บท
ตั้งค่า

ตอนที่3 ปกป้อง

“ฮูหยินจะดีหรือเจ้าคะ” สีหน้าของเผยอันไม่ใคร่สู้ดีนัก เอ่ยทักถามมิอยากให้ฮูหยินของตนเสียเกียรติไปมากกว่านี้

“เร็วสิ” ซูเหลียนชิง พยักหน้าอีกครั้ง ไล่เผยอันให้ไปเคาะประตู วันนี้นางยอมลดความถือดี ขอเพียงแค่ให้เขาหันมารักใคร่นางเช่นเดิม

ทางด้านเรือนใหญ่นั้น บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความอบอุ่น เมื่อฝ่ายชายก็คือหลี่เฉิงกำลังประคองภรรยาคนใหม่ ให้รับอาหารมื้อค่ำ โดยมีเขาคอยดูแลเอาใจใส่ “จิ่นเอ๋อร์ รับอาหารให้มากหน่อยนะ กำลังท้อง พรุ่งนี้ข้าจะหาคนมาดูแลเจ้า”

“ท่านพี่ ทำไมแสนดีกับข้าถึงเพียงนี้ ป่านนี้พี่สาวคงน้อยใจท่านแย่แล้ว” นางเอ่ยเสียงสั่น เสแสร้งแกล้งเป็นเห็นใจสงสารซูเหลียนชิงจับใจ

“หากข้าไม่ได้เจ้า จนป่านนี้ไหนเลยข้าจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าผู้ตรวจการเล่า” เขาอมยิ้ม แล้วยังป้อนโจ๊กร้อน ๆ ให้นางอีกครั้ง

หญิงสาวกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง เบือนหน้าหนี “ข้าเบื่อโจ๊กเจ้าค่ะ อยากรับอาหารอย่างอื่น” ตู้จิ่นเงยหน้ามองผู้เป็นสามี เขาอ่อนโยนต่อนางนัก แต่กลับแสดงความร้ายกาจต่อฮูหยินเอกที่ร่วมทุกข์ยากด้วยกันมา

“เช่นนั้น พรุ่งนี้ข้าจะบอกพ่อบ้านเฉาก็แล้วกัน เจ้าอยากได้อะไรก็บอกพ่อบ้านก็ได้ พรุ่งนี้ข้าจะต้องเข้าวังหลวง เพื่อรายงานเรื่องที่ไปตรวจสอบมา”

“เจ้าค่ะท่านพี่” นางกดยิ้มอย่างพร่างพราว สีหน้าของนางดีขึ้นมากแล้ว ไม่มีอาการวิงเวียนคลื่นไส้แต่อย่างใด เดิมทีครอบครัวตระกูลหลี่ เคยทาบทามนางมาเป็นสะใภ้

แต่เพราะท่านพ่อของนางเห็นเขายากจนไม่มีอันจะกิน พอผ่านไปพริบตาเดียว ได้พบเขาอีกครั้งมีตำแหน่งเป็นถึงรองผู้ตรวจการแล้ว แล้วมารู้อีกทีว่า...เขามีภรรยาเป็นบุตรสาวของพ่อค้า

เช่นนี้ก็ยิ่งทำให้ตู้จิ่นมั่นอกมั่นใจว่า เขาต้องร่ำรวยยิ่งนัก โดยเฉพาะฮูหยินของเขาที่เป็นถึงลูกสาวของเถ้าแก่ซูผู้ร่ำรวย แต่ไหงตลอดเวลาที่นางอยู่กับเขา เขากลับบอกกับนางว่า เถ้าแก่ซูนั้นมิใช่พ่อตากันเล่า

นางหาได้เข้าใจไม่ ครั้นมาถึงที่เรือนนี้ แจ้งแก่ใจในทันที ที่แท้สตรีนางนี้ก็ถูกบิดาตัดขาดไปแล้วนี่เอง แต่กระนั้นนางก็หาได้สนใจไยดี เพราะนับตั้งแต่ที่นางได้ตกเป็นของเขาแล้ว ตำแหน่งที่นางใฝ่ฝันนั่นก็คือ ฮูหยินของท่านผู้ตรวจการ

“ท่านพ่อของข้า เป็นนายอำเภออเล็ก ๆ จะช่วยท่านพี่ได้อย่างไร เพียงแค่ส่งรายงานยกความดีให้ท่านเท่านั้น แต่ก็คิดไม่ถึงว่าหวงตี้มีพระเนตรกว้างไกลนัก เลื่อนขั้นให้เป็นรองหัวหน้าผู้ตรวจการแล้ว”

“อีกไม่กี่ปีตำแหน่งหัวหน้าผู้ตรวจการ ย่อมต้องเป็นของข้า ยามนั้นข้าจะพาเจ้ากลับไปเยี่ยมบ้านอย่างยิ่งใหญ่” กว่าเขาจะมีวันนี้มันไม่ง่ายนักต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเพียงใด

นับว่ายังโชคดีที่หนนั้นมีขบวนแห่ยินดีว่าเขาสอบติดราชการ ทำให้คนในหมู่บ้านร่วมมาชื่นชมยินดี แล้วจึงได้พบกับนางในดวงใจอีกครั้ง จึงค่อย ๆ สานสัมพันธ์กันมาตั้งแต่ครานั้น ฝ่ามือหนาไล้กรอบหน้าภรรยา แล้วกดจมูกโด่งลงที่หน้าผากมน โดยที่ไม่รู้เลยว่าฮูหยินของเขาได้ออกมาจากห้องนั้นแล้ว

“ท่านพี่” ซูเหลียนชิงคุกเข่าลงบนพื้น มองสามีที่กำลังพลอดรักสตรีอีกคนต่อหน้าต่อตา ภายในใจล้วนเจ็บแปลบราวกับว่าถูกเข็มนับพันนับหมื่นทิ่มแทงซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ชายหนุ่มผู้ถูกเรียกหันกลับมา เขาชักสีหน้าหาได้อ่อนโยนแสนดีเหมือนเมื่อครู่แล้ว “เจ้ามาทำไม ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือไรหากสำนึกได้ถึงออกมา พ่อบ้านเฉา” เขาไม่ฟังเสียงนาง กลับตวาดเสียงดัง เอ่ยถามหาพ่อบ้านเฉา ที่ยืนปาดเหงื่ออยู่ด้านนอก

พ่อบ้านเฉาเดินเข้ามา ก้มหน้าก้มตาด้วยความผิด “นายท่านขอรับ ฮูหยินบอกว่า”

“นางบอกอะไรเจ้าก็เชื่อหรือไร ทำไมกัน คำพูดของข้ามันไร้ความหมายเช่นนั้นหรือ” หลี่เฉิงสีหน้าอำมหิตนัก แม้กระทั่งพ่อบ้านผู้นี้จะเป็นญาติห่าง ๆ ทางฝั่งมารดาหามาให้ เขาก็ไม่มีความเคารพนบน้อม แต่กลับวางท่าถือดีเสียยิ่งกว่า ผู้ที่จ่ายเบี้ยหวัดรายเดือนให้กับเหล่าคนงาน

“ท่านพี่ ฟังพี่สาวอธิบายก่อนนะเจ้าคะ” ตู้จิ่นดึงแขนเสื้อของสามีเอาไว้ เอ่ยน้ำเสียงหวานรื่นหูยิ่งนัก จนทำให้ชายชราผ่อนความเคร่งเครียดลงมาได้บ้าง ที่เห็นว่านายท่านนั้นนั่งลงอีกครั้งแล้ว

ส่วนซูเหลียนชิงข่มความไม่พอใจเอาไว้ เห็นสีหน้าและแววตาของนางจิ้งจอก ก็อยากถลกหนังนางนัก สตรีนางนี้เป็นใครมาจากไหนกัน เหตุใดสามีของนางถึงรักถึงหลงถึงเพียงนี้

“เจ้าเห็นหรือไม่ จิ่นเอ๋อร์แสนดีเพียงใด กระทั่งเจ้าคิดทำร้ายนาง แต่นางก็หาได้ถือโทษโกรธเจ้าสักนิด” หลี่เฉิงยกยอเมียรองทันที ชมเชยเมียผู้นี้ต่อหน้าเมียเอก

“เจ้าค่ะ เป็นข้าที่ผิดเอง เป็นข้าล้วนเป็นข้าเจ้าค่ะ” ซูเหลียนชิงกล้ำกลืนฝืนกลืนก้อนขมขื่นลงคอไป นางยังคงคุกเข่าอยู่เช่นนั้น สามีของนางไม่แม้แต่จะเข้ามาประคองให้นางลุกขึ้น กลับเหยียดหยามนางด้วยสายตาดูแคลน

ซ้ำยังเอ่ยวาจาเหน็บแนมนางว่า “เมื่อก่อนข้าเห็นว่าเจ้าเป็นภรรยาที่ดี ข้าให้โอกาสเจ้าพิสูจน์ตัวเอง แต่ยามนี้ดูสิ เจ้าละเลยเพียงใด ปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนอัปลักษณ์ จะไปที่ใดข้ารู้สึกอับอายนักเลยไม่มีความคิดนำพาเจ้าไปงานเลี้ยงด้วยอย่างไร

เจ้าดูจิ่นเอ๋อร์เป็นตัวอย่าง แม้นางกำลังตั้งท้องลูกของข้า ใบหน้า กิริยา ล้วนเป็นสตรีในห้องหอเพียบพร้อมด้วยฐานะ รูปโฉม และสติปัญญา หาใช่เหมือนกับเจ้า ที่เป็นเพียงแค่ลูกสาวพ่อค้า ตำแหน่งฮูหยินเอกนี้ถือว่ามากเกินไปเสียด้วยซ้ำ”

คำพูดของเขาล้วนทิ่มแทงเสียดสีมิหยุดหย่อน และไม่ใช่ลูกพ่อค้าคนนี้หรือ สนับสนุนจนเขาสอบติดได้รับราชการ ไม่ใช่ลูกพ่อค้าคนนี้หรือ หาเงินให้เขาเสพสุขความสุขสบาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า อาหาร กระทั่งรองเท้านางก็เป็นคนปักให้ แล้วเหตุใดกัน เขาจึงพูดจาทำร้ายใจนางครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นนี้

“ท่านพี่จะเปรียบเทียบเช่นนี้มิได้ ข้าเป็นเพียงแค่ลูกสาวนายอำเภอเล็ก ๆ ไหนเลยจะสู้พี่สาวที่เป็นถึงบุตรสาวเพียงคนเดียวของเถ้าแก่ซูได้เจ้าคะ” ตู้จิ่นจีบปากจีบคอเอ่ยเสียงหวาน มือเรียวนางกุมมือของหลี่เฉิงเอาไว้ คิดว่าอีกไม่นานนัก ด้วยนิสัยอันร้ายกาจของซูเหลียนชิงจะต้องอาละวาดอีกครั้งเป็นแน่

“ทันทีที่นางมาอยู่กับข้า เถ้าแก่ซูก็ตัดขาดนางแล้ว แม้มีพี่ชายรับราชการอยู่ที่หัวเมืองใหญ่ แต่ก็มิเคยสนับสนุนอันใดข้า ผิดกับเจ้านัก ท่านพ่อของเจ้ามีเมตตา สนับสนุนข้าจนมีตำแหน่งที่มั่นคงถึงเพียงนี้”

หนึ่งตำหนิฮูหยินเอกที่ไม่ได้ดั่งใจ

สองชมเชยฮูหยินคนใหม่ ต่อหน้าต่อตาภรรยาที่ถูกหมางเมิน

เผยอันอดรนทนไม่ไหว เห็นว่านายท่านผู้นี้ตำหนินายสาวของนางไม่หยุดหย่อน จึงรีบเข้ามาพยุงให้นางลุกขึ้น ผู้ที่คุกเข่าอยู่เจ็บใจนักจนพูดไม่ออก ขาและแขนไร้เรี่ยวแรง คำพูดของเขาหมายความว่าอย่างไรกัน สามปีมานี้นางทำทุกอย่าง มันไม่มีค่าให้เขาเหลียวมองเลยหรือ

“เสียแรงที่ท่านแม่ข้ารักเอ็นดูเจ้า แต่ดูสิ่งที่เจ้าทำกับท่านแม่ของข้า กล้าดีอย่างไรบอกให้นางไปสวดมนต์ขอพรในที่ลำบากเยี่ยงนั้น” นึกแล้วก็เจ็บใจนัก มารดาเขาอายุก็มากแล้ว นางยังขับไล่ให้ไปขอพรที่อาราม หากไม่มีคนส่งข่าวไปบอก เขาก็คงกลายเป็นคนโง่ที่ถูกนางตบตาและหลอกลวง

“นายท่าน มิใช่เช่นนั้นนะเจ้าคะ นายท่านเข้าใจผิดแล้ว” เผยอันร้อนใจนัก รู้ทั้งรู้ว่าห้ามสอดปากยามที่เจ้านายพูดคุยกัน แต่นางเจ็บใจเหลือเกิน ที่นายสาวไม่บอกความจริงไป มัวแต่ยืนอ้ำอึ้งอยู่เช่นนี้ ก็ปล่อยให้เข้าใจผิดอยู่ได้ เผยอันเลยถือวิสาสะสอดปากโพล่งขึ้นทันใด

“หุบปากเสีย เจ้าเป็นแค่สาวใช้ กล้าขึ้นเสียงกับข้าเชียวหรือ พ่อบ้านเฉาจับนางไปโบย แล้วโยนออกจากจวนสกุลหลี่” หลี่เฉิงโมโหโทโสนัก สาวใช้ผู้นี้ช่างกล้าบังอาจสอดปากขึ้นมา เห็นทีว่าจะต้องจัดการให้หลาบจำ

“หยุดนะ หากเจ้าแตะต้องคนของข้าจะเห็นดีกัน” ซูเหลียนชิงยื่นแขนกางออก ปกป้องสาวใช้ของนาง แววตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง ชายผู้นี้คิดจะตีคนก็จะตีคนได้เช่นนั้นหรือ

และที่สาวใช้พูดมาก็เพื่ออยากปกป้องนางเท่านั้น แต่ทำไมเขาจึงกลายเป็นคนไร้เหตุผลนี้ อีกทั้งนางปีศาจนั่นยังยิ้มเยาะไม่หยุดหย่อน นิ้วมือทั้งสิบของนางแทบจะยกขึ้นไปข่วนหน้าของนางจิ้งจอกตัวนี้นัก

ทว่า หลี่เฉิงกลับประกาศกร้าว ยื่นคำขาดออกไปว่า “หากยังไม่เชื่อฟังกันละก็ เจ้ากับข้าก็หย่ากันเสีย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel