ตอนที่ 1 จับชู้คาเตียง (2)
“โอ๊ย! ไอรีนผมเจ็บ ไอรีนครับหัวผมจะหลุดแล้ว ไอรีน โอ๊ย” ณัฐดนัยทั้งเจ็บทั้งเวียนหัวจนอ้วกแทบพุ่ง พยายามจะจับมือเหนียว ๆ เหมือนมือตุ๊กแกของคู่หมั้นสาวออกเพื่อลดความเจ็บปวดที่ได้รับมากที่สุดในชีวิต แต่ในสถานการณ์อย่างนี้เขากลับสู้เธอไม่ได้ น่าขายขี้หน้านัก ปกติเขาเป็นผู้ชายเจ้าสำอางที่รักแต่ความสบาย เรื่องการใช้กำลังต่อสู้กับคนอื่นจึงไม่ถนัด โดนอะไรนิดหน่อยก็เจ็บ เสเพลแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง
แค่นี้เปรมาพอจะมองออกแล้วว่าคู่หมั้นจอมเสแสร้งของตัวเองเป็นคนเหยาะแหยะสิ้นดี เก่งแต่ใช้ปากหลอกลวง ป้อนคำหวาน ที่ผ่านมาเธอไม่เคยรู้เลย เพราะไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน อีกอย่างเธอก็แทบไม่เคยทำตัวอ่อนแอ คิดแต่จะพึ่งพาณัฐดนัยให้คอยช่วยเหลือทำโน่นทำนี่ให้ เห็นแบบนี้ยิ่งหงุดหงิดในความโง่ของตัวเองที่มองคนแบบนี้ไม่ขาด หงุดหงิดชะมัด!
“โดนตบตีแค่นี้จะแหกปากร้องโอดโอยทำไมนักหนา ตอนเอาไอ้หนอนชาเขียวเน่า ๆ แยงรู กระแทกใส่นังเปรมมิกาชู้รักตัวดีนี่ทำไมไม่เห็นกลัวว่าตอนตกนรกไปจะถูกยมบาลทรมานร่างกายเส็งเคร็งไม่ได้เรื่องของตัวเองยังไงเลย นี่ฉันอุตส่าห์หวังดีช่วยสงเคราะห์ให้ ซ้อมเจ็บไว้แต่เนิ่น ๆ ตกนรกขุมที่ลึกที่สุดหลังจากตายไปจะได้ทนความทรมานที่มากกว่านี้ไหว!”
“ผมรู้แล้วว่าทำผิดต่อคุณ ทรยศคุณ เพราะงั้นที่รักพอเถอะครับ ผมสำนึกผิดแล้ว โอ๊ย! ไอรีนผมเจ็บ” ณัฐดนัยไม่สนใจแล้วว่าจะถูกด่าว่ายังไงบ้าง ขอแค่เอาตัวเองรอดพ้นจากเงื้อมมือมารของเปรมาได้ก็พอ พ่อแม่แท้ ๆ ยังไม่เคยลงมือหนักขนาดนี้มาก่อน แต่หญิงบ้ารายนี้กลับไม่ไว้หน้าเขาเลย ความอยากเอาชนะมีแวบเข้ามาแต่หาทางให้ตัวเองหลุดไม่ได้
“พี่ไอรีนขา อย่าทำร้ายพี่นัยอีกเลยค่ะ พี่นัยเจ็บมากแล้วนะคะพี่ไอรีนสงสารพี่นัยเถอะค่ะ เรื่องราวมันเลยเถิดมากเกินไปแล้วนะคะ” เธอปวดใจที่ชายคนรักถูกทุบตี ทว่าสังเกตจะเห็นว่าริมฝีปากเปรมมิกาบิดเบี้ยวอย่างห้ามไม่อยู่ เธอเกลียดคำว่าที่รักที่ณัฐดนัยพูดกับเปรมาจนอยากจะตะโกนว่าอย่าพูดนะ ถึงจะเป็นแค่การเอาตัวรอดเธอก็ไม่ต้องการได้ยินอีก
คำนั้นสมควรมีแค่เธอที่เขาจะเรียก!
เปรมาตวัดตามองคนห้าม พลางยิ้มเหี้ยมเกรียมก่อนจะผลัก ณัฐดนัยจนหัวไปกระแทกผนังเตียงเสียงโป๊กอย่างไม่แยแสว่ามันจะกระทบกระเทือนสมองจนทำให้คนโง่ลงกว่าเดิมอีกหรือเปล่า เรียกว่าเจ็บซ้ำซ้อนจนหมดสภาพ
การใช้ความรุนแรงไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดหญิงสาวรู้เรื่องนี้ดีแต่มันอดใจไม่ไหว ใครไม่เจอแบบเธอคงไม่รู้ว่าแค้นนี้ยากชำระให้เสร็จสิ้นแค่ด่ากราดไม่กี่คำในครั้งเดียว นี่ยังถือว่าเธอมีสติ ถ้าหากไม่มีคงเละกว่านี้
จัดการตัวผู้พอให้ได้ระบายโทสะแล้วเธอก็หันมาหาตัวเมียที่แหกปากร้องห้าม แสยะยิ้มเหี้ยมมุมปาก “เป็นห่วงกันมากงั้นก็มาช่วยรับเคราะห์แทนกันหน่อยเป็นไง” ไม่พูดเปล่า ยื่นมือออกไปกระชาก ลากแขนเปรมมิกาลงมาจากเตียงอย่างไร้ความปรานี ใส่ชุดราตรีหรูหราแล้วยังไง มันไม่ทำให้เธอรู้สึกลำบากอะไรเลย กระฉับกระเฉงเหมือนสวมกางเกง
“พี่ไอรีนไม่นะคะ ฮือ ไม่เอา อย่าตี อย่าตบไอด้าเลยค่ะ ไอด้าขอโทษ” ถึงคราวตัวเองเปรมมิกาก็หน้าซีดเผือด ลืมไปว่าคราวเคราะห์อาจมาถึงตัวทุกเมื่อ คิดจะสงบปากตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว ทั้งกลัวเจ็บ และกลัวเสียโฉม
ถึงขั้นยอมยกมือไหว้ ท่าทางน่าสมเพชยังไงในสายตาคนมองก็ยอมฝืนทน เพื่อหวังเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของนังปีศาจชั่วที่จ้องแต่จะทำร้ายคนไปทั่ว เมื่อกี้เธอดันคิดน้อยไปหน่อย ไม่ยอมพาตัวเองหนีไปตั้งหลักก่อน
แต่ขอโทษให้ตายยังไงเปรมาก็ไม่มีทางยอมยกโทษให้ง่าย ๆ “เลิกพูดคำว่าขอโทษซ้ำไปซ้ำมาเหมือนคนโง่กับฉันสักทีเถอะน่า เพราะคำขอโทษของเธอมันดูไร้ความจริงใจมากเหลือเกินเปรมมิกา คิดถึงตอนที่พวกแกระเริงรักกันแล้วพูดถึงฉันลับหลังสิ แกเห็นว่าฉันคนนี้มันน่าโง่มากเลยใช่ไหม น่าสมเพชมากใช่หรือเปล่า อยากเห็นฉันฟูมฟายร้องไห้จนหมดสภาพงั้นสินะ แต่โทษทีที่ฉันมันแกร่งเกินกว่าจะเสียน้ำตาให้เธอได้ใจ”
อุ้งมือเรียวงามบีบปลายคางของหญิงร้าย จิกเล็บลงบนผิวเนียนแบบไม่ปรานีจนเกิดรอยไม่ต่างจากชายชั่ว เจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อย ความแค้นที่ได้รับมานี้เธอไม่มีทางเก็บเงียบไว้ในใจคนเดียวแน่นอน เธอไม่กลัวอาย ไม่กลัวขายหน้า ยิ่งไม่กลัวว่าจะถูกใครเยาะเย้ยถากถางว่าคู่หมั้นนอกใจไปเอากับน้องสาวคนละพ่อของตัวเอง เพราะคนที่มันต้องอับอายคือพวกมันต่างหาก
“ถามว่าพฤติกรรมอันน่าขยะแขยงของพวกแกมันสมควรให้ฉันปล่อยลอยนวลไปง่าย ๆ งั้นเหรอ เธอฝันกลางวันอยู่หรือเปล่าฮะเปรมมิกา แอบกินกันในที่ลับมานานเท่าไรแล้วตอบฉันมาซิ จำได้ไหม แต่ฉันว่านะคนอย่างเธอคงไม่คายเรื่องจริงออกมาหรอก เพราะเธอน่ะดูหน้าก็รู้แล้วว่าโกหกตอแหลเก่ง”
“พี่ไอรีน ฮึก ไอด้าเจ็บ” มันเหมือนหนังศีรษะจะหลุดออกมา นังบ้านี่มันเรี่ยวแรงเยอะกว่าที่คิดไว้มาก สมกับเป็นลูกชาวไร่บนดอย ดีแต่ชอบใช้กำลัง
“เจ็บเหรอ แค่นี้เธอแหกปากบอกว่าเธอเจ็บแล้วงั้นเหรอฮะเปรมมิกา แค่นี้มันเด็ก ๆ ฉันสามารถทำให้เธอเจ็บได้มากกว่านี้อีกหลายเท่าเชียวล่ะ ฉันจะพิสูจน์ให้เธอเห็นเดี๋ยวนี้แหละว่าเจ็บกว่านี้มันให้ความรู้สึกยังไงกันแน่”
ไม่ทันให้เปรมมิกาได้ตั้งตัว มือที่กระชากผมเต็มกำก็ปล่อยแล้วตบฉาดเสียงดังฟังชัด ฝ่ามือนุ่มนิ่มที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ฟาดเข้าที่แก้มด้าน ๆ หนา ๆ สามทีรวดแบบไม่ออมแรงเหมือนที่เพิ่งตบไอ้ผู้ชายมักมากไป ทำให้ตรงมุมปากบิดเบี้ยวของนังคนเสแสร้งมีเลือดไหลซึม แก้มบวมเป่งเป็นหัวหมูทันตา
เปรมมิกาโดนตบจนหัวหมุน ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกระทำรุนแรงกับตนเองถึงขนาดนี้ ท่าทางน่าสงสารอ่อนแอไร้หนทางสู้เมื่อสักครู่จึงไม่หลงเหลือแล้ว เปล่งเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือจากชายชู้ที่ยังดึงสติกลับมาไม่ได้เสียงโหยหวนชวนให้เวทนา แขนขาพยายามต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดจากความบ้าคลั่งของพี่สาวคนละพ่อ
“โอ๊ย! เจ็บ ฮือ ๆ พี่นัย พี่นัยขา พี่นัยช่วยไอด้าด้วยค่ะ พี่ไอรีนเธอต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ กรี๊ดดดดดดดดด ไม่นะ พอแล้ว อย่าทำไอด้า พี่ไอรีนไอด้าโป๊ ไอด้าไม่ได้ใส่อะไรเลย ไอด้าอาย อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ ไอด้าเป็นน้องสาวพี่นะคะ”
ร่างกายเปรมมิกาโอนเอนไปตามแรงที่เปรมาต้องการให้ไป ไม่ให้แม้แต่โอกาสหาอะไรปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าน่าสมเพชด้วยซ้ำ เพราะถือว่าก่อนหน้านี้มีโอกาสแล้วแต่คนหน้าด้านมันไม่ยอมคว้าไว้ อ่านใจได้เลยอยากจะอวด ขนาดคำขอร้องยังฟังโอ้อวดให้โทสะเพิ่ม ตอนอัดสะโพก โยกเอว กระแทกใส่กันจนเตียงทั้งหลังแทบพังครืน ทำผิดศีล 5 ยังไม่เห็นอายผีสางเทวดาในห้อง แค่เธอเห็นสภาพทุเรศนี้อีกคนจะเป็นอะไรไป
“แหกปากร้องขอส่วนบุญจากใคร ผีเปรตแบบเธอใครเขาจะอยากเสียเงินทำบุญให้ ที่ฉันบ้าเพราะพวกแกมันชั่วไง เจ็บแค่นี้มันไม่ถึงตายหรอก ผิวหนังบนใบหน้าเธอมันน่าจะด้านจนไม่น่าจะรู้สึกอะไรแล้วนะไอด้า ตอนทำไม่กลัว ตอนนี้มากลัวอะไร ฉันไม่ใช่คนไร้เมตตาขนาดนั้น ในเมื่อเธอเรียกฉันว่าพี่สาว ในฐานะพี่สาวของเธอ ถึงแม้ฉันไม่อยากจะเป็น ฉันจะสั่งสอนเธอแทนแม่ของเธอที่ชอบให้ท้ายเธอว่าการกระทำแบบนี้มันผิด ไม่มีปัญญาหาผู้ชายเองจนต้องมานอนอ้าขา ทำทุกทางเพื่อแย่งคู่หมั้นคนที่เรียกว่าพี่สาวไปเป็นของตัวเอง สันดานแบบนี้คนดีที่ไหนเขาทำกัน อาศัยชื่อเสียงของฉันเพื่อพาตัวเองเข้าสู่วงการบันเทิงฉันไม่เคยว่าอะไรเพราะท้ายที่สุดแล้วมันล้วนอยู่ที่ความสามารถของแต่ละคน แต่เรื่องนี้ถ้าคิดว่าฉันจะปล่อยผ่านไปง่าย ๆ ล่ะก็พวกเธอคิดผิด!”
“ไอรีน!” ณัฐดนัยขึ้นเสียงตวาดก่อนจะปรับให้อ่อนลง เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้นเปรมาคงไม่ยอมฟังดี ๆ “คุณพอแค่นี้เถอะนะครับ อย่าทำร้ายไอด้าเพื่อระบายความโกรธแค้นเลย ผมรู้ว่าผมกับไอด้าทำผิดต่อคุณมากนัก แต่เราก็น่าจะคุยกันดี ๆ ได้เพื่อหาทางออกร่วมกัน ถ้าคุณใจเย็นมากพอ” เขาพยายามต่อรอง แต่กว่าจะขยับปากหาคำพูดออกมาได้ชู้รักก็เจ็บหนักไปทั้งตัว
นางร้ายสาวปล่อยมือ ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เมื่อย
เปรมมิกาก็รับบทอย่างไว “ไอด้าเจ็บเหลือเกินค่ะพี่นัย”
“ยังไงผมก็คือคู่หมั้นที่หมั้นกับคุณมานาน ส่วนไอด้าก็คือน้องสาวของคุณ” ประโยคนี้ไม่พูดออกมายังจะดีซะกว่า มือแกร่งดึงเปรมมิกามาไว้ด้านหลังอย่างปกป้องคุ้มครอง หลังจากเห็นเธอถูกกระทำมานาน เรื่องมาถึงขั้นนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ใช่คนของเขา แค่นี้ก็ทำเอาคนเจ็บตัวรู้สึกคุ้มค่า ลอบยิ้มย่องได้ใจ ลำพังตัวชายหนุ่มเองหาผ้าขนหนูมาพันท่อนล่างไว้แล้ว
สภาพก่อนหน้านี้ทำณัฐดนัยรู้สึกเสียหน้าไม่น้อย และไม่รู้ตัวเลยว่าไอ้ท่าทางปกป้องชู้รักของตนเองนั้นยิ่งทำให้เปรมารู้สึกรังเกียจเดียดฉันท์มากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า ในใจก่นด่าเรียกว่าตั้งแต่สวรรค์ลงไปจนถึงนรกต่างสะดุ้ง
“หาทางออกร่วมกัน?”
ดวงตาเปรมาสว่างวาบเหมือนพลุไฟที่พร้อมระเบิดขึ้นเรื่อย ๆ
“คุยดี ๆ งั้นเหรอ?”
ณัฐดนัยพยักหน้าเข้มขรึมที่ออกแนวประหม่าไร้ความมั่นใจ จนดูน่าหัวเราะจนปอดโยก ในใจเขาชอบเปรมา เพราะความงามอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ไม่มากพอที่จะหยุดซื่อสัตย์กับเธอแค่คนเดียวได้ อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาที่หอมหวานของชีวิต เรื่องนี้เขายังยืนยัน ในขณะที่เปรมมิกาคือความสดใหม่ที่น่าสนใจ
เธออาจจะสวยน้อยกว่าพี่สาวไปสักหน่อย แต่ความสาวนั้นมีมากกว่า ออดอ้อนออเซาะก็เก่งกว่าเป็นไหน ๆ เมื่อเทียบกับเปรมาที่เรียบเฉย หัวใจเขาถึงเขวไปหาเปรมมิกาอย่างง่ายดาย เขารู้ว่ามันผิดที่ทำแบบนี้ลับหลัง แต่ทำไงได้ ต่อให้ย้อนเวลากลับไปแก้ไขเรื่องราวได้ผลลัพธ์ก็คงเหมือนเดิมอยู่ดี เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วถ้าคุยกันได้ก็อยากเก็บพวกเธอพี่น้องไว้ทั้งสองคน ความคิดเขาอาจจะเห็นแก่ตัวแต่มันก็คือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับตอนนี้
“ต้องการให้ฉันใจเย็นกว่านี้งั้นเหรอ?” เปรมามองด้วยสายตาทิ่มแทง ถ้าเธอรู้ความคิดของณัฐดนัยไม่แน่ว่าที่นี่อาจราบเป็นหน้ากอง “ไปถามคุณแม่คุณดูสิว่าถ้าพ่อคุณทำแบบนี้บ้างจะยังใจเย็นไหวไหมถ้าจับผู้ชายของตัวเองได้คาหนังคาเขาว่ากำลังนอนกกเมียน้อยในสภาพล่อนจ้อนอยู่น่ะ” เสียมารยาทไหมไม่รู้แต่มาถึงจุดนี้แล้วมีแต่ต้องแตกหักเท่านั้น
ณัฐดนัยหน้าแดงก่ำจวนระเบิดเต็มทน เกิดจากความไม่พอใจเปรมาที่ด่าทอด้วยส่วนหนึ่ง และจากการโดนทำร้ายร่างกายอย่างแสนสาหัส ทุกอย่างที่เกิดขึ้นพร้อมกันมันจึงทำให้เขาเกิดความคับข้องใจคูณสอง “อย่าลามปามไปถึงพวกท่านไอรีน พ่อแม่ผมพวกเขาไม่เกี่ยว” ข่มด้วยเสียงเข้ม ๆ เขาคงไม่มีหน้าไปเจอใครอีกนาน อย่างน้อยก็จนกว่าหน้าจะกลับมาเป็นปกติ และหวังว่าเรื่องพวกนี้จะไม่ถูกเปิดเผยออกไป ถ้าเป็นความลับได้เขาอยากให้เป็นความลับระหว่างพวกเขาเท่านั้น
“นั่นสิคะพี่ไอรีน คุณลุง คุณป้าพวกท่านเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราด้วย พี่ไอรีนอย่าไปพาดพิงพวกเขาเลยนะคะ” เปรมมิกาได้ทีพูดเสียงแผ่วเบาอย่างคนรู้ความ แต่ลอบยิ้มเยาะเย้ยในใจ มีแต่คนโง่เง่าอย่างนังเปรมาเท่านั้นแหละที่กล้าลามปามพ่อแม่คู่หมั้นตัวเองต่อหน้าต่อตาเขา
“อย่างที่ไอด้าพูด เอาแค่เรื่องพวกเราพอ”
เปรมาหัวเราะเสียงเย็นเยียบให้คู่ขาที่เข้าคู่กันได้ดีจนน่าปรบมือให้ หญิงโฉด ชายชั่ว คนหนึ่งรับ คนหนึ่งร้อง ณัฐดนัยไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังจะถูกเขี่ยทิ้งลงถังขยะชนิดที่ไม่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ใหม่อย่างถาวรแล้ว
ทุกการตัดสินใจเธอไม่เคยคิดเสียใจทีหลัง “ได้! งั้นเอาแค่เรื่องของเราก่อน” ไม่รอให้ใครได้เสนอหน้าแทรกก็พูดเสียงเฉียบขาดว่า “ฉันกับคุณเรายุติบทบาทความสัมพันธ์กันตั้งแต่ตอนนี้เลยแล้วกันนะคุณณัฐดนัย ให้คนอย่างคุณเข้าใจง่าย ๆ หน่อยก็คือฉันขอถอนหมั้นค่ะ ไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกันตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป” กัดฟันพูดไม่ใช่ว่าเสียใจ หรือทำใจไม่ได้ แต่เธอรู้สึกสมเพชตัวเองที่หลงไปรู้สึกดี ๆ กับไอ้เฮงซวย หน้าไหว้หลังหลอกนี่เท่านั้น
เคยคิดไปถึงขั้นว่าถ้าความสัมพันธ์ยังดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น ในสักวันเธอจะเป็นภรรยาของณัฐดนัย ทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด ให้สมกับความดีของเขา หรือถึงเลิกกันด้วยเหตุผลเธอก็จะไม่เสียใจ แต่ต้องไม่ใช่แบบนี้
ทรยศหักหลัง!
เป็นสิ่งที่เธอรับไม่ได้มากที่สุด
แค่ได้ยินคำว่าถอนหมั้นจากปากพี่สาวที่ชิงชัง เปรมมิกาก็ลอบยิ้มสะใจ หัวใจลิงโลดระริกระรี้ ลืมสิ้นความเจ็บปวดที่ได้รับ แววตาปกปิดความยินดีที่ล้นออกมาไม่มิดอีกครา สวมเสื้อคลุมผ้าซาตินสีดำผูกเชือกที่เอวหลวม ๆ อย่างไม่รีบร้อน ที่โดนตบไปเมื่อกี้ถือว่าแลกมาด้วยการทำลายการหมั้นของพี่สาวได้สำเร็จ เจ็บตัวแค่นี้ถือว่าคุ้มค่าที่สุดแล้ว ใครจะสนกันว่าสุดท้ายแล้วเปรมาจะขู่ว่าอะไร ในใจได้แต่ลุ้นให้ทั้งคู่รีบจบความสัมพันธ์กันในคืนนี้เลย เธอจะได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการสักที ใครมันจะอยากเป็นแค่ตัวสำรองกัน มีปากก็พูดไปว่าทนอยู่กับสถานะนั้นได้ แต่ความจริงตรงกันข้าม
เชื่อเถอะว่าการได้เสพสุข มีเซ็กส์ที่เร่าร้อนกับว่าที่พี่เขยเธอไม่เคยรู้สึกผิดต่อพี่สาวเลยสักวัน เรื่องราวดำเนินมาถึงจุดที่คาดหวังแล้วเธออยากฉลองเลยเสียด้วยซ้ำ เปรมมิกาแอ่นอกอวบอัดที่แสนภูมิใจถูยั่วแผ่นหลังชายคนรักอย่างไม่สนใจสถานการณ์อะไรอีกแล้ว เธอรู้ว่าผู้ชายหลง อ้อนนิด ๆ หน่อย ๆ เขาก็พร้อมคล้อยตาม เขายังเคยสัญญาว่าต่อให้แต่งงานกับพี่สาวเธอแล้วก็ไม่มีทางปล่อยมือจากเธอ นั่นหมายความว่าณัฐดนัยจะยังเลี้ยงดูเธอต่อไป ถ้ามันรู้ความจริงนี้เข้าต้องกระอักเลือดออกมาบ้างแหละ คอยดูเถอะ รอให้ทุกอย่างมันลงตัวมากกว่านี้ก่อนเธอพูดแน่
ยิ่งคิดเปรมมิกาก็ยิ่งได้ใจ ทุกครั้งที่ขึ้นเตียงเสพสวาทด้วยกันไม่มีครั้งไหนที่เธอจะไม่ปรนเปรอสวาทแบบถึงอกถึงใจ เพราะเจตนาคือต้องการให้เขาไปไหนไม่รอด หลับตาก็เอาแต่เฝ้าคิดถึงตนเอง คืนนี้เธอก็รั้งเขาไว้ไม่ให้ไปหาเปรมา แค่เป่าหู ออดอ้อนไม่กี่คำว่าที่พี่เขยก็แพ้ทาง แล้วก็เป็นเธออีกที่จงใจให้มาเห็นเหตุการณ์นี้
เปรมมิกาถูกมารดาตามใจมาตั้งแต่เด็กจึงไม่เคยเห็นหัวใคร ชอบเป็นที่ 1 ไม่ต้องการเป็นที่ 2 รองจากใคร อะไรที่ทำให้พี่สาวที่เพิ่งรู้ว่ามีตัวตนอยู่บนโลกเมื่อไม่กี่ปีมานี้เสียใจได้เธอไม่เคยลังเลที่จะทำมันเลย แต่เธอไม่เคยทำได้สำเร็จ มันก็ยิ่งแค้น เธอเป็นลูกรักของแม่ ในขณะที่นังเปรมาไม่ใช่ มีเรื่องนี้เรื่องเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกเหนือกว่ามาตลอด
ไม่เคยอยากให้มันโดดเด่นกว่า อยากให้มันยิ่งอยู่ยิ่งแย่มาก ๆ ในสายตาทุกคน อยากเอาเท้าบดขยี้กดมันให้ต่ำจมดิน อยากให้มารดาควบคุม บงการชีวิตของนังเปรมาให้เป็นไปตามทิศทางที่เธอกำหนด แต่มันหัวแข็ง และเอาตัวรอดเก่งเกินไป ไต่บันไดขึ้นไปสู่ดาวอย่างราบรื่นจนได้ เรื่องคืนนี้ก็ดันผิดคาดไปหมดมันไม่ร้องไห้ฟูมฟาย เสียใจจนเป็นบ้า แต่มีสติตอบโต้ น้ำตาสักหยดก็ไม่มีให้เห็น มันไม่ใช่มนุษย์ปกติ
“เรื่องหมั้นฉันจะให้ทนายจัดการ!”
“ผมไม่เห็นด้วย ครอบครัวผมต้องไม่ยอมแน่ ๆ”
ณัฐดนัยได้สติ หน้าเครียดขรึม ยอมรับความจริงข้อนี้ไม่ได้ ขยับตัวห่างจากเปรมมิกาเพื่อจะเข้าหาคู่หมั้นสาวที่เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าเธอสวย และโดดเด่นแค่ไหนในชุดออกงานค่ำคืนนี้ เขามองตาลอยเผลอกลืนน้ำลายลงคอโดยไม่รู้ตัว เปรมายิ้มเยาะให้ท่าทางตกตะลึงที่มาล่าช้าเหลือเกิน มือที่กำหมัดไว้แน่นคลายออกก่อนจะสะบัดใส่ใบหน้าที่เคยหลงชื่นชมไปว่าหล่อสะอาดอีกครั้งจนอีกฝ่ายหน้าหันเลือดไหลซึมมุมปากออกมาอีก
“นั่นมันเรื่องของคุณ และครอบครัวคุณ ไม่เกี่ยวกับฉัน!”
กลิ่นราคะเน่าเฟะน่าขยะแขยงของคนชั่วที่เสพสมกันไปตั้งเท่าไรเธอไม่อยากอยู่สูดดมนาน เพราะกลัวจะเสียสุขภาพ กว่าณัฐดนัยจะรู้ตัว คู่หมั้นที่กำลังจะกลายเป็นอดีตไปจริง ๆ ก็เดินสับขาบนรองเท้าส้นสูงแบบสง่างามจากไปแล้ว เขารีบก้าวเท้าตามไป ทิ้งเปรมมิกาที่ร้องเรียกอย่างเอาแต่ใจไว้ด้านหลังอย่างไม่ไยดี ถ้ามัวแต่สนใจชู้รักสถานะเขากับคู่หมั้นก็ไร้หนทางที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว ตอนนี้เธออาจจะแค่โกรธมาก ไม่แน่ว่าตามง้อหน่อย ใจอาจอ่อนยอมกลับมาคืนดี