บทที่4
"ขอโทษค่ะ"น้ำเสียงตอบกลับมาง่ายๆ แต่ใบหน้าสวยนั้นแดงก่ำด้วยความอับอาย..เธอเองก็ลืมฐานะตัวเองไปชั่วขณะ
'อย่าลืมซิ..ศิศิรา..เธอก็แค่ลูกจ้างมีสิทธิ์อะไรมานั่งทานข้าวโต๊ะเดียวกับเจ้านาย'
เด็กหญิงตัวน้อยเลือกจะนั่งติดกับคนเป็นอา..ศิศิราเลยตัดสินใจเดินมาฝั่งนายจ้างตัวเล็ก..เพื่อจะได้ดูแลอาหารการกิน..ป้าแจ่มกับลูกมือทยอยขนกับข้าวขึ้นจัดบนโต๊ะ ศิศิราจึงช่วยตักข้าวสวยใส่จานให้สองอาหลาน..เธอยังคงยืนเงียบๆ ..แต่ก่อนที่น้องเอื้อยจะได้เริ่มทานเมนูอาหารที่พี่เลี้ยงคนใหม่จะทำให้ ลูกมือของป้าแจ่ม ที่ชื่อกระถินก็ยื่นไอแพดส่งถึงมือเจ้านายตัวน้อยก่อน..ศิศิราขมวดคิ้วทันที
ยิ่งเห็นสภาพเด็กน้อยกินข้าวไปด้วย ดูจอไปด้วย..พี่เลี้ยงสาวคนใหม่ยิ่งแปลกใจ
"น้องเอื้อยคะ คุณอาว่าเวลากินข้าวไม่ควรดูจอนะคะ"น้ำเสียงหญิงสาวเต็มไปด้วยความอ่อนโยนใจดี..คิมหันต์กับหลานสาวตัวจ้อยต่างก็เงยหน้าจากหน้าจอทันที
คิมหันต์สบตาคนตรงหน้าอย่างไม่พอใจ เขาเองก็แอบร้อนตัวที่ดูมือถือไปด้วยกินข้าวไปด้วย..ที่สำคัญเธอมีสิทธิ์อะไรมาดุหลานสาวเขา? ส่วนเด็กหญิงไอรดาฟังจบก็ดูจอต่อทั้งยังอมข้าว
"คุณอาขอไอแพดคืนได้มั้ยคะ? เวลานี้เวลากินข้าว เราควรทำหน้าที่ของเราให้เสร็จก่อนนะคะ"
"ไม่ น้องเอื้อยจะดูพี่โพนี่"น้ำเสียงยัยตัวเล็กยังคงรำคาญ แต่พี่เลี้ยงสาวยังคงยิ้มละไม
"'งั้น คุณอาจะให้เวลาน้องเอื้อยครึ่งชั่วโมง..ถ้าหมดเวลาคุณอาจะเก็บจานข้าว..แล้วถ้าเราทานไม่หมด คุณอาของดของหวานทุกอย่างสำหรับเย็นนี้ตกลงมั้ยคะ?"
เด็กหญิงตัวแสบยังคงไม่ตอบยังคงใจจดใจจ่ออยู่กับหน้าจอ..ศิศิราไม่นึกแปลกใจแล้วที่ตอนคุณป้าเพ็ญศรีเปรยถึงเรื่อง 'พี่เลี้ยงเด็ก' ว่าเปลี่ยนบ่อยทุกสองเดือนไม่รู้มาจากสาเหตุอะไร
ด้วยความอยากกลับมาตามหาหัวใจตัวเองคืน..หญิงสาวจึงอาสาขอทำหน้าที่นี้เอง..โดยมีเงื่อนไขว่าขอให้เจ้าของบ้านไม่ก้าวก่ายงาน ทั้งเวลาที่เธอตั้งกฎเกณฑ์สอนวินัยให้เด็กน้อยหรืออย่างอื่นก็ตาม
อาจจะเพราะการเปลี่ยนพี่เลี้ยงบ่อย..หรือเพราะความรู้สึกผิดในใจบางอย่าง..ผู้สูงวัยจึงเลือกที่จะยอมรับเงื่อนไขของพี่เลี้ยงสาวคนสวยทุกประการ
ศิศิราเองก็ยืนสุภาพอยู่ด้านข้างเด็กน้อย..ใบหน้าสวยหวานแอบระอาเล็กน้อย..ยิ่งเห็นอดีตแฟนนั่งไถเฟสบุ๊ค กินข้าวคำน้ำคำ ย้อนให้คิดถึงในอดีต
สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เราสองคนตั้งใจสอบเข้าเรียนที่เดียวกัน..แต่คนละคณะ..เขาเรียนคณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์..ส่วนเธอเรียนคณะครุศาสตร์..คู่ของเราก็เหมือนคู่รักทั่วไป..คิมเลือกจะกลับมาอยู่กับครอบครัวฝั่งพ่อ..โดยมีคุณป้าเพ็ญศรี..พี่สาวคนเดียวของพ่อเป็นคนซื้อคอนโดนหลังเล็กๆ ใกล้มหาวิทยาลัยให้ หลานของท่านจะได้ไม่ลำบากเดินทาง
ส่วนพ่อของเธอเสียไปช่วงมัธยมศึกษาปีที่ 5 ยังดียังได้เงินบำเหน็จตกทอดจากบิดาที่เป็นตำรวจ กับเงินประกันชีวิตที่ท่านทำไว้ให้..ชีวิตหลังจากนั้นของศิศิราจึงไม่ลำบากเรื่องเงินมากนัก..อย่างน้อยก็มีเงินใช้จนกว่าจะเรียนจบมหาวิทยาลัยดีๆสักที่
เธอกับเขาจึงตัดสินใจอยู่ด้วยกันก่อนแต่ง..เหมือนคู่รักทั่วไปในสมัยนี้..อาจเพราะคบกันมานาน..ส่วนใหญ่เธอกับเขาจะไม่ค่อยทะเลาะกัน..นานๆ ทีจะมีงอนกันบ้าง ส่วนงานบ้านในคอนโดก็แบ่งกันทำ ช่วงเช้าคิมจะเป็นคนเตรียมอาหารเช้า..ส่วนช่วงเย็นเธอจะเป็นคนทำไว้ให้..ตลอดเวลาที่คบกันมา
'ไม่มีวันไหนที่เราไม่เคยกินข้าวด้วยกัน’
แม้แต่วันที่ต่างคนต่างยุ่งเวลาไม่ตรงกัน..ยังคงหาเวลานัดกินกลางวันด้วยกันสักมื้อ
เธอชอบกินเมนูเส้น..ส่วนเขาชอบเมนูข้าว
‘คิม..เมื่อไรจะกินเสร็จ..เอาแต่ดูจออยู่นั่นแหละ’แฟนสาวเริ่มบ่น เมื่อตัวเธอกินเสร็จจนนั่งรออย่างเบื่อหน่าย แต่ไอ้ต้าวตัวโตยังกินไม่ถึงครึ่งจาน
คิมหันต์หันมาส่งยิ้มขอลุแก่โทษมาให้ เขาดูจานข้าวที่ว่างเปล่าของคนตรงหน้า แล้วหันมาดูจานของตัวเอง..ที่ตอนนี้มีกับผักสามสหายของโปรดของเจ้าตัวถูกตักไว้พูนจาน..ไม่ต้องสืบก็ยัยตัวเล็กที่ทำตัวเหมือนแม่คงตักไว้ให้อย่างผู้หญิงที่ชอบดูแล
‘ศิ..ไม่ชอบเลย เวลาที่เรากินข้าวด้วยกัน แล้วคิมเอาแต่ดูมือถือ..คิมไม่อยากเห็นหน้าศิเหรอ’หญิงสาวตั้งคำถามหน้ามุ่ย ไอ้ต้าวเดือนวิศวะคอม รีบวางมือถือลงบนโต๊ะทันที อีกทั้งริมฝีปากหยักได้รูปยังส่งยิ้มประจบมาให้
‘ขอโทษษษษษ ศิจ๋าไม่โกรธคิมนะคะ คิมวางมือถือแล้ว..เปลี่ยนเป็นกินข้าวไปด้วย..ดูหน้าศิจ๋าไปด้วยแทนดีมั้ย’เสียงออดอ้อนกับสรรพนามที่เปลี่ยนไป ถูกส่งมาพร้อมกับสายตาระยิบระยับ..ส่งผลให้คนเป็นแฟนหลุดหัวเราะฉิวๆ
ตั้งแต่วันที่เขาโดนเธอดุ..ระหว่างมื้ออาหาร..เราทั้งคู่แทบไม่ได้แตะมือถือ
‘เขา..คงลืมมันไปหมดแล้ว’
สายตาเศร้าสร้อยถูกส่งไปให้ชายหนุ่มที่กำลังกินข้าวไปด้วยเล่นมือถือไปด้วย...ผักสามสหายของโปรดวางอยู่ตรงหน้า..แต่มันไม่พร่องเลยแม้แต่น้อย..เขา ‘เลือก’ จะตักเมนูอื่นที่อยู่ไกลมือแทน..เพราะเขาคงจะรู้ว่า..ใครเป็นทำเมนูนี้
เมื่อเวลาผ่านไปสามสิบนาทีจนครบกำหนด หญิงสาวจัดการเก็บจานของเจ้านายตัวน้อย..ส่งผลให้เจ้าแก้มยุ้ยหันมามองอย่างแปลกใจ..ตากลมโตกะพริบปริบๆ ก่อนจะวางช้อนคืนลงในจานอย่างเด็กดื้อ ก่อนจะเบนสายตาก็กลับไปมองหน้าจอไอแพดดังเดิม..ศิศิราไม่บ่นอะไร เธอเลือกจะเก็บชุดจานเด็ก และเตรียมจะไปเรียกแม่บ้านให้มาช่วยเก็บโต๊ะ
แต่อดีตแฟนหนุ่มกับนิ่วหน้า ส่งเสียงดุมาก่อน
“นั้นเธอจะทำอะไรห๊ะ ศิศิรา”
“ก็จะไปเรียกแม่บ้านให้มาเก็บโต๊ะยังไงละคะ หรือว่าคุณคิมยังกินไม่เสร็จ?”คำเรียกสุภาพห่างเหินชวนให้เจ้าของบ้านหงุดหงิดใจไม่น้อย..ริมฝีปากหยักเม้มแน่น
“ฉันไม่ได้หมายถึงตัวฉัน...ฉันหมายถึงทำไมเธอต้องเก็บจานน้องเอื้อยด้วย..ไม่เห็นหรือไง ว่าหลานยังกินข้าวไม่เสร็จ”
“เสียใจด้วยนะคะ ดิฉันตกลงกับน้องเอื้อยแล้ว ถ้าครบสามสิบนาทีเราจะเก็บจาน และถ้าไม่กินข้าว ก็จะไม่ได้ทานของหวาน..จริงมั้ยคะ น้องเอื้อย”เธอพูดพร้อมกับยืดตัวขึ้นเล็กน้อย ทั้งส่งคำถามไปให้เด็กน้อยที่กำลังมองดูผู้ใหญ่เถียงกัน
"เอื้อยไม่หิว!!!"เจ้าก้อนแป้งจอมดื้อปฏิเสธการกินทันที
“เธอจะทำแบบนี้กับหลานฉันไม่ได้..หน้าที่ของเธอคือพี่เลี้ยง..ถ้าเด็กไม่กินเธอต้องป้อน..ถ้าเธอทำไม่ได้ก็ลาออกไปซะ!”น้ำเสียงท้ายเต็มไปด้วยความโกรธปนดูถูก..ลูกจ้างจำเป็นเลิ่กคิ้วกวนๆ ส่งกลับไปหนึ่งที..ทั้งยังกอดอก ส่งเสียงยียวนกลับไปอย่างคนนิสัยไม่ชอบยอมแพ้
“งั้นดิฉันก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับคุณเป็นรอบที่สอง..ดิฉันคงไม่ลาออกเพราะเรื่องนี้แน่นอนค่ะ..ถ้าคุณคิมไม่พอใจก็รบกวนไปคุยกับนายจ้างโดยตรงของดิฉัน..คุณป้าเพ็ญศรี”
“…”
“อ้อ..แต่ดิฉันอาจจะต้องขอแสดงความเสียใจกับคุณล่วงหน้าเป็นรอบที่สาม..เพราะคุณป้าอาจจะปฏิเสธคำขอของคุณ..เพราะท่านตกลงกับดิฉันว่าเรื่องของน้องเอื้อยแล้วแต่ดิฉันเลย”
“ศิศิรา!!!!”
“อื่ม...ถ้าไม่มีอะไรแล้วดิฉันขอตัวเอาจานไปเก็บก่อนนะคะ”รอยยิ้มมุมปาก พร้อมสายตาเอาเรื่อง..ทำให้คนตัวโตพูดไม่ออก..บางทีอาจเป็นเพราะเขาเองที่ลืมไปว่าพี่เลี้ยงสาวเรียนจบคณะอะไรมา แถมสาขาที่เธอเรียนมาคือ การศึกษาปฐมวัย!!!!