ตอนที่ 5 สวยขึ้น
แก๊งสามหนุ่มลูกครึ่งชื่อไทยพร้อมเพรียงกันที่ร้านเหล้า ตามด้วยใยไหม ทุกคนต่างนั่งรอเทียนหอมที่เลิกงานช้ากว่าใครเพื่อน เกือบสามปีแล้วสินะที่ใยไหมไม่ได้เจอเพื่อนรัก ป่านนี้แว่นของเธอจะหนามากแค่ไหน จะทำตัวเชยเหมือนตอนเรียนมหาวิทยาลัยอยู่อีกหรือไม่
“เทียนมาช้าจัง” ธันวาเอ่ยขึ้น
“ไหมโทรไป เทียนบอกว่าใกล้ถึงแล้วนี่คะ”
ทุกคนนั่งดื่มรอเธอไปพลาง ๆ
ร่างเพรียวสมส่วนปิดประตูรถเก๋งคันสีขาว ก้าวขาที่สวมรองเท้าส้นสูงเกือบห้านิ้วยาว ๆ เดินอย่างมั่นใจเข้าไปในร้านเหล้า สายตาเหลือบมองป้ายหน้าร้านแวบหนึ่ง
สีคราม นั่นคือชื่อร้าน เทียนหอมรู้ว่ารุ่นพี่คนนี้เปิดร้านเหล้ามาหลายปี แต่เธอก็ไม่เคยย่างกรายเข้ามาใกล้เลยสักครั้ง
เหตุผล
เธอไม่กล้าพอที่จะพาตัวเองเข้ามาใกล้เขาถึงแม้ใจจะคิดถึงพี่ชายคนนี้มากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่ควรพาตัวเองเข้ามาในอาณาบริเวณของเขา
เทียนหอมหยุดมองหาโต๊ะเป้าหมาย เมื่อเจอแล้วจึงรีบเดินไปทันที เธอกำลังตื่นเต้นและประหม่าที่จะได้เจอเขา นานมากที่เขาหายไปจากชีวิตเธอ
“นั่นเทียนใช่ไหมวะ” ตรัยคุณเห็นคนแรกเพราะนั่งหันหน้ามาทางประตูทางเข้าพอดี บอกกับเพื่อนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ ทุกสายตามองมาที่ร่างอรชรที่กำลังเดินมาที่โต๊ะอย่างเฉิดฉาย
“อื้อหือ สวยว่ะ จำแทบไม่ได้เลย” ธันวาเห็นด้วยอย่างยิ่ง ทั้งเรียวขาขาวเนียนเอย สะโพกกลมกลึงเอยผมยาวดำขลับถูกปล่อยให้พลิ้วสะบัดอยู่เต็มหลัง เธอสวมเดรสสีม่วงพาสเทลบวกกับรองเท้าส้นสูงสีเดียวกันมันทำให้เธอดูเซ็กซี่เป็นบ้า น้องก็น้องเถอะน่า
ใยไหมยังนั่งอ้าปากหวอ ตะลึงในความสวยของเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันหลายปี ถึงในช่วงที่เรียนปีสองถึงปีสี่เทียนหอมจะดูแลตัวเองมากขึ้นแต่เธอก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองถึงขนาดนี้ รูปร่างเทียนหอมดีมาก ไม่อ้วนไม่ผอม มีในส่วนที่ผู้หญิงพึงมี และตอนนี้เธอก็ไม่ได้สวมแว่นสายตาเหมือนตอนที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยอีก
ครามวางใบหน้านิ่งเฉยไม่บ่งบอกว่าสื่ออารมณ์ใดออกมา แต่ถ้าใครสังเกตดี ๆ จะรู้ว่าแววตาของเขากระตุกวูบหนึ่ง เขาไม่ได้ชอบคนสวย เพราะครามสัมผัสได้ว่าผู้หญิงในความฝันของเขาไม่ใช่คนสวย แต่เธอขี้อ้อนและน่ารักมากเวลาที่อยู่กับเขา ยิ่งเวลาที่เธอครางเสียงหวานนั้น เธอยิ่งน่า…สุด ๆ
คนตัวเล็กทักทายทุกคน แล้วนั่งลงระหว่างใยไหมกับตรัยคุณ พ่อหนุ่มเซอร์มาดเข้มสมกับเป็นนายช่างใหญ่
“ไปทำไรมาสวยขึ้น” ใยไหมกระซิบพอให้ได้ยินกันเพียงสองคน
“แค่อยากเปลี่ยนตัวเองดูบ้างน่ะ”
ยิ้มหวานให้เพื่อน เธอแค่อยากเปลี่ยนตัวเองไม่ให้เหลือเค้าของเทียนหอมคนเดิมเหมือนเมื่อหกปีก่อนก็เท่านั้นเอง เธออยากลืมเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนั้น แต่ยิ่งพยายามลบภาพเขาออกไปเท่าไหร่ หัวใจมันก็ยิ่งตอกย้ำให้เธอจดจำเขามากขึ้นทุกวัน มากจนกลัวว่าวันหนึ่งเธอจะเผยให้เขารู้ความจริง แล้วสิ่งที่เธอกลัวก็คือความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขามันจะไม่เหมือนเดิมไปตลอดกาล เทียนหอมไม่กล้าสบตากับสายตาคมกริบคู่นั้นอีก กลัวว่าเขาหรือใคร ๆ จะอ่านสายตาของเธอออก เธอไม่ใช่คนเก่งที่จะเก็บซ่อนความรู้สึกในแววตาได้มิดชิดขนาดนั้น
เธอกลัว
กลัวว่าเขาจะรู้ถึงความผิดปกติที่เธอมี
“ขอโทษทุกคนด้วยนะคะที่เทียนมาช้า”
ยิ้มพรายให้กับคนรอบโต๊ะ พอเห็นสายตาคมกล้าของครามที่จับจ้องมาที่เธอ เทียนหอมเองที่เป็นฝ่ายหลบสายตาเขาก่อน ถ้าเดาไม่ผิดตอนนี้เขากำลังจ้องเธออยู่ตาไม่กะพริบ แอลกอฮอล์ยังไม่ตกถึงท้องเธอแม้แต่หยดเดียว เหตุใดกายเล็กถึงเกิดอาการวูบวาบขึ้นมาจนตัวรู้สึกร้อนผ่าว ครามกำลังใช้สายตาจุดไฟเผาร่างของเธอ เขานิ่งมากนิ่งจนยากที่จะเดาความรู้สึกได้
เธออยากรู้ว่าเขาคิดอย่างไรที่คนอื่นต่างมองว่าเธอสวยขึ้น ใครจะชมว่าสวยแค่ไหนมันไม่สำคัญอยู่แล้ว
“ไม่เป็นไรจ้ะ สวย ๆ แบบนี้พี่ให้อภัย” ท่านรองประธานหนุ่มอย่างธันวาเอ่ยเย้า
“กับน้องกับนุ่ง” นั่งเงียบอยู่นาน กว่าคนพูดน้อยที่สุดในกลุ่มจะเอ่ยขึ้นเสียงเข้ม ในใจรู้สึกไม่พอใจนิด ๆ ที่เพื่อนทั้งสองพูดแบบนั้นกับเทียนหอม ถึงจะรู้ว่ามันสองคนไม่คิดอะไรเกินเลยก็ตามเถอะ แต่ใครจะไปรู้ว่าพวกมันไม่ได้มองเทียนหอมอย่างที่ผู้ชายคนอื่นเขามองกัน
“ล้อเล่นน่า มึงก็หวงก้าง มีน้องสาวสวยตั้งสองคนก็อดห่วงไม่ได้” ตรัยคุณยังทำปากหวาน ครามก็เพิ่งรู้ตัวว่าทำตัวเป็นหมาหวงก้าง แล้วเขามีสิทธิ์อะไรจะไปหวงเธอได้ พี่แท้ ๆ รึก็ไม่ใช่
“ห่วงเทียนคนเดียวเถอะ” ใยไหมไม่ใช่คนที่เงียบและเรียบร้อยเหมือนเทียนหอม บุคลิกภายนอกจึงดูไม่น่าห่วงเท่ากับอีกฝ่าย