บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 ไฟลามทุ่ง

“ไอรีน ที่รัก! เดี๋ยวก่อนครับ อย่าเพิ่งไป”

แน่นอนว่าเสียงหึ่ง ๆ นั้นลอยเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของเปรมา

เปรตขอให้หยุด คนคิดดีที่ไหนเขาจะหยุด

“พี่นัยคะ พี่นัย!”

“เธอรออยู่ที่นี่ ไม่ต้องตามออกมา” เขาเหลือบมองแล้วรีบไป

เปรมมิกากระทืบเท้าเร่า กำหมัดแน่น ไม่เหลือคราบหญิงสาว ผู้อ่อนแอให้เห็น มีแต่สภาพสะบักสะบอมของผู้หญิงถือดีคนหนึ่ง ความร้าวฉานได้เกิดขึ้นแล้วทำไมณัฐดนัยถึงไม่ปล่อยให้มันแตกละเอียดไปเลย

เจ็บใจจะตายอยู่แล้ว!

ก่อนที่จะมาพบณัฐดนัยเธอมีแฟนหนุ่มอยู่แล้ว คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย ตอนนั้นเธอชอบเขามาก เรียกว่าคลั่งไคล้ได้เลยทั้งหล่อ ทั้งเรียนดี ทั้งมีฐานะคู่ควรกับเธอ เรียกว่าไม่มีใครเทียบเคียงผู้ชายที่เธอหมายตาได้แล้วในช่วงเวลานั้น ถึงขนาดลงทุนตามจีบก่อนจนจีบได้สำเร็จ ทั้งโรงเรียนมีแต่คนอิจฉา

ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดี เขาทุ่มเท เอาใจเก่ง แต่ติดที่ว่าการใช้ชีวิตในแต่ละวันของผู้ชายคนนั้นมันน่าเบื่อเกินไป วันทั้งวันดีแต่เอาพลิกกระดาษอ่านหนังสือ ไม่ก็วุ่นวายกับการเรียน นานวันความรู้สึกมันก็จืดจาง เธอชนะทุกคนไปแล้วที่ได้ครอบครองเขาก่อนใคร พอได้เจอคนที่พร้อมจะพาเธอไปสนุกด้วยกัน ข้อเปรียบเทียบก็มีให้เห็น และเริ่มตีตัวออกห่างแต่ยังไม่ได้บอกเลิกอย่างเป็นทางการ ยังเก็บเขาไว้เป็นตัวเลือก จนมาเจอว่าที่พี่เขยเธอจึงสลัดว่าที่คุณหมอทิ้งอย่างไม่คิดเสียดาย

ณัฐดนัยที่รีบร้อนตามคู่หมั้นสาวออกมา ยังจะมีอารมณ์สนใจความรู้สึกนึกคิดของชู้รักอายุน้อยที่ไหนกัน คำว่าถอนหมั้นมันร้ายแรง และไร้เยื่อใยเกินไป ไม่ต่างจากสายฟ้าฟาดเปรี้ยงใส่กลางหัวแบบล้มทั้งยืน กลับกันถ้าให้เขาได้เป็นคนบอกเลิกด้วยตัวเองยังดูดีกว่า ผลลัพธ์ยังแตกต่างกันมากด้วย แล้วไม่ต้องเสียหน้า สามารถยืดอกบอกใครต่อใครด้วยความภูมิใจเล็ก ๆ ได้ว่าเป็นเขาเองที่เป็นคนทิ้งเปรมา ไม่ใช่เธอเป็นฝ่ายทิ้ง ความคิดตีกันสับสนยุ่งเหยิงก่อนจะมาสะดุ้งตกใจอีกครั้งเมื่อก้าวเท้าพ้นขอบประตู

คนรักหน้าตาตัวเองยิ่งชีพฟื้นคืนสติขึ้นมาได้ก็เอาแต่ลอบสบถคำหยาบคายในใจแบบไม่ซ้ำกันเลย สีหน้าที่ไม่น่ามองอยู่แล้วยิ่งไม่น่ามองมากขึ้นไปอีก ประกอบกับริ้วรอยบนใบหน้าที่เกิดจากการถูกข่วนและตบตียิ่งแย่ไปกันใหญ่

ฝ่ายคนที่กำลังจะกลายเป็นพยานรู้เห็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรเปิดเผยให้คนนอกรับรู้กลับสงบมาก ร่างสูงยืนตระหง่านเหมือนภูเขาน้ำแข็งยักษ์ที่คอยต้านทานคลื่นลม ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไร ทว่าสายตาเฉยเมยที่คล้ายสมเพชของอีกฝ่ายที่ปรายมองมาเพียงเล็กน้อยยิ่งทำให้ณัฐดนัยอยากหันหลังกลับไปตั้งหลักในห้องก่อน แต่ด้วยความที่ต้องข่มใจง้อเปรมาให้ได้ ก็ได้แต่กลืนความอายลงท้องไปอย่างฝืนทน สภาพร่างกายยับเยินแค่ไหนก็ต้องยืนอยู่

“คุณพฤทธิ์ บังเอิญจังนะครับที่ได้เจอคุณที่นี่” เสียงของณัฐนัยจับได้ว่ามีความประหม่าอย่างชัดเจน แม้แต่รอยยิ้มที่คิดว่าดูดีก็ฝืนเค้นออกมาเหมือนคนแยกเขี้ยวมากกว่า ถึงครอบครัวเขาจะไม่ได้อยู่ในลำดับต้น ๆ ของสังคมชนชั้นสูง ทว่างานสำคัญหลายต่อหลายงานก็มักจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งอยู่เสมอ ยืนในงานเดียวกับชายคนนี้มาก็ไม่น้อย เขาถึงได้รู้สึกเสียหน้ามากที่ออกมาเจอในสภาพที่ไม่พร้อมอย่างมาก ไม่พูดว่าเป็นเพราะเปรมาส่วนหนึ่ง เรื่องแบบนั้นหาใช่เรื่องที่จะยอมรับกันง่าย ๆ ได้ที่ไหน

ถูกคนอื่นเรียกชื่อเต็มแล้วท่านประธานหนุ่มไฟแรงแห่ง บริษัททีเอ็มเค เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ผู้สูงส่งก็ยังคงทำตัวเหมือนไร้ตัวตนเช่นเดิม คือไม่หือไม่อือ มีแค่ดวงตาที่ขยับ ในใจกำลังหงุดหงิดไม่น้อยที่ลิฟต์ไม่ยอมเคลื่อนมาสักที

สถานการณ์อย่างนี้ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นมาเจอเข้าไม่แน่ว่าในแววตาคงเป็นประกาย กอดอกรอชมเรื่องทุกข์ใจของคนอื่นด้วยความตื่นเต้น แต่ชายคนนี้กลับทำตรงกันข้าม หลังจากปรายตามองคนทักแวบหนึ่งแบบรวดเร็วแล้วก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับมาทั้งสิ้น ว่างเปล่าคล้ายมองไม่เห็น

ดังนั้นภายใต้ท่าทีที่ชี้ชัด ให้คนมองมั่นใจได้เลยว่าหยิ่ง และ ไว้ตัว จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ทำคนที่หลงเข้ามาในวงโคจรแบบเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดีลอบกระทืบเท้าสุดแรง เพราะถูกความโมโหเล่นงาน

ณัฐดนัยคือเหยื่อรายล่าสุดที่อยากก่นด่าออกมา หมอนี่จะโอหังให้ใครดูกัน เห็นแล้วรำคาญลูกตา จะช่วยเสแสร้งแกล้งทำสักนิดมันจะตายห่าหรือไง แต่ความในใจเหล่านั้นใครจะกล้าโพล่งออกมาให้เกิดภัยอันตรายกับตัวเองกันเล่า จึงทำได้แค่กล้ำกลืนความอดสูลงท้องอย่างจำใจ

ดวงตาทรงอำนาจมองไปข้างหน้าไม่มีวอกแวกแม้แต่น้อยความเย็นชาของเขาแผ่ซ่านออกมาจากร่างสูงโปร่ง ประกอบกับรัศมีความน่าเกรงขามเข้มข้นจึงทำให้เขาดูเข้าถึงยาก ไร้ความเป็นมิตรกับสรรพสิ่งทั้งหลาย

เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ชายเสื้อถูกทับด้วยกางเกงสแลกสีดำ สองมือสอดอยู่ในกระเป๋ากางเกง เปรมามองแผ่นหลังกว้างตั้งตรงแน่วของชายหนุ่มที่ยืนเยื้องอยู่หน้าเธอประมาณสามก้าวอย่างเหม่อลอย ยี่สิบกว่าปีที่ได้ใช้ชีวิตเคยเจอคนมาก็มาก แต่พฤทธิ์คือคนเดียวที่ให้ความรู้สึกแตกต่างจากคนทั่วไปอย่างอธิบายไม่ถูก

แต่ตอนนี้ที่แน่ ๆ เลย เธออยากแกล้งเป็นบ้าตายให้รู้แล้วรู้รอด สวรรค์จะให้บังเอิญเดินมาเจอกับผู้ชายคนนี้สถานการณ์ที่ดีกว่านี้ก็ไม่ได้ ถึงเรื่องนี้เธอจะไร้ความผิดอย่างแน่นอน แต่การที่ให้เขามาเห็นภาพทุเรศของคนที่เป็นคู่หมั้นซึ่งถูกเธอลดสถานะไปแล้วอย่างนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไร เขายังไม่รู้ว่าไอบ้านี่สร้างวีรกรรมอะไรไว้กับเธอ เลยกลัวว่าพฤทธิ์จะคิดว่าตัวเองไปทำเรื่องไม่ดีมา อยากอธิบายแต่มันจะยิ่งแปลกหรือเปล่า อย่ามองว่ากังวลเกินเหตุ โปรดอย่าลืมว่าอาชีพการงานของเธอในปัจจุบันมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาทั้งทางตรง และทางอ้อม

เชื่อเถอะว่าเพียงแค่ท่านผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้แสดงความคิดเห็นออกมาคำเดียวก็มีผลต่อการทำงาน แต่โชคดีอยู่เรื่องหนึ่งที่ก่อนหน้านี้เธอทักแล้วเขามีปฏิกิริยาบางอย่างตอบสนองกลับมาให้ใจชื้นเล็ก ๆ คุณพฤทธิ์ผงกหัวให้อย่างสุภาพ

ครั้นเมื่อปรายตามองกลับมาที่ณัฐดนัยอีกครั้ง ก็มีความคิดที่อยากจะเข้าไปทุบตีอีกสักหลาย ๆ รอบเพื่อคลายโทสะ คนหนึ่งบุคลิกสง่างามไร้ที่ติ ส่วนอีกคนสภาพอเนจอนาถ เพราะทำความชั่วเลยถูกลงไม้ลงมือใส่ เปรียบให้เห็นภาพชัดเจนก็คือสวรรค์กับนรก ไม่โทษว่าคุณปู่ผู้ที่ล่วงลับไปนานแล้วดวงตาไร้แววที่ต้องการหลานเขยแบบนี้ ต้องโทษที่ตัวเธอนี่ที่มองคนไม่ออก

“ไอรีนครับ” เขาเอื้อมแขนหมายจะจับเปรมา

แต่มันง่ายที่ไหน เธอหลบทัน และแสดงท่าทางรังเกียจ

“เรื่องถอนหมั้น”

“ฉันว่าฉันพูดชัดเจนแล้ว” เธอสวนขึ้นมาอย่างเย็นชา

“แต่ผมไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของคุณนะครับ”

“…”

“บอกตรง ๆ ว่าผมรับไม่ได้หรอกถ้าเราสองคนต้องกลายเป็นคนอื่นต่อกัน ที่ผ่านมาผมแทบไม่เคยเรียกร้องอะไรจากคุณเลย เพราะฉะนั้นคุณช่วยให้โอกาสผมได้แก้ตัวอีกสักครั้งได้ไหมครับที่รัก ผมรู้ว่าผมทำผิด นอกใจคุณอย่างไม่น่าให้อภัย แต่เรื่องทั้งหมดมันก็เกิดขึ้นแล้ว ตอนนี้ผมเสียใจจริง ๆ ผมไม่อาจย้อนเวลากลับไปแก้ไข สิ่งเหล่านั้นได้ แต่ถ้าคุณให้โอกาสผมอีกครั้งผมสัญญาว่าจะไม่กลับไปทำตัวแบบนั้นให้คุณต้องช้ำใจอีก ได้ไหมครับไอรีน อนุญาตให้ผมได้แก้ตัวใหม่อีกครั้ง”

การเปิดโปงความชั่วช้าที่ทำไว้ด้วยปากของตัวเองเองช่วยให้เปรมาโดยไม่รู้ตัว เหตุเพราะณัฐดนัยทนรอจนคนอื่นไปก่อนไม่ไหวเลยกลืนความอายลงท้อง หญิงสาวยังไม่สลัดความคิดที่ว่าจะทำยังไงให้พฤทธิ์รู้ถึงสถานการณ์ของเธออย่างชัดเจน ตอนนี้ไม่ต้องเปลืองสมองแล้ว ถึงเขาจะไม่สนใจ ไม่แยแสมันเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ อย่างน้อยคำพูดมันก็ผ่านหู ขณะเดียวกันก็ต้องข่มใจฟังคนสารเลวพล่ามวกไปวนมา

“ตั้ง 5 ปีเลยนะไอรีนที่เราเป็นคู่หมั้นกันมา คุณบอกจะตัดขาดความสัมพันธ์คุณก็สามารถตัดมันได้ง่าย ๆ จริง ๆ เหรอไอรีน คุณลองคิดดูสิว่าถ้าคุณปู่ของพวกเราบนสวรรค์ทราบเข้าจะเสียใจมากแค่ไหนถ้ารู้ว่าหลานชาย หลานสาวที่พวกท่านจับคู่ให้ต้องเลิกกันเพราะอารมณ์ชั่ววูบ” เขาคิดง่าย ๆ ว่าพูดแบบนี้อย่างจริงใจต่อหน้าพฤทธิ์แล้ว เปรมาจะเก็บไปคิดทบทวนใหม่ แต่เขามันเด็กน้อยเกินไปเลยคิดได้แค่นี้

“ว่าไงนะ อารมณ์ชั่ววูบอย่างนั้นเหรอ!” ดวงตาคู่งามวาววับ เป็นประกายดุจมีดอีโต้ที่เพิ่งลับคม คราวนี้บรรยากาศกระอักกระอ่วนของหญิงสาวพลันหมดลงสิ้นเชิงจริง ๆ แล้ว เพิ่งจะพูดยอมรับความชั่วของตัวเองแท้ ๆ ไม่ทันไรมาโยนให้เธอเป็นคนผิดร่วม เห็นเธอเป็น คนตายไปแล้วหรือไง “มีแต่คนโง่เท่านั้นที่คิดว่าฉันใช้อารมณ์ชั่ววูบจบสัมพันธ์เฮงซวยกับคู่หมั้นที่ขึ้นเตียงกับผู้หญิงคนอื่น” ฟาดกลับดอกแรก

“แล้วโอกาสที่ว่าน่ะฉันมีไว้ให้แฟนคนใหม่ของฉันเท่านั้น ส่วนของคุณมันหมดไปตั้งแต่คุณคิดทรยศฉันแล้วล่ะค่ะคุณณัฐดนัย!” แทบจะเค้นเสียงคำว่าคุณออกมาจากปากเชียวล่ะ “อ้อ! แล้วไม่ต้องเอาพวกคุณปู่ที่ป่านนี้น่าจะไปเกิดใหม่นานแล้วมาอ้างหนอกนะคะ เพราะถ้าเห็นแก่คุณปู่ตามที่อ้างถึงจริง คุณคงไม่ทำร้ายจิตใจฉันแบบนี้หรอก เอาเป็นว่าต่อหน้าคุณพฤทธิ์ฉันขอประกาศอีกครั้งว่าตอนนี้ระหว่างพวกเราสองคน ฉันเปรมาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณณัฐดนัยอีกแล้ว ขอให้คุณไปเสวยสุขกับยัยเปรมมิกาอย่างสมดั่งใจหวัง เลิกเพ้อฝันว่าฉันจะกลับไปคืนดีด้วย จบ แยก จาก จะไปตกนรกที่ไหนกับใครก็เชิญตามสบาย!” เธอคิดว่าตัวเองหมดเวรจากณัฐดนัยแล้ว แต่กรรมของ ชายโฉดหญิงชั่ว จากนี้รอให้มันสนองกลับคืนได้เลย เธอยังไม่ยอมยกให้ง่าย ๆ หรอก

พฤทธิ์ถูกหญิงสาวดึงเข้ามาในบทสนทนาโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว เกิดความไม่พอใจในใจลึก ๆ แต่ยังคงรักษาสีหน้านิ่งสงบเอาไว้ได้ อย่างยอดเยี่ยม สิ่งที่เขาไม่ชอบที่สุดก็คือการถูกใครใช้ชื่อตนเองเพื่อผลประโยชน์ เปรมาคิดว่าเอาไว้ขอโทษเขาทีหลังที่ยืมชื่อเขามาพูด กับผู้ชายเส็งเคร็งที่เอาคนตายมาอ้าง คนแบบนี้ผีสาง เทวดาที่ไหนจะเข้าข้างไปตลอด

“ทำไมคุณใจร้ายแบบนี้ล่ะครับไอรีน” ณัฐดนัยแทบจะตายเพราะประโยคไม่ไว้หน้าของเปรมา ผู้ชายน้อยคนนักที่จะไม่เจ้าชู้ แม้แต่บิดาเขาเองยังแอบมีเล็กมีน้อยนอกบ้าน แต่แค่ไม่ได้ทำอะไรแบบโจ่งแจ้งให้รู้ถึงหูมารดา

“ตลก ฉันนี่นะใจร้าย” เปรมาถลึงตา ภาพลักษณ์ที่ดีงามเธอเลิกสนใจแล้ว ทว่าความสง่างามในชุดราตรีหรูหรากลับส่งเสริมให้เธอที่กำลังของขึ้นดูเป็นหญิงสาวน่าค้นหา ก่อนจะสงบสติอารมณ์อย่างรวดเร็วปานฟ้าแล่บแล้วแค่นยิ้มแบบชังน้ำหน้าสุด ๆ “แต่ก็ได้” ระบายลมหายใจอันคุกรุ่นออกมา พลางโบกมือประหนึ่งว่าใจกว้างมากมาย “คุณอยากจะพูดว่าฉันใจร้ายยังไงก็ได้ ตามสบายเลยค่ะ แต่ฉันขอสรุปอีกครั้งต่อหน้าคุณพฤทธิ์แล้วกันว่าฉัน นางสาวเปรมาคนนี้ไม่ใช่คู่หมั้นคุณแล้ว คุณเป็นชู้ ไม่สิ คุณณัฐดนัยเปลี่ยนสถานะจากคู่หมั้นมาเป็นผัวของน้องสาวแสนดีของฉันแล้ว เพราะฉะนั้นพวกคุณอยากจะพลอดรัก เล่นบทเลิฟซีนกันแบบแสบทรวงยังไงก็ตามสบาย แต่ตอนตายตกนรกไปฉันขอให้ทุกข์ทรมานอยู่ในกระทะทองแดง ปีนต้นงิ้วแบบเจ็บจนอยากจะตายซ้ำ ๆ เวียนไป สาธุ!”

พฤทธิ์เหลือบตามองหญิงสาวที่เพิ่งระเบิดอารมณ์ของเธอออกมาต่อหน้าเขาแบบไม่สนใจภาพลักษณ์อย่างพิจารณา คิ้วเข้มพลันขยับเข้าหากันเล็กน้อยจนแทบมองไม่รู้ ถ้าเป็นนักแสดงคนอื่นคงรักษาหน้าตัวเองเอาไว้จนสุดความสามารถ แต่ผู้หญิงคนนี้กลับไม่สนใจว่าเขาก็ยืนอยู่ตรงนี้ คนที่มารดาตั้งตนเป็นแฟนคลับน่าสนใจมากกว่าที่เขาคิดไว้มากทีเดียว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel