล้วเว้ย แต่มึงต้องช่วยกูนะไอ้ทัช ยังไงตอนนี้คนที่จะทำหน้าที่นี้ได้ก็มีแค่มึงอ่ะ” กิมจับมือของทัชทั้งสองข้างมาแนบที่แก้มตัวเอง
“นอกจากมึง กูก็ไม่มีใครแล้วนะทัช มึงคือคนเดียว..ที่กูต้องการตอนนี้ ฮึก” กิมแกล้งพูดเสียงสั่น
“คุณกิมเลิกแสดงละครเถอะครับ..มันไม่เนียน” ทัชพูดด้วยสีหน้านิ่งๆ เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นคนยังไง การที่กิมแกล้งทำเสียงสั่นเหมือนจะร้องไห้แบบนี้ มันไม่ใช่นิสัยของร่างสูงแน่ๆ เพราะกิมไม่เคยเสียน้ำตาให้กับอะไรง่ายๆ..ยกเว้นถ้าสิ่งๆนั้นคือสิ่งที่กิมรักจริงๆ
กิมถอนหายใจออกมาหนักๆเมื่อถูกจับได้ พร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปนั่งที่เตียงของตัวเอง โดยมีทัชเดินตามไปยืนอยู่ข้างๆ ท่าทางของทัชยังคงมีความเคารพกิมเหมือนเดิม ต่อให้นิพภา กิมหรือแม่กระทั่งคนที่เป็นประมุขของบ้านอย่างอานันท์จะไม่อยากให้เขามีท่าทีที่เหินห่างแบบนี้ก็ตาม
“แล้วมึงมีวิธีอะไรจะเสนอไหมล่ะ กูคิดจนหัวจะระเบิดแล้วยังหาทางออกไม่เจอเลยเนี่ย” กิมล้มตัวลงนอนทันทีเมื่อพูดจบ
“ทำไมคุณกิมไม่ลองเอาผู้หญิงในสต๊อก มาแกล้งหลอกคุณหญิงดูล่ะครับ” ทัชเสนอ กิมผงกหัวขึ้นมามองหน้าทัชแล้วส่ายหน้าปฎิเสธทันที
“ไม่เอาอ่ะ ถ้ากูเอามานะมีหวังผู้หญิงพวกนั้นได้เกาะกูเป็นปลิงไม่ยอมปล่อยแน่ กูไม่มีทางเอาห่วงมาผูกคอเด็ดขาด ชีวิตโสดแม่งดีจะตาย”
“แล้วอีกอย่างนะไอ้ทัช กูก็แค่ต้องการให้แม่เลิกจับกูให้คนนั้นคนนี้สักทีก็เท่านั้นแหละ กูก็เลยเลือกมึงนี่ไงเพราะอย่างน้อย..มึงก็รู้ว่ากูเป็นคนยังไง” กิมลุกขึ้นนั่งแล้วมองหน้าทัชนิ่งๆ
“มึงจะไม่ช่วยกูจริงๆเหรอวะทัช” กิมถามเสียงเครียด
ทัชถอนหายใจออกมาหนักๆแล้วขยับเข้าไปใกล้กิม
“ผมช่วยคุณกิมก็ได้ครับ”
กิมเบิกตากว้างด้วยความดีใจ เขาทำท่าจะโผลเข้าไปกอดคนที่ตัวเล็กกว่า แต่ทัชถอยห่างและใช้มือดันหน้าอกของกิมเอาไว้ กิมได้แต่มองด้วยความสงสัย
“แต่ผมมีอีกเรื่องที่จะต้องบอกคุณเอาไว้ก่อน”
“เรื่องอะไรวะ?”
“เรื่องที่ผม..ชอบผู้ชายครับ”
สิ้นสุดคำพูดของทัช กิมก็นิ่งอึ้งไปทันที เพราะเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าเด็กหนุ่มที่เขาเห็นมาตั้งแต่เด็กจะชอบเพศเดียวกัน ความรู้สึกแรกของกิมที่ได้ยินคือ..มันชอบผู้ชายตั้งแต่ตอนไหน ทำไมมันไม่บอกเรา
“มึง..ชอบแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?” กิมถามออกไปทันที เพราะถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้คบผู้ชายมาก่อน แต่เขาก็ไม่ได้รังเกียจความสัมพันธ์แบบนี้
“ตั้งแต่ขึ้นมอปลายครับ” ทัชตอบไปตามตรง ในใจของเขาอดที่จะกังวลไม่ได้ว่าคนตรงหน้าจะรู้สึกรังเกียจเขาบ้างหรือเปล่า เพราะกิมก็คืออีกหนึ่งคนที่ทัชแคร์มาก
“มึงกลัวกูโกรธใช่ปะ หน้ามึงถึงได้ดูกังวลขนาดนี้อ่ะ” กิมเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม เขาพอมองสีหน้าของทัชออกอยู่เหมือนกัน
ทัชพยักหน้ายอมรับอย่างว่าง่าย เพราะลึกๆเขาเองก็กลัวในสิ่งที่กิมพูดออกมาจริงๆ
“เออกูโกรธ” กิมตอบกลับเสียงนิ่ง
คำพูดของกิมที่ทัชได้ยิน มันยิ่งทำให้ทัชรู้สึกเครียดมากกว่าเดิม
“กูโกรธที่ทำไมมึงถึงพึ่งมาบอกกูตอนนี้ ที่ผ่านมามึงจะปิดบังกูเพื่ออะไรวะ กูไม่ใช่คนที่มึงแคร์แล้วเหรอทัช” กิมน้ำตาเอ่อคลอนิดๆพร้อมกับหันหน้าหนีทัชไปอีกทาง เขายอมรับเลยว่าตอนนี้เขารู้สึกน้อยใจอีกฝ่ายมาก เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา กิมคิดว่าทัชไว้ใจกิมมาตลอด เหมือนที่ตัวของกิมก็ไว้ใจทัชมากเช่นกัน แต่พอเขาพึ่งมารู้ความจริงจากปากของทัชแบบนี้ มันก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกเสียใจมากขึ้นกว่าเดิม
ทัชที่เห็นท่าทางของกิม ความรู้สึกผิดก็ตีตื้นขึ้นมาทันที เขาเดินเข้าไปใกล้ร่างสูงก่อนจะนั่งลงข้างๆแล้วจับมือของกิมมากุมเอาไว้ ถึงแม้กิมจะขืนตัวเองบ้างเล็กน้อย แต่สุดท้ายกิมก็ยอมให้ทัชได้จับมือจนได้
“คุณกิมยังมีความสำคัญกับผมเสมอนะครับ คุณคือคนแรกที่ผมจะบอกในทุกๆเรื่อง และจะเป็นคนเดียวที่ผมแคร์”
“ผมไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังคุณกิมเลยนะครับ แต่เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มบอกยังไงดี ผมก็เลยเลือกที่จะเก็บเอาไว้ดีกว่า” ทัชอธิบาย
กิมนิ่งฟังคนพูดน้อยที่พยายามจะพูดในสิ่งที่ตัวเองรู้สึกออกมา แค่เขาได้ยินว่าเขายังมีความสำคัญสำหรับคนตรงหน้าอยู่ ความน้อยใจที่มันเกิดขึ้นก็หายไปทันที
“วันหลังก็อย่าทำแบบนี้อีก มีอะไรมึงต้องบอกกูเป็นคนแรก..เข้าใจไหม" กิมบีบมือทัชเบาๆ ทัชเองก็บีบมือตอบอีกฝ่ายกลับไปเช่นกัน
“คุณกิมหายโกรธผมแล้วเหรอครับ” ทัชถามด้วยความดีใจ ถึงแม้เขาจะมีใบหน้าที่เรียบนิ่งตามเดิม แต่แววตาของเขามีประกายความหวังบางอย่างอยู่ในนั้น
กิมทำหน้านิ่งแล้วขยับตัวออกห่างทัชทันที จนอีกฝ่ายมองท่าทางของกิมด้วยความงุนงง
“ใครบอกว่ากูหายโกรธ”
“แล้วคุณกิมจะให้ผมทำยังไงครับ คุณกิมถึงจะหายโกรธผม” ทัชถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
“มึงก็ลองคิดดีดีสิ ว่ามันมีวิธีอะไรบ้างที่มึงเคยใช้แล้วกูหายโกรธ” กิมแกล้งหันหน้าหนีไปอีกทางพร้อมกับใบหน้าที่เรียบนิ่งเหมือนเดิม
ทัชนิ่งคิดไปสักพัก และเขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้..
เมื่อตอนที่ทั้งสองยังเรียนอยู่ที่มหาลัย ทัชกับกิมมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันนิดหน่อย เพราะกิมจับได้ว่าทัชแอบไปติววิชาภาษาอังกฤษให้กับรุ่นร้องในคณะ ซึ่งทัชกับกิมเรียนคณะเดียวกันนั่นก็คือบริการธุรกิจ หลังจากที่กิมรู้เรื่องจากรุ่นน้องที่มาบอกเขา กิมก็โกรธทัชมากและไม่ยอมคุยกับทัชเลยทั้งวัน
เมื่อมาถึงบ้านกิมก็ขึ้นไปข้างบนโดยที่ไม่ได้อยู่รอทัชเหมือนอย่างเคย ทัชรู้สึกเครียดไม่น้อยเมื่อเห็นท่าทางของกิมแบบนั้น เขาคิดไม่ตกว่าควรจะทำยังไงดีให้กิมหายโกรธเขา เขาจึงรีบตามกิมขึ้นไปข้างบน และเคาะประตูสองถึงสามครั้ง แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าคนในห้องจะยอมเปิดประตูให้ ทัชจึงตัดสินใจที่จะเปิดประตูเข้าไปเอง ยังดีที่กิมไม่ได้ล็อกเอาไว้ ไม่อย่างนั้นคงวุ่นวายมากกว่านี้แน่ เพราะเขาจะต้องไปขอกุญแจสำรองจากแม่บ้าน และอาจจะต้องตอบคำถามอีกหลายคนที่เข้ามาถาม ว่าทำไมเขาถึงมาขอกุญแจสำรอง ทั้งๆที่ปกติทัชจะเป็นคนเดียวที่สามารถเข้าห้องของกิมได้ตลอดเวลา
ทัชเปิดประตูเข้าไปข้างใน เขาก็เห็นว่ากิมกำลังนั่งเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ ทัชจึงเดินเข้าไปหากิมจากทางด้านหลัง
“คุณกิมครับ..หันมาคุยกันหน่อยได้ไหมครับ” คำพูดที่ดูเรียบนิ่งแต่น้ำเสียงที่อ่อนลง ทำให้คนที่หันหลังอยู่รับรู้ถึงความอ้อนวอนที่อีกคนกำลังแสดงออก แต่กิมก็เลือกที่จะใช้ความนิ่งแทนคำตอบให้กับอีกฝ่าย
“………………”
“คุณกิม..หันมาหน่อยไม่ได้เหรอครับ” ทัชลองขอดูอีกครั้ง แต่ก็ได้รับแต่ความเงียบเข้ามาแทนที่อยู่ดี ทัชคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงให้คนตรงหน้าหายโกรธเพราะตั้งแต่เขาเกิดมา เขาก็ไม่เคยง้อใครเลยและกิมก็ไม่เคยโกรธเขาขนาดนี้ด้วย
ทัชค่อยๆเดินเข้าไปใกล้กิม พร้อมกับจับแขนของอีกฝ่ายเบาๆเพื่อให้กิมหันหน้ามามองเขา กิมเองก็เหลือบตามองไปที่ทัชเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก่อนจะหันกลับไปมองที่หน้าจอตามเดิม ทัชสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะนึกวิธีที่ต้องง้อกิมออก
“กิม..ทัชขอโทษนะ” ทัชพูดพร้อมกับจับมือของกิมมากุมเอาไว้ ก่อนจะจูบไปที่หลังมือเบาๆ หลังจากนั้นก็จับมือของกิมมาแนบที่แก้มของตัวเองแล้วช้อนสายตามองกิมอย่างออดอ้อน ซึ่งสายตาที่ทัชกำลังมองกิมอยู่นั้น เจ้าของสายตาไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดว่ามันดูน่ารักสำหรับคนที่มองอยู่มากแค่ไหน
“นี่มึง..” กิมขมวดคิ้วมองทัชอย่างอึ้งๆ เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะใช้วิธีอ้อนเขาแบบนี้
“ทัชไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่บอกกิมนะ แต่ตอนนั้นน้องเขาไม่รู้จริงๆก็เลยมาขอให้ทัชสอน แล้วอีกอย่างนั้นก็น้องรหัสของทัช ทัชปฎิเสธไม่ได้หรอก” ทัชพยายามอธิบายให้กิมฟัง
“แล้วทำไมมึงต้องโกหก พูดออกมาตรงๆก็ได้ปะวะ” กิมถามด้วยความไม่พอใจ
“ก็ถ้าบอกไปตรงๆ กิมจะยอมให้ทัชติวให้น้องไหมล่ะ” ทัชย้อนถามกลับไป นั่นทำให้กิมนิ่งเงียบ เพราะแน่นอนว่าคำตอบของเขาคือไม่อยู่แล้ว ซึ่งกิมก็ไม่สามารถตอบตัวเองได้เหมือนกันว่าทำไม แต่ที่รู้ๆก็คือ..เขาจะไม่มีวันให้ทัชไปใกล้ชิดกับใครเด็ดขาด
“แต่ก็ไม่น่าโกหกกันปะ” กิมจ้องมองไปที่ดวงตาคู่หวานด้วยความขุ่นเคืองไม่น้อย
“ทัชรู้..ทัชเลยขอโทษกิมอยู่นี่ไง ยกโทษให้กิมนะ..ขอโทษจริงๆ” ทัชบีบมือของกิมเบาๆ
กิมที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะพยักหน้าตอบกลับไป นั่นทำให้สีหน้าของทัชดีขึ้น
“กิมไม่ได้โกรธทัชแล้วใช่ไหม” ทัชถามเพื่อความแน่ใจ กิมพยักหน้าแล้วดึงมือของตัวเองออกจากทัช ซึ่งมันทำให้ทัชรู้ว่าอีกคนหายโกรธแล้ว แต่ก็ยังมีความน้อยใจอยู่ ทัชมองหน้ากิมนิ่งๆอย่างลังเลว่าจะทำเหมือนที่เขาเคยเห็นเวลาที่มีคนง้อกันดีหรือเปล่า และเพราะทัชไม่ชอบเวลาที่กิมโกรธหรืองอนเขา เมื่อทัชคิดได้แบบนั้นมันก็เลยทำให้เขาต้องสลัดความลังเลของตัวเองออกไป
ทัชจับมือกิมที่วางอยู่บนเม้าส์ออก แล้วสอดตัวเข้าไปนั่งตรงตักของกิม ก่อนจะโอบรอบคอของอีกฝ่ายแล้วมองกิมนิ่งๆ
“ถ้ากิมยังไม่หายโกรธ..ทัชก็จะนั่งอยู่ตรงนี้ไม่ลุกไปไหน และถ้ากิมอยากให้ทัชอยู่แบบนี้..ก็โกรธต่อไปสิ” ทัชยิ้มให้กิมนิดๆ ซึ่งนี่คือรอยยิ้มที่กว้างมากที่สุดในสายตาของกิมแล้ว เพราะปกติทัชแทบจะไม่ยิ้มเลย กิมจำต้องใช้มือช้อนบั้นท้ายของทัชเอาไว้ เพราะกลัวว่าทัชจะตกลงไป
“นี่กำลังง้อกู? ถูกไหม”
“อื้มม ทัชขอโทษ..อย่าโกรธเลยนะ” ทัชพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้มันได้ผลเพราะมุมปากของกิมมีรอยยิ้มขึ้นมา
“ไหนลองอ้อนกูดูอีกครั้งซิ”
แววตาที่ดูเจ้าเล่ห์ของคนตรงหน้าทำให้ทัชหรี่ตามองนิดๆ
“ไม่เอาดีกว่า”
“อ่าว ทำไมอ่ะ?” กิมขมวดคิ้วแล้วถามด้วยความสงสัย
“ทัชไม่ว่างมาง้อกิมต่อแล้ว ไหนๆกิมก็หายโกรธแล้ว งั้น..ทัชไปก่อนนะ”
“เดี๋ยวดิ กูยังไม่ได้บอกว่ากูหายโกรธเลย” กิมดึงเอวบางของทัชเอาไว้ก่อน
“ปล่อยหน่ากิม เดี๋ยวทัชต้องไปฝึกร่างกายอีก นี่ก็สายมากแล้ว” ทัชพูดบอก พร้อมกับค่อยๆลุกออกจากตักกิมอย่างช้าๆ
“แต่..”
“ผมไปก่อนนะครับคุณหนู เดี๋ยวตอนดึกๆผมจะเข้ามากล่อมคุณหนูนอนนะครับ” ทัชเปลี่ยนมาใช้โทนเสียงเดิมของตนเอง และก้มหัวลงเพื่อทำความเคารพ ก่อนจะหันหลังเดินออกไป ทิ้งให้กิมได้แต่มองตามตาละห้อยแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
“ถ้าไม่มากล่อมเข้านอนคืนนี้นะทัช..จะตามไปบุกถึงห้องเลยคอยดู” กิมพูดพึมพำกับตัวเองเบาๆ ถึงหน้าที่อีกอย่างนึงของทัช ที่ต้องมานอนกอดกิมทุกคืน ซึ่งทัชทำแบบนี้มาตั้งนานแล้ว
+++++++++++++++
#ฝากเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน้าาาา