ตอนที่ 7 คุ้นเคย
สองร่างที่มีความสูงต่างกันมากกำลังเดินเซมายังประตูห้องของคอนโดหรู คนตัวเล็กลากเขาเข้าห้องอย่างทุลักทุเล
“เดินดี ๆ สิคะพี่คราม” คนตัวสูงทิ้งน้ำหนักตัวมาหาเธอเต็มที่ เธอแทบจะยืนบนส้นสูงไม่ไหว ไม่คิดว่าจะต้องมาแบกรับน้ำหนักคนตัวโตแบบนี้ก็เลยสวมส้นสูงมาอย่างมั่นใจ
ริมฝีปากและปลายจมูกโด่งกดจูบลงบนศีรษะเพื่อนน้องสาวหนัก ๆ โดยที่คนตัวเล็กกว่าไม่ทันตั้งตัว นานมากแล้วที่เขาไม่ได้แอบอิงแนบชิดกับผู้หญิงตัวเป็น ๆ แบบนี้ เหตุเพราะเขาจมจ่อมอยู่กับผู้หญิงในฝันคนนั้นไม่เคยเสื่อมคลาย
“อือ หอม”
ครางเสียงอ้อแอ้ถึงจะเดินได้แต่ก็ไม่ตรง พยุงตอนไม่เมาก็ว่าหนักแล้ว ตอนเมายิ่งไม่ต้องพูดถึง
“พี่คราม! นิสัย” เทียนหอมกล่าวน้ำเสียงตำหนิ อย่าทำให้เธอกลัวแบบนี้ กลัวว่ามันจะเป็นเหมือนในอดีต
“หึ พี่เมา” มุมปากกระตุกยิ้ม ตายังหรี่ปรือเหมือนทำลงไปด้วยสัญชาตญาณ
ก็ดีที่ยังรู้ตัวว่าเมา เทียนหอมวางร่างใหญ่โตลงบนโซฟาห้องรับแขก เธอไม่มีความสามารถพอที่จะพาเขาเข้าไปถึงห้องนอนได้ ตัวหนักเหลือเกิน เดินไปหยิบผ้าห่มในห้องนอนมาห่มให้เขา แล้วขออยู่กับคนที่เฝ้าคิดถึงตลอดเวลาสักพัก แล้วเทียนหอมจะกลับไปอยู่กับโลกของเธอตามเดิม
สถานที่เดียวกัน ต่างกันที่ครั้งนี้เขาเป็นคนเมา ไม่ใช่เธอ
สายตาอ่อนโยนมองคนตัวสูงที่นอนหลับตาพริ้มที่โซฟา แอบใช้นิ้วเรียวเล็กไล่ไปตามกรอบหน้า คิ้วเข้ม เรื่อยมายังสันจมูกโด่ง และริมฝีปากหยักสวยของเขา ท้องนิ้วหัวแม่มือนุ่มคลึงริมฝีปากเขาเบา ๆ สายตาเว้าวอนคนึงหาจูบอันร้อนแรงที่เคยได้รับจากเขา
นานแล้ว
แต่เธอยังไม่เคยลืมมันได้สักนาทีเดียว ก่อนนอนเธอแอบจินตนาการถึงเขาทุกคืน
เธออยากจูบเขาอีกสักครั้ง
ร่างเล็กโน้มใบหน้าลงมาใกล้ริมฝีปากระเรื่อแตะไล้ริมฝีปากเขาอย่างอ้อยอิ่ง มันรู้สึกวาบหวามจนเผลอดูดริมฝีปากล่างของเขาแผ่วเบา มันรู้สึกดีมาก ๆ ดวงตากลมเบิกโพลงขึ้น
พระเจ้า! เขาจูบตอบกลับเธอมาริมฝีปากหนาดูดดึงกลีบปากเธอแรงขึ้น กลิ่นแอลกอฮอล์และกายหอมกรุ่นกระตุ้นอารมณ์ของเธอให้เตลิด มือใหญ่กดที่แผ่นหลังเธอไว้เพียงนิดแต่ก็มากพอที่จะตรึงร่างเธอไว้ให้แนบชิดกับแผ่นอกเขา
เทียนหอมพยายามผลักร่างใหญ่ออก ก่อนที่เขาจะตื่นขึ้นมา นั่งหายใจระทวยอยู่พักหนึ่งก่อนจะขยับกายลุกขึ้น แต่มือหนากลับคว้าข้อมือเล็กไว้เสียก่อน เธอต้องนิ่งไปชั่วขณะ
“คุณจะไปไหน”
เขาตื่น? ร่างเล็กสูดลมหายใจเข้าลึก
“อยู่กับผมก่อนได้ไหม ได้โปรดอย่าเพิ่งไปจากผม” เสียงเบาและแหบเครือ
“…”
“คุณเป็นใคร?” เสียงอ้อแอ้นั้นยังถามต่อ
“??”
เขาไม่ได้ตื่น แต่เขากำลังละเมอ จนเธอต้องนั่งลงบนพรมที่พื้นข้างโซฟาหนัง เขากำลังพูดถึงใครกัน ทำไมน้ำเสียงเขาเหมือนกำลังอ้อนวอนคนคนนั้น
มือใหญ่ดึงมือเธอเข้าไปกอดไว้แนบอกราวกับหวงแหน เทียนหอมรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังฝัน มืออีกข้างปัดเส้นผมที่ปรกลงมาตรงหางตาอย่างเบามือ เธอสังเกตเห็นน้ำตาที่เล็ดออกมาจากหางตาของเขา ถึงจะเป็นแค่ความฝันแต่ทำไมเธอถึงรู้สึกน้อยใจขนาดนี้ ครามมีคนในใจแล้วอย่างนั้นหรือ
แต่ช่างเถอะขอแค่ให้เธอได้อยู่แบบนี้บ้างก็เพียงพอแล้ว
เธอชอบในช่วงเวลานี้มากที่สุด ได้นั่งมองคนตัวโตที่ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมาสักเท่าไหร่ บางทีก็เหมือนเป็นคนลึกลับ ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารักน่าค้นหา
จากที่คิดจะกลับบ้านเธอจึงอยู่กับเขาต่ออีกนิด อย่างน้อยเธอก็ได้เห็นเขานอนหลับ แค่นี้เธอก็มีความสุขแล้ว คิดจะดึงมือออกคนตัวโตก็กำมือเธอไว้แน่นแล้ว กลัวเขาตื่นจึงนอนหลับไปทั้ง ๆ ที่ยังสวมเดรสชุดนั้น คืนนี้ถึงเธอจะนอนลำบากหน่อยเธอก็ยอม
คนตัวโตลืมตาตื่นขึ้นมา มือหนาลูบหน้าตัวเองแรง ๆ เพื่อขับไล่อาการเมาค้าง คว้าโทรศัพท์มาดูก็ตกใจกับตัวเองเมื่อเห็นเวลาบ่ายสอง เป็นไปได้อย่างไรเขาไม่เคยนอนหลับได้นานขนาดนี้มาก่อน หรือจะเป็นเพราะเขาเมา ไม่น่าจะใช่หลายครั้งก็เมาแต่ก็ไม่เคยหลับได้ยาวเท่าครั้งนี้ ที่สำคัญเขานอนอยู่โซฟาด้านนอกด้วย
นั่งลำดับเหตุการณ์เรื่องเมื่อคืนว่าเขากลับมาที่คอนโดนี้ได้อย่างไร มือก็เลื่อนดูข้อความในโทรศัพท์ไปด้วย หยิบน้ำเปล่าที่มีคนวางไว้โต๊ะข้างโซฟามาดื่มจนเกือบหมดขวด
เทียน: เทียนทำข้าวต้มไว้ให้แล้วนะคะ ในตู้เย็นพี่ครามโล่งมากเลยค่ะ
จะไม่ให้โล่งได้อย่างไร ก็เขาทำกับข้าวไม่ค่อยเป็น อีกอย่างอยู่คนเดียวเขาไม่เสียเวลามาทำกับข้าวหรอก
คิ้วเข้มขมวดมุ่น เธอมีไลน์เขาได้อย่างไร ทั้งที่มีแต่ก็ไม่เคยติดต่อกันเลยตลอดเวลาหลายปี
ใช่แล้ว เมื่อคืนเทียนหอมมาส่งเขา แปลกมาก เขาไม่ได้ฝันว่ามีอะไรกับเธอคนนั้น ครามแค่ฝันว่าเธอมาหามานั่งอยู่ข้าง ๆ กุมมือเขา นอนเฝ้าเขาข้างโซฟาตรงนี้ มันเป็นไปได้อย่างไร และเขาก็ไม่ปวดศีรษะด้วย มีเพียงอาการมึนนิดหน่อยจากการดื่มหนัก หรือเป็นเพราะเขาไม่ได้ปลดปล่อยธารธาราอุ่นออกมา
“อือ เทียนนอนค้างที่นี่”
นี่เทียนอยู่กับเขาทั้งคืน?
ครางออกมาเสียงเบาเมื่อนึกได้ว่าเทียนหอมนอนแบบไหน ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นแต่เป็นเทียนหอมต่างหากที่มานอนอยู่ข้างเขา คิดแล้วก็สงสารที่เขารั้งเธอไว้ให้อยู่กับเขา ซึ่งเธอก็ยอม มือใหญ่แตะที่ริมฝีปากตัวเองแล้วคลี่ยิ้มออกมา
ปิดเปลือกตาสีอ่อนลงอีกครั้งแล้วคิดถึงเรียวปากนุ่มที่โดนเขาดูดเมื่อคืน เธออาจจะทำไปเพราะความเมา
ทำไมเขารู้สึกคุ้นกับริมฝีปากนี้จัง
คนตัวสูงพาร่างตรงไปยังห้องครัว ข้าวต้มที่เธอทำไว้ให้ยังอุ่น ๆ อยู่เลย แสดงว่าเธอเพิ่งจะกลับไปได้ไม่นาน เป็นครั้งแรกที่เขาหลับได้สนิทและทานข้าวได้อร่อยเช่นนี้ กินข้าวไปยิ้มไปรู้สึกอิ่มเอมใจจนบอกไม่ถูก
สนามหญ้าหน้าบ้านปูนชั้นเดียว ลักษณะกลางเก่ากลางใหม่ มันเป็นบ้านที่เธอเคยเช่าไว้ตั้งแต่เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ มันมีความเป็นส่วนตัวและน่าอยู่สำหรับเธอ
“เร็วเข้าฟักทอง มังคุดวิ่งนำหน้าไปโน่นแล้ว” เสียงเจื้อยแจ้วร้องบอกลูกทั้งสองตัว มังคุดก็คือน้องหมาตัวสีขาวส่วนฟักทองนั้นคือน้องแมวตัวอ้วนสีส้ม ทั้งสามวิ่งเล่นโดยมีเทียนหอมอยู่ตรงกลาง แต่ดูเหมือนว่าฟักทองจะไม่มีอารมณ์วิ่งสักเท่าไหร่