บทที่ 3
เซียวหมิงเดินตามหลังสาวใช้ไปพบบิดาของนาง ไม่ใช่สิบิดาของเซี่ยเซียวหมิงต่างหากเล่า นี่ก็ค่ำแล้วทำไมไม่คุยกันพรุ่งนี้ตอนเช้าเล่า คนยิ่งเหนื่อยๆอยู่ๆ
สาวใช้พานางเข้ามาในห้องหนังสือ เซียวหมิงกวาดสายตามองบุรุษวัยกลางคน เขานั่งที่เก้าอี้บนโต๊ะเหมือนเขาจะขีดเขียนอะไรสักอย่างลงไปในกระดาษ
บุรุษวัยกลางคนจ้องหน้าเซียวหมิงไม่กะพริบตา “คารวะท่านพ่อ” เซียวหมิงต้องเล่นตามบทละคร อัครเสนาบดีเซี่ย “เจ้าหายไปไหนมา”
หญิงสาวกลอกตาไปมา แล้วเอ่ยขึ้น
“ข้าโดนคนร้ายขโมยเงินแล้วถูกตีจนสลบพวกมันเอาข้าไปไว้ในป่าเจ้าค่ะ” ทำไมเขาดูไม่เป็นห่วงนางเลยแม้แต่น้อย
อัครเสนาบดีเซี่ยดูเหมือนว่าจะเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง
“เอาล่ะ เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว อย่าได้ซุกซนไปเที่ยวเล่นที่ไหนอีก อีกสามวันเป็นวันคล้ายวันเกิดฮองเฮา เจ้าต้องเข้าวังกับข้า อีกทั้งงานครั้งนี้ เป็นการเลือกคู่ของอ๋องชิงสุ่ยเยว่พระอนุชาของฮ่องเต้ชิงเกาหยางที่ตอนนี้ไม่มีพระชายา จึงทำให้งานวันคล้ายวันเกิดฮองเฮาเป็นการเลือกคู่ให้อ๋องชิงสุ่ยเยว่ด้วยถือเป็นการดี”
ใบหน้าเซียวหมิงแข็งค้างขึ้นมาทันที
“เจ้าค่ะ” นางเพิ่งมาในโลกแห่งนี้ก็ต้องเป็นตัวเลือกของบุรุษเสียแล้ว
“เจ้าไปพักผ่อนเถอะ” อัครเสนาบดีเซี่ยไล่บุตรสาว หญิงสาวยอบกายคำนับบิดาหมุนตัวออกไปทางประตู มุมปากอัครเสนาบดีเซี่ยกระตุกขึ้นทันทีแววตาทอประกายแห่งความเกลียดชังบุตรสาวคนโต…
ในคืนนั้นเองเซียวหมิงนอนไม่หลับทั้งคืน นางหวนคิดเรื่องเจ้าของร่างเดิมมีความสัมพันธ์แบบไหนกับบิดาทำไม อัครเสนาบดีเซี่ยถึงได้ห่างเหินกับเซี่ยเซียวหมิงยิ่งนัก แม้แต่คำพูดคำจา หรือว่านางจะไม่เป็นที่โปรดปรานของบิดา
ภาพที่ปรากฏในสมองที่พบเจออัครเสนาบดีเซี่ยแต่ละครั้ง ดูเหมือนว่าเจ้าของร่างเดิมหวาดกลัวผู้เป็นบิดาอย่างมากมันเกิดอะไรขึ้นกับระหว่างสองพ่อลูก เซียวหมิงต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังในโลกใบนี้ นางต้องสืบรู้ให้ได้ว่าเซี่ยเซียวหมิงคนเดิมทำอะไรให้บิดาไม่พอใจ เรื่องที่ลืมไม่ได้คือ การคัดเลือกพระชายาของอ๋องชิงสุ่ยเยว่ ดูเหมือนบิดาคนนี้อยากจะให้นางได้เป็นพระชายาเหลือเกิน
แต่ทว่านางไม่อยากแต่งงานกับบุรุษพวกนี้ นางอยากใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งนี้อย่างสงบ ปวดศีรษะยิ่งนักนอนดีกว่าพรุ่งนี้ค่อยถามเสี่ยวฟาง…
ยามเช้าตรู่ภายในศาลาสวนดอกเข็มเซียวหมิงนั่งเท้าคางที่โต๊ะ นางจะหลีกเหลี่ยงการไปดูตัวครั้งนี้อย่างไร? นางไม่อยากจะเป็นพระชายาของอ๋องพวกนั้น
“เสี่ยวฟาง ข้าไม่อยากไปดูตัวจริงๆ พูดง่ายๆ คือไม่อยากจะเป็นตัวเลือก” เซียวหมิงเอ่ยกับสาวใช้อย่างเบื่อหน่าย
ก็แหงล่ะคุณหนูของนางเป็นคนชอบเที่ยวรักอิสระ เป็นพระชายาต้องอยู่ในกรอบ แบบนี้คุณหนูก็ใจขาดตายแน่ๆ เสี่ยวฟางทำหน้าเศร้า “คุณหนูยังไงท่านก็ต้องไปเจ้าค่ะ”
“โธ่! พี่หญิงไม่อยากเป็นพระชายาของท่านอ๋องหรือนี่” สตรีนางหนึ่งย่างเท้าเข้ามาในศาลาพร้อมกับสาวใช้
“คารวะคุณหนูรอง”
เรียกนางว่าพี่หญิงแสดงว่าคงเป็นน้องสาวของเซี่ยเซียวหมิง เซียวหมิงปรายตามองผู้มาเยือนสวมอาภรณ์หรูหราสีชมพู มือหนึ่งถือพัดโบกสะบัดไปมา หน้าตาแม่สาวน้อยคนนี้จัดว่างดงามมาก งามโดยไม่ต้องศัลยกรรม คิ้วเรียวงาม จมูกเล็กแหลมเข้ากับใบหน้า ผมยาวราวกับน้ำตก มีปิ่นหยกปักแซมเล็กน้อยให้ดูงดงาม
“พี่หญิง” เซี่ยหูเตี๋ยเรียกพี่สาวของนางอีกครั้ง จ้องกันอย่างกับไม่เคยเห็นเป็นชาติ
เซียวหมิงได้สติ “น้องรองมีอะไรรึ” เซียวหมิงหวนคิดความทรงจำที่เซี่ยเซียวหมิงมีต่อน้องรองลูกฮูหยินคนปัจจุบันของจวนอัครเสนาบดี
ดูเหมือนว่าเซี่ยหูเตี๋ยจะรังเกียจเซี่ยเซียวหมิงเวลาพบหน้ากันจะพูดจากระแทกแดกดันกัน ช่างเป็นพี่น้องที่ไม่ลงรอยกันเสียจริง
เซี่ยหูเตี๋ยถือวิสาสะนั่งที่เก้าอี้ โบกมือให้เสี่ยวฟางรินน้ำชาให้ “พี่หญิงทำไมไม่อยากจะไปดูตัวเล่า น้องได้ยินมาว่าอ๋องชิงสุ่ยเยว่ รูปงามยิ่งนัก น้องยังชื่นชอบเลย” ในระหว่างที่เอ่ยถึงอ๋องชิงสุ่ยเยว่ดวงหน้างามเซี่ยหูเตี๋ยพลันแดงขึ้นราวกับลูกอิงเถา