บท
ตั้งค่า

ตอนที่4 ถูกทำร้าย

ถ้อยคำของสามีที่เอ่ยมา ราวกับสายฟ้าฟาดลงมากลางศีรษะของซูเหลียนชิงเสียอย่างนั้น นางยืนอึ้งตะลึงงันไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่า เขาจะกล้าขอหย่าร้างกับนาง เพียงเพราะหญิงชั่วช้าที่พึ่งนำพาเข้ามาได้ไม่ถึงวัน

หรืออาจเป็นเพราะเขาคิดอ่านมาเป็นอย่างดีแล้ว นางได้แต่จ้องหน้ามองเขา ด้วยแววตาที่โศกเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง รีบเข้าไปกอดแข้งขาของหลี่เฉิง อ้อนวอนเป็นครั้งสุดท้าย “ท่านพี่ ท่านพี่ไม่นะเจ้าคะ ข้ารักท่าน”

“คำว่ารักของเจ้ามันเพียงพอหรือไม่ ลองใคร่ครวญเสียใหม่ หากยังอยากเป็นฮูหยินของข้า ควรกระทำสิ่งใดเจ้าคงจะรู้ดีนะ” หลี่เฉิงไม่พูดพร่ำอันใดอีก สะบัดขาอย่างนึกรังเกียจฮูหยินที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา

“ฮูหยินเจ้าคะ กลับเรือนกันเถิดเจ้าค่ะ” เผยอันเจ็บใจนัก ไม่คิดว่านายท่านจะเป็นคนเห็นแก่ตัวถึงเพียงนี้ ความดีตั้งมากมายที่ฮูหยินได้กระทำมามิมีสลักสำคัญเลยหรืออย่างไรกัน

“ข้ารู้แล้ว” บัดนี้ซูเหลียนชิงกระจ่างแจ้งแล้ว ในเมื่อเขามีใหม่มิต้องการภรรยาผู้นี้ เช่นนั้นก็คงต้องกลับไปเรือนนอน เพื่อสงบสติอารมณ์ นางหยัดกายลุกขึ้น จ้องมองเขาด้วยสายตาชิงชัง แสยะยิ้มร้ายออกมา

จากใบหน้าที่อวบอิ่มแทบจะกลายเป็นสตรีอวบอ้วนอัปลักษณ์ จึงถามเขาอีกหนึ่งคำรบ “เจ้าค่ะ หากท่านยังยืนกรานเช่นนั้น ขอถามว่าที่ผ่านมา ข้าไม่มีความดีเหมาะสมหรือคู่ควรกับท่านเลยหรืออย่างไรกัน”

นางเสียใจจนพูดอะไรไม่ถูก ความเจ็บปวดนี้ผู้ใดจะรับรู้เช่นนางบ้าง ถูกสามีหมางเมิน แววตาเย็นชา อีกทั้งยังไม่เข้าใกล้นาง คงเป็นเช่นนี้สินะ

พักหลัง ๆ มานี้ เขาไม่มาพบนางเลย มักออกทำงานต่างเมืองเสมอ กลับบ้านก็พักอยู่แต่ในเรือนใหญ่ ไม่แวะเวียนมาสอบถามความเป็นอยู่ เขาเย็นชากับนางเช่นนี้นับตั้งแต่ที่สอบติดและได้รับราชการ ไม่นานนักเขาก็เริ่มห่างเหินและเย็นชาไปในที่สุด

“...” ชายหนุ่มเงียบเสียงไป ไม่พูดอันใดต่อ เห็นสีหน้าและแววตาของนาง ที่จ้องมองมา เขารู้สึกประหลาดใจนัก สายตานี้เหตุใดมันจึงดูว่างเปล่า ราวกับว่านางหาได้สนใจเขาอีกต่อไปแล้ว

ทว่าสตรีกำลังตั้งครรภ์ กลับเสนอหน้า เอ่ยขึ้นว่า “พี่สาวเจ้าคะ อย่าเพิ่งน้อยใจไปเลยเจ้าค่ะ ท่านพี่คงกำลังเครียดกับงาน พี่สาวกลับเรือนพักก่อนนะเจ้าคะ พรุ่งนี้ตู้จิ่นจะไปยกน้ำชาคารวะเจ้าค่ะ”

ก็แค่นางเสแสร้ง หวังให้หลี่เฉิงรักและเมตตานางมากกว่านี้ จึงทำกิริยาอ่อนหวานและน่ารัก เข้าอกเข้าใจเขาเป็นอย่างดี ตู้จิ่นจะไม่ยอมปล่อยใต้เท้าหลี่เฉิงหลุดมือไปเป็นอันขาด

“เหตุใดต้องเป็นวันพรุ่งนี้เล่า วันนี้ไม่ได้หรือไร ในเมื่อเจ้าเข้ามาเป็นฮูหยินรองแล้ว ก็ควรทำตามขนบธรรมเนียม” นางเอ่ยเสียงแข็งกระด้าง จ้องมองไปยังสตรีที่นอนอยู่บนเตียง โดยมีสามีเป็นคนปลอบประโลม เอาอกเอาใจอยู่ไม่ห่าง

เมื่อซูเหลียนพูดจบ หลี่เฉิงก็หันขวับกลับมาอย่างไม่พอใจอีกหน “ไม่เห็นหรือ ว่านางกำลังตั้งครรภ์” ชายหนุ่มคร้านสนทนากับคนไร้สมอง จึงลุกขึ้นจากเตียงนอน กระชากลากแขนของฮูหยินออกไปจากห้องนี้

แม้จะมีเผยอันที่คอยช่วยห้ามปราม แต่เขาก็หาได้สนใจไม่ พ่อบ้านเฉาปาดเหงื่อที่ผุดพรายขึ้นบนหน้าผากไม่หยุดหย่อน ที่เห็นว่าบัดนี้เรื่องราวได้บานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว

เห็นทีว่าต้องรีบส่งจดหมายด่วนให้ฮูหยินผู้เฒ่ากลับมาจากการสวดมนต์ขอพรที่อาราม ก่อนที่เรื่องทุกอย่างจะสายเกินไป

แม้สามีออกปากห้าม นางก็ยังถือดีเช่นเดียวกัน “เผยอัน ไปนำน้ำชามาให้ฮูหยินรอง”

“เจ้าค่ะฮูหยิน” เผยอันรับคำ ยังไม่ทันไร นายสาวของนางก็ล้มลงพื้นเสียแล้ว นางหันไปกำลังจะประคอง กลับถูกนายท่านถีบเสียจนหงายหลังไปอีกคน

หลี่เฉิงบีบคอภรรยา น้ำเสียงแข็งกร้าว ดวงตาคมกริบอาบไปด้วยเพลิงโทสะที่ลุกโชน “เจ้ากล้าดีอย่างไรให้นางคารวะน้ำชาลูกสาวพ่อค้าเยี่ยงเจ้า ถึงนางจะเป็นเมียรอง แต่ข้าไม่มีทางยอมให้นางคุกเข่าต่อหน้าเจ้าเป็นอันขาด” เขาตะคอกเสียงดังกังวาน

ซูเหลียนชิงถูกบีบที่ลำคอจนใบหน้าแดงก่ำ ลมหายใจแทบจะขาดหาย นางพยายามใช้มือทุบตีให้เขาปล่อย ด้วยความทรมานแทบจะสิ้นใจตรงหน้าเสียให้ได้

เผยอันรีบเข้ามาดึงแขนของหลี่เฉิงออก แต่ก็เขายังไม่ยอมปล่อย ยังคงบีบคออยู่เช่นนั้น สิ้นสุดความอดทนอดกลั้น

ซูเหลียนชิงดึงปิ่นปักผมที่ศีรษะออก แล้วแทงเข้าไปที่ไหลกว้าง จนเขาต้องปล่อยมือออก แล้วพยายามจะทำร้ายนางอีกหน แต่หนนี้หญิงสาวไม่ยอมจำนน ยกเท้าขึ้นแตะเข้าที่หว่างขาของหลี่เฉิง เข้าให้อย่างจัง

นางยิ้มเยาะ หัวเราะทั้งน้ำตา ที่เห็นสามีล้มลงแล้วกุมมือที่เป้าของตนเอาไว้ หน้าดำหน้าแดง เพราะทรมานแทบขาดใจ “เจ้าไม่ยอมก็ไม่เป็นไร หากท่านคิดจะให้ข้าลงนามหย่าให้ละก็ ให้นางไปคุกเข่าอ้อนวอนข้า ให้ลงนามหย่า มิเช่นนั้น ข้าจะอยู่ที่นี่ รอดูว่าพวกเจ้าจะเอาปัญญาที่ไหนมาเสพสุขบนกองเงินกองทองของข้าอย่างไร”

ตู้จิ่นหน้าเผือดสี รีบลงจากเตียงนอนมาดูสามี “ท่านพี่ ท่านพี่เจ็บมากหรือไม่เจ้าคะ” คาดไม่ถึงว่าซูเหลียนชิงจะร้ายกาจถึงเพียงนี้ “พี่สาว ท่านลงมือหนักไปหรือไม่”

“ลงมือหนักหรือ...เป็นเขาต่างหากที่หมายปองชีวิตของข้า หากเจ้าถูกบีบคอเกือบตายจะยืนรอให้เขาลงมืออย่างนั้นสินะ” ซูเหลียนชิงย่างสามขุม จ้องมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา

เผยอันไม่ห้าม เพราะยามนี้ฮูหยินนั้นหาได้อ่อนโยนอ่อนหวานแสนดีอีกแล้ว สายตาคู่งามจ้องมองใบหน้าของฮูหยินรองที่ถอยหลังแล้วหงายหลังลงบนเตียงพอดิบพอดี

หลี่เฉิงแม้เจ็บปวดเป็นอย่างมาก กัดใจลุกขึ้นมาช่วยเหลือภรรยารัก คิดจะเข้าไปห้ามปราบ แต่ก็ถูกฮูหยินตวัดฝ่ามือฟาดเข้าให้ที่ใบหน้าอย่างจังอีกครั้ง หนนี้ชายชั่วถึงกับหน้าหันตามแรงฝ่ามือที่กระทบหน้าให้อย่างจัง

“เป็นเจ้าที่ทำร้ายข้า เป็นเจ้าที่ทำให้ข้าสิ้นสุดความอดทน ทำไมข้าเป็นลูกพ่อค้ามันผิดตรงไหน เงินที่เจ้าใช้จ่าย มิใช่เงินทรัพย์สินของท่านพ่อข้าหรือ เจ้าสามีชั่วช้า คิดอาจกำแหงนัก

ข้าคุกเข่าอ้อนวอนเจ้า หวังให้เจ้าคิดถึงความทุกข์ยากแต่หนหลัง แต่เจ้ากลับหลงลืมสิ้นความรักของข้าที่มอบให้ เพื่อนางปีศาจตัวนี้แล้ว เจ้ากล้าทำร้ายข้า บีบคอข้าหวังให้ข้าตายต่อหน้าเจ้าสินะ” พอนางทำบ้าง ก็คิดว่านางร้าย

แต่ใครเล่าจะกลายเป็นผู้ถูกกระทำเพียงฝ่ายเดียว ถึงจะเป็นบุตรีของพ่อค้า อีกอย่างพี่ชายของนางเป็นถึงกุนซือแห่งตงเป่ย แล้วชายชั่วผู้นี้ถือดีอย่างไรมาเหยียดยามพี่ชายและครอบครัวของนาง

เมื่อเป็นเช่นนี้ก็คงต้องทำให้เขาได้ประจักษ์แก่สายตาแล้วว่า นางมิใช่จะข่มเหงรังแกกันได้ง่าย ๆ เหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะหนนี้นางจะไม่ยอมเป็นผู้ถูกกระทำอีกแล้ว

“ส่วนเจ้า ถ้าหากพรุ่งนี้ไม่ไปยกน้ำชา ให้ข้าละก็ ข้าจะถลกหนังเจ้า” นางข่มขู่ ไม่คิดจะลงมือกับคนกำลังท้อง นางมิใช่ปีศาจโหดร้ายเสียขนาดนั้น ถึงอย่างไรเจ้าก้อนแป้งก็หาได้มีความผิดไม่

“พี่สาว อย่าทำร้ายข้าเลยเจ้าค่ะ” ด้วยความหวาดกลัว คิดว่าอีกฝ่ายจะทำร้ายจริง ๆ จึงรีบยกมือขึ้นป้องกันใบหน้าเอาไว้ หวั่นว่าจะถูกทำร้ายจนเสียโฉม

“ช่างปากดีนัก ไหน ๆ คิดว่าทำร้ายเจ้าแล้ว ก็ขอสักทีเถอะ” ในเมื่อตู้จิ่นผู้นี้ออกปากเช่นนี้แล้ว นางก็จะมอบรสชาติความเจ็บปวดว่ามันเป็นเช่นไร

เพียะ...เสียงฝ่ามือฟาดเข้าที่ใบหน้าของตู้จิ่น จนหน้าหันซ้ำยังมีโลหิตซึมที่มุมปาก หลี่เฉิงเห็นเมียรักถูกรังแก เขาก็ปรี่เข้ามาอีกครา

เพียะ...แต่หนนี้เป็นซูเหลียนชิงพลาดไป ถูกเขาตบจนหน้าหัน แล้วล้มลงกระแทกพื้น มองอีกฝ่ายอย่างเคียดแค้น ชิงชังสุดหัวใจ ได้แต่กล่าวโทษตนเองว่ามิน่าหูหนวกตาบอดเพราะรัก จนทำให้นางตกอยู่ในสภาพเช่นนี้

“นางปีศาจอย่างเจ้า ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้าจะชั่วช้าถึงเพียงนี้ พวกเจ้าจงมองนางให้ดี นางเป็นคนทำร้ายฮูหยินรองที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ เจ้ามีความผิดมากมาย ข้าจะหย่ากับเจ้า”

หลี่เฉิงเดือดดาลมากโข ส่งเสียงคำรามต่อว่ากึกก้อง แล้วเข้าไปประคองคนรัก พร้อมกับซับเลือดที่มุมปากให้นางอย่างอ่อนโยน ตู้จิ่นถูกตบไปเพียงครั้งเดียวถึงกับหวาดผวาเนื้อตัวสั่น ซบใบหน้าลงแผงอกด้วยความหวาดกลัว

ซูเหลียนชิงเห็นเช่นนี้ก็ยิ่งเจ็บปวด คำพูดของเขาที่ออกมานั้น ก็คือคำว่าหย่าร้าง จากภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก จนกว่าจะมีวันนี้ นางหมดทรัพย์สินไปตั้งมากมาย ต้องโทษที่ตนเองนั้นโง่เขลา ให้เขาใช้คำหวานหยอดจนหลงเชื่อว่าเขารักนางจริง ๆ สุดท้ายเขาก็ไปคว้าสตรีต่างเมืองมาเป็นภรรยา ทั้งดูแลและปกป้อง

ส่วนนางก็ได้แค่มองคนทั้งสอง กำลังห่วงใยในกันและกัน เช่นนั้นแล้ว นางจึงเอ่ยปากขึ้นอีกคราว่า “ได้ หากอยากให้ข้าลงนามหย่าแล้วละก็ ก็ให้นางมาคุกเข่าวิงวอนข้าสิ ข้าจะลงนามให้”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel