ตอนที่2 ข้าสำนึกแล้ว
เผยอันยืนอยู่หน้าประตู จะเข้าไปห้ามนายสาวแต่ก็ไม่กล้า ยิ่งเห็นสายตาอำมหิตของนายท่านที่มองมา ก็ยิ่งทำให้เข้าใจแล้วว่า บัดนี้นายท่านกำลังรัก กำลังหลงฮูหยินคนใหม่ ที่สะสวยกว่าฮูหยินที่รวมทุกข์ร่วมสุขกันมาถึงสามปี
พ่อบ้านเฉาทำตามที่นายท่านสั่ง ให้สาวใช้มาลาก...ต้องเรียกเช่นนี้ถึงจะถูก เพราะหิ้วปีกลากฮูหยินเอกเข้าไปในห้องนอนของเรือนหลังเล็กทางด้านซ้ายมือ
พอมาถึงห้องแล้ว ฮูหยินไม่อาจข่มความเครียดทั้งหมดที่มี นางกรีดร้องโวยวายอยู่ในห้องไม่หยุดหย่อน แล้วจับบรรดาของมีค่าทั้งหมดปาลงพื้นจนแตกเป็นเสี่ยง ๆ
เพล้ง
เสียงโครมครามดังขึ้นไม่นานนักก็สงบลง ด้วยเพราะของมีค่าที่ติดตัวมานั้น ได้ขายไปแทบจะหมดสิ้น เพื่อช่วยเหลือสามีได้รับราชการ นางยินยอมขายทรัพย์จำนวนไม่น้อย เพื่อจัดหาอาหารชั้นเลิศบำรุงเขาทุกมื้อ ไม่เพียงไม่สำนึกในความดีของภรรยาที่เพียรกระทำมา
หากแต่ยามนี้เขาได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วก็คิดจะผลักไสฮูหยินผู้นี้ทิ้งไปเช่นนั้นหรือ ยามนี้ภายในห้องจึงเหลือเพียงแค่สาวใช้กับนายสาว ที่นั่งหายใจอย่างเหนื่อยหอบ จนต้องยกมือขึ้นทาบอก รู้สึกแทบจะขาดใจก็ว่าได้
เผยอันเห็นเช่นนี้ก็ยิ่งร้อนใจนัก จะผลักประตูออกไปเพื่อไปตามท่านหมอ แต่ประตูกลับถูกปิดเอาไว้แน่นยิ่งนัก ออกแรงผลักไปหลายเฮือก ทั้งส่งเสียงออกไป “เปิดประตูให้ข้าที ฮูหยินไม่สบาย ฮูหยินไม่สบาย เปิดประตูให้ข้าที”
แม้จะออกปากร้องเสียงดังอย่างไร ก็หาได้มีผู้ใดให้ความสนใจมาเปิดประตูให้ เหลียวมองไปยังฮูหยินที่ยกมือทาบอก สีหน้าย่ำแย่ไม่น้อยนัก ยกมือกวักเรียกสาวใช้ “เผยอัน เผยอันมานี่” น้ำเสียงแผ่วเบาราวกับแทบจะสิ้นเสียงก็ว่าได้
“ฮูหยินเจ้าคะ หายใจลึก ๆ เจ้าค่ะ” เผยอันร้อนรนทั้งร้อนใจ รีบกระวีกระวาดหยิบพัดที่เสียบเอาไว้หัวเตียงนอน โบกพัดไปมาอย่างเร่งมือ “ฮูหยินดีขึ้นหรือไม่” สาวใช้ผู้นี้แทบร่ำไห้ออกมา เมื่อเห็นสีหน้าขาวซีดก็ยิ่งเป็นห่วงแทบขาดใจ
“ข้าไม่เป็นไร ไม่เป็นไร แต่ข้าแค้นคนพวกนั้นนัก” พอพยายามทำใจ ซูเหลียนชิงสกัดกั้นเพลิงโทสะที่แผดเผากลางใจ จวนเจียนแทบจะทำให้กระอักเลือดเพราะความแค้นออกมา “วันนี้เขากล้าผลักข้า วันหน้าเขาจะทำอันใดกับข้าอีก”
“ฮูหยินอย่าเพิ่งร้อนใจเลยเจ้าค่ะ นายท่านอาจกำลังลุ่มหลงสตรีนางนั้น” เผยอันเห็นแววตาห่วงหา ก็ยิ่งฝังใจว่า นายท่านหลี่กำลังหลงใหลสตรีนางนั้น และนางมีที่มาที่ไปอย่างไร
“ลุ่มหลง จนลืมเลือนเมียคนนี้นะหรือ” ซูเหลียนชิงค่อนขอดตัดพ้ออย่างน้อยอกน้อยใจ กำหมัดแน่นลงเล็บจิกเข้าที่ฝ่ามือเพื่อสยบความเคียดแค้นที่แผดเผาในขณะนี้
“...” เผยอันไม่รู้จะปลอบใจนายสาวอย่างไร ได้แต่นั่งกอดผู้เป็นนายสาวอยู่บนเตียงนอนกว้างเท่านั้น เมื่อก่อนฮูหยินของนางมิเคยถูกผู้ใดข่มเหงรังแกเช่นนี้ เป็นถึงสาวงามแห่งเมืองเฉิงหยาง
แล้วเป็นไข่มุกบนฝ่ามือของเถ้าแก่ซู อีกทั้งยังเป็นหลานรักของท่านยายแซ่ไป๋ แต่เหตุใดกันคุณหนูผู้งดงามจึงหมายปองชายหนุ่มต่ำศักดิ์ จนกระทั่งตัดขาดจากครอบครัว
บัดนี้ชายผู้นี้หลงลืมความหลังครั้งเก่าก่อน ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาถึงสามปี พอไปทำงานต่างเมืองได้ไม่นาน กลับไปคว้าสตรีเข้ามาเป็นฮูหยินรองอีกคน ผู้ใดเล่าจะทนได้กันที่เห็นว่าสามีผู้ร่วมทุกข์ยากนั้นลืมเลือนสิ้นความรักที่มีมา
เผยอันยังคงนั่งกอดปลอบใจฮูหยินอยู่เช่นนั้น เสียงสะอึกสะอื้นไม่มีอีกแล้ว หลงเหลือเพียงแค่สีหน้าหม่นหมองดวงตาบวมช้ำอยู่ไม่น้อย “ฮูหยินเจ้าคะ ดีขึ้นหรือไม่ พวกเราคงออกจากห้องไม่ได้เจ้าค่ะ”
“ข้าดีขึ้นแล้ว” เสียแรงที่รัก เสียแรงที่ไว้ใจ ไม่คาดคิดไม่คาดฝันมาก่อนว่า ชายที่นางรักและปรารถนาดีต่อเขา จะเปลี่ยนแปลงไปถึงเพียงนี้ พอเริ่มมีอำนาจ มีชื่อเสียง พ่วงด้วยเงินทอง บัดนี้นางกลับกลายเป็นสตรีไร้ค่ากลายเป็นคนไร้ประโยชน์ไปแล้ว
ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาก็เป็นนางขายเครื่องประดับ นำไปจำนำเพื่อให้ได้เงินมาใช้จ่ายในครอบครัว อาหารทั้งคาวและหวานมิเคยขาดแคลนสักมื้อ สรรหาของบำรุงร่างกาย เพื่อให้เขาได้รับการบำรุง จนกระทั่งสอบติดลำดับที่สาม
เมื่อหลี่เฉิงทำงานในราชสำนักไม่นาน จากขุนนางตัวเล็ก ๆ ชั้นปลายแถว ยามนี้กลายเป็นผู้ช่วยของท่านผู้ตรวจการ มักเดินทางต่างเมืองเสมอ ส่วนภรรยาได้รับหน้าที่มอบหมายให้อยู่เฝ้าเรือน ตามคำสั่งของผู้เป็นสามี
ทว่า...มันก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝัน ที่จู่ ๆ หลี่เฉิงก็พาเมียรอง เข้ามาอีกคน ซ้ำยังประกาศว่านางกำลังตั้งครรภ์ลูกของเขาอีกด้วย สตรีผู้นี้เป็นใครกันแน่
ยามนี้ซูเหลียนชิงได้สติคืนมาจึงเอ่ยขึ้นว่า “ไปเรียกพ่อบ้านเฉามาหาข้า บอกว่ามีเรื่องไหว้วาน”
“ฮูหยินจะทำสิ่งใดเจ้าคะ” เผยอันยังไม่ไว้วางใจ เกรงว่าฮูหยินอาจทำอะไรที่ไม่คาดคิดคาดฝันอีก
“มื้อค่ำข้ายังไม่ได้รับเลย แล้วเจ้าดูสิ คนพวกนั้นจะกินอิ่ม นอนหลับโดยที่ใช้เงินของข้าเช่นนั้นหรือ” เงินจำนวนไม่น้อย ที่นางใช้จ่ายจนทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น กระทั่งอาภรณ์ที่เขาสวมใส่ ก็ยังเป็นเงินของนางจัดหาให้เขา และยามนี้เล่าพอมีทุกอย่างสมใจแล้ว เขาก็คิดที่จะเขี่ยนางทิ้งเช่นนั้นใช่หรือไม่
“อ้อ...” เผยอัน พยักหน้า แท้ที่จริงฮูหยินของนางก็หิวนี่เอง
“กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ต่อไป ข้าจะไม่โวยวายอีก ดูสิว่าข้ากับสตรีนางนั้น เขาจะให้ความสำคัญของใครมากกว่า” ซูเหลียนชิงยังพอมีความหวัง เพราะเขาไม่ได้ตัดเยื่อใยต่อนาง
“ฮูหยินดีขนาดนี้ เอาใจใส่นายท่านมากมายถึงเพียงนี้ แต่นายท่านกลับทำร้ายท่าน หักหลังท่าน ทั้ง ๆ ที่...” เผยอันยังพูดไม่จบ แต่นายสาวกลับถลึงตาใส่ นางจึงจำเป็นต้องเงียบปากไป มิเช่นนั้นคงถูกฮูหยินตำหนิต่อว่า
“ข้าจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อเขา ที่ผ่านมาข้าอาจ ละเลยไปบ้าง เขาจึงนำสตรีนางนั้นเขามา ต่อไปหากข้าสะสวยเช่นเดิม เขาต้องหันกลับมารักข้าอีกครั้ง เผยอันเร็วเข้า บอกพ่อบ้านเฉาว่าข้าสำนึกแล้ว ข้าคิดได้แล้ว”