บทย่อ
ในอ่างไม้นั้น พรึบ! บุรุษร่างสูงโปร่งโผล่ขึ้นจากอ่างไม้ “เจ้าเป็นใคร” ดวงหน้าหล่อเหลาเอ่ยถามบุรุษที่ไร้มารยาทเข้ามาในห้องของเขา เซียวหมิงเหลือบมองเรือนร่างอันสวยงามถึงกลับกลืนน้ำลายลงคอ “ข้า…ขออภัยขอรับ เข้าผิดห้อง” เซียวหมิงกล่าวจบร่างบางหันหลังกลับไปแต่ทว่าก้าวไปได้เพียงก้าวเดียว พรึ่บ! นางได้อยู่ในอ่างไม้กับบุรุษผู้นั้นเรียบร้อยแล้ว หนวดปลอมเมื่อโดนน้ำถึงกับหลุดออกมาทั้งยังเส้นผมยามสลวยสยายลงมาหลังหมวกหล่น นางเป็นสตรี!
บทที่ 1
ภายในห้องขังที่มืดมิดสตรีร่างงามในอาภรณ์สีชมพูปรือตาขึ้นมา นางกวาดสายตามองไปรอบๆ ที่นี่ที่ไหนกัน นางมาอยู่ที่แห่งนี้ได้อย่างไร? เสื้อผ้าก็แปลกตานี่มันเป็นเสื้อผ้าสตรียุคโบราณ หรือว่านางย้อนเวลาเข้ามาในอดีต
บ้าน่าจะเป็นไปได้อย่างไร?
เซียวหมิงจำได้ว่านางกำลังจะเดินข้ามถนนไปสมัครงานโรมแรมแห่งหนึ่งย่านกรุงปักกิ่ง หญิงสาวจบปริญญาตรีสาขาโภชนาการด้านอาหาร
ใบหน้างามหลับตาหวนคิดเรื่องที่เกิดขึ้น
ในครานั้นร่างงามกำลังจะข้ามถนนแต่ทว่าได้มีรถยนต์คันหนึ่ง ขับมาอย่างรวดเร็ว หญิงสาวหันไปมองรถยนต์คันนั้นพุ่งมาที่นางอย่างแรง ร่างงามกระเด็นลอยขึ้นฟ้าท่ามกลางสายตาคนมุงดูในครานั้น
หญิงสาวปรือตาขึ้น นางตายแล้วจริงๆ โชคชะตาคงได้กำหนดให้หญิงสาวมาใช้ชีวิตโลกอีกใบ เซียวหมิงกุมศีรษะ ปวดเหลือเกิน ดูเหมือนว่าร่างนี้ช่างอ่อนแอเหลือเกิน ความทรงจำเจ้าของร่างเดิมไหลผ่านสมองของเซียวหมิง
เจ้าของร่างเดิมเป็นบุตรสาวขุนนาง ท่านอัครเสนาบดีเซี่ย แล้วทำไมนางถึงถูกจับตัวมาที่แห่งนี้ล่ะ เซียวหมิงหวนคิดแต่ทว่าภาพความทรงจำกลับมืดสนิทราวกับอยู่ในหลุมอวกาศ นางมีชื่อคล้ายกันกับเซียวหมิง คือเซี่ยเซียวหมิงนั่นเอง
พอแค่นี้ก่อนนางไม่อยากจะคิดอีกแล้ว ก่อนอื่นต้องหาทางออกไปจากที่แห่งนี้เพื่อกลับจวนอัครเสนาบดีเซี่ย
นางเหลือบไปเห็นเศษไม้ที่แหลมคมร่างงามใช้เศษไม้ปาดเชือกที่มือและเท้าออก แรงจะเดินก็จะไม่มีเลย
“ข้าปวดท้อง” หญิงสาวร้องลั่นห้อง แสร้งนั่งลงตามเดิม
ประตูถูกเปิดออกบุรุษชุดดำเดินเข้ามาหา “คุณหนูใหญ่ตอนที่พวกข้าเอาข้าวมาให้ ท่านก็ปา…” ไม่ทันที่บุรุษผู้นั้นเอ่ยจบ ท่อนไม้ขนาดใหญ่ฟาดไปที่ขาเขาอย่างแรงจนชายหนุ่มล้มลงกับพื้น เซียวหมิงดึงแรงเฮือกสุดท้ายวิ่งออกมาจากห้องมืด
“จับนางเร็ว!”
เสียงตะโกนดังขึ้น เหล่าชายชุดดำต่างวิ่งตามร่างงามอย่างไม่ลดละ เซียวหมิงใช้แรงเฮือกสุดท้ายวิ่งเข้าไปในป่าไผ่ ภายใต้ความมืดมิดหญิงสาวจากโลกปัจจุบันเข้ามาในยุคโบราณ เพิ่งจะมาถึงที่ก็จะโดนฆ่าทิ้งเสียแล้ว
ชีวิตนางช่างน่าอนาถยิ่งนัก!
นางหายใจอย่างเหนื่อยหอบ!
ไม่ไหวแล้ว ร่างงามสะดุดต่อไม้ล้มลงอย่างทุลักทุเล หญิงสาวค่อยๆ คลานไปเรื่อยๆ สายตาปะทะกับเท้าบุรุษ นางมองจากล่างขึ้นบน ดวงตาคู่งามแทบถลนออกมาปลายกระบี่จ่อที่คองามระหง
“ปล่อยข้าไปเถอะ” ใครกันที่ต้องการทำร้ายเจ้าของร่างนี้
เหล่าชายชุดดำห้าคนขันออกมาอย่างแรง “ปล่อยอย่างนั้นรึ ท่านรนหาที่ตายเอง หลายวันมานี้พวกข้ารอฟังคำสั่งว่าจะเก็บท่านไว้หรือไม่ แต่ทว่าเห็นทีคงจะไม่ต้องฟังคำสั่งแล้ว”
นางจะตายอีกรอบอย่างนั้นรึ
เซียวหมิงเอ๋ย! นางหลับตาลง พร้อมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
เอ๊ะ…ทำไมพวกมันยังไม่ลงมืออีกเล่า
ฟิ้ว!
อ๊าก! ลูกดอกปักที่แขนชายชุดดำที่จ่อกระบี่ที่คอนาง กระบี่นั้นเฉียดที่คอนางจนเป็นรอยแดงนิดหน่อย
หญิงสาวปรือตาขึ้นมาทันที ภาพที่พร่ามัวทำให้นางเห็นบุรุษชุดสีขาวต่อสู้กับชายชุดดำเพียงพริบตาเดียวเหล่าชายชุดดำล้มลงจนหมด
เขาช่างเก่งเหลือเกิน
“แม่นางเป็นอย่างไรบ้าง” บุรุษชุดขาวเอ่ยถามเซียวหมิง เขามองสตรีที่อยู่ในอ้อมแขนเขา นางคงจะเหนื่อยกระทั่งลำคอยังได้รับบาดเจ็บ ร่างหนาพาร่างงามทะยานขึ้นฟ้าท่ามกลางความมืดมิด…
ร่างงามนอนบนเตียงอย่างสบาย บุรุษชุดขาวมองใบหน้างามที่ขาวซีดราวกับแผ่นกระดาษ สองวันแล้วนางก็ยังไม่ฟื้น
หญิงสาวค่อยๆ ปรือตาขึ้นมา พบว่าบุรุษชุดขาวกำลังจะก้าวเดินจากไป “ท่าน…”
คำนี้ทำให้บุรุษชุดขาวรีบหันมาทันที
“เจ้าฟื้นแล้ว” ใบหน้าหล่อเหลายักยิ้มให้นาง
“ข้าหลับไปกี่วันเจ้าคะ” เซียวหมิงเอ่ยถามเขา
“สองวัน ข้าจะเอาข้าวต้ม กับยามาให้แม่นาง” ชายหนุ่มรีบรุดเดินออกไปทันที เซียวหมิงนึกขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้นางยังไม่ตาย แถมได้บุรุษที่หล่อเหลาช่วยชีวิตได้ ใบหน้างามแดงซ่านทันทีเมื่อหวนคิดใบหน้าหล่อคิ้วดุจกระบี่จมูกโด่งเป็นสัน
บ้าน่าเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานยังจะมาคิดอะไรบ้าๆ นางรีบสลัดความคิดออกทันที
เวลาประมาณหนึ่งก้านธูป บุรุษรูปงานในชุดขาวถือถาดอาหารกับชามยามาให้นาง เขาวางมันไว้ที่โต๊ะเล็กข้างเตียง
นางได้กลิ่นข้าวต้มถึงกับน้ำลายไหล ดูเหมือนว่าเจ้าของร่างนี้ไม่ได้รับประทานอาหารมาหลายวัน ชายหนุ่มยื่นชามข้าวต้มให้นาง
เซียวหมิงมองเขาอย่างหวั่นไหวคนบ้าอะไรหล่อยิ่งกว่าดาราชายในประเทศจีนอีก นึกว่าเซียวจ้าน ดวงตาของเขาช่างคมกริบราวกับดวงตาเหยี่ยว
กรี๊ด! เซียวหมิงใจละลายเจ้าค่ะ
“แม่นางรีบกินเถอะ จะได้ดื่มยา พักรักษาตัวอีกสามวันก็หาย” กล่าวจบชายหนุ่มหันหลังให้นาง เขากำลังจะไปข้างนอก
“ท่านจะไปไหนเจ้าคะ”
“ข้าจะไปเก็บยาสมุนไพร”
หญิงสาวกำลังจะกล่าวขอบคุณเขา แต่ทว่าร่างหนาได้เดินออกไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้างามฉุดคิดว่าเขาไปเก็บสมุนไพรทั้งยังชอบสวมอาภรณ์สีขาว หรือว่าเขาจะเป็นหมอ
หลังจากที่นางรับประทานข้าวต้มและกินยาเป็นที่เรียบร้อย หญิงสาวรู้สึกว่ายาที่ดื่มเข้าไปมีผลอย่างรวดเร็วทำให้นางหายป่วยรู้สึกสดชื่น ตอนนี้นางมีแรงเดินชมรอบๆเรือนแห่งนี้ หน้าจวนปลูกดอกไม้และมีต้นไม้ใหญ่อยู่ข้างหน้า
บรรยากาศช่างสดชื่นยิ่งนักสายตามองไปที่รอบๆ เรือนเต็มไปด้วยป่าไผ่ ล้อมรอบไปด้วยภูเขาเขียวขจี
เซียวหมิงไม่คิดเลยว่าจะเป็นเรื่องจริงที่ตัวนางได้ย้อนเวลามาจริงๆ
นางเดินไปข้างหลังเรือนดูเหมือนว่าเขาจะตากพวกใบไม้แห้งกับพวกกลีบบุปผาต่างๆ ไว้ให้มันแห้งสงสัยจะเป็นยาไว้รักษาคนกระมัง
“แม่นาง”
หญิงสาวหันไปข้างหลัง พบว่าบุรุษชุดขาวนั่นเอง ดูเหมือนว่าเขาคงจะเหนื่อยมากกระมังใบหน้าผุดไปด้วยเหงื่อ ข้างหลังยังแบกตะกร้าซึ่งเต็มไปด้วยสมุนไพรอีกต่างหาก
“ท่านกลับมาแล้ว”
เขามองใบหน้างามบัดนี้มีเลือดฝาดขึ้นมาเล็กน้อย “เข้าไปในเรือนกันเถิด” หญิงสาวรีบเดินตามหลังร่างหนา…
เซียวหมิงรีบรินน้ำชาให้ท่านหมอทันที นางดูซีรีย์คนจีนโบราณชอบดื่มน้ำชาเวลานั่งที่โต๊ะมักจะให้สาวใช้รินน้ำชา
“แม่นางควรจะพักผ่อนให้มากไม่ควรออกมาเดินเล่นเยี่ยงนี้”
หญิงสาวหลุบตาลงต่ำ
“ขอบคุณท่านที่เป็นห่วงเจ้าค่ะ”
“แม่นางแซ่อะไร” บุรุษชุดขาวเอ่ยถามนาง
“เรียกข้าว่าเซี่ยเซียวหมิงก็ได้เจ้าค่ะ แล้วท่านแซ่อะไร”
“ข้าเจียงลู่ เป็นหมอ”
“ขอบคุณท่านเจียงยิ่งนักที่ช่วยเซียวหมิงไว้เจ้าค่ะ”
“ว่าแต่แม่นางเซี่ยเหตุใดจึงโดนคนพวกนั้นไล่ฆ่าได้”
หญิงสาวทำใบหน้าฉงน นางเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันดูเหมือนความทรงจำเจ้าของร่างนี้จะขาดหายไป
“ข้าไม่รู้เจ้าค่ะ ที่จริงข้าเป็นบุตรสาวขุนนาง พวกนั่นอาจจะจับตัวเรียกค่าไถ่ก็ได้เจ้าค่ะ” นางเดามั่วไปก่อน
“เอาล่ะ เมื่อแม่นางเซี่ยหายแล้วค่อยกลับไปในเมืองข้าจะให้คนไปส่งเจ้า”
เซียวหมิงยิ้มหวานให้เขา “รบกวนท่านหมอแล้ว”
สามวันผ่านไปดูเหมือนว่าร่างกายของเซียวหมิงจะดีขึ้นกว่าเดิม นางไม่รู้สึกอ่อนแอเหมือนตอนแรกเลย ดื่มยาท่านหมอเจียงทุกวันร่างกายนางสดชื่นขึ้นทันตา สามวันที่อยู่เรือนหมอนางมีแต่กินกับนอน วันนี้แล้วที่เขาจะให้คนรับใช้ไปส่งนางในเมือง