บท
ตั้งค่า

ปล่อยตัวมีลูก

“ฝากน้องรักษ์ไว้บ้านคุณนายก่อนนะคะ เดี๋ยวตาจะเข้าไปรับลูกเองค่ะ”

“ได้ ๆ น้องรักษ์ว่านอนสอนง่ายจะฝากไว้กับฉันนานเท่าไหร่ก็ไม่ติดหรอก” คนรักเด็กอย่างคุณนายจิตตราพูดผ่านสายโทรศัพท์

“ขอบคุณค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะเดี๋ยวตาต้องรีบเก็บร้าน ฝนกำลังจะตก”

“โอเค ๆ จ้ะ” วันนี้ขายกว่าจะหมดก็ค่ำพอสมควร แถมพายุเข้ากะทันหันทำให้ลลิตาต้องรีบเก็บร้านกลับบ้านให้ทันก่อนฝนจะตกไม่เช่นนั้นคงต้องตากฝนกลับบ้านตัวเปียกอีกแน่

พอเก็บของเสร็จสรรพ ท่อนขาที่กำลังก้าวไปเรียกวินมอเตอร์ไซค์กลับหยุดชะงัก เพราะถูกมือใครบางคนเอื้อมมาจับดึงเธอเอาไว้

ลลิตาหันไปมองด้วยความฉงนใจแกมสงสัย ดวงตากลมคู่นั้นจึงเบิกโพลงกว้าง

“พะ พี่เทพ”

เขาที่มองเธอเป็นตัวเสนียดปรากฏตัวตรงหน้า

“จะกลับบ้านเหรอ”

“ค่ะตาต้องรีบกลับ เดี๋ยวฝนตกจะเปียกเอา”

จังหวะช่างประจวบเหมาะเม็ดฝนเริ่มโปรยปรายลงมารดใบหน้ามน ลมพัดแรงจนร่มของทางร้านค้าตามข้างถนนเกือบลอยว่อน

“ไปกับฉัน”

“คะ” เธอไม่เข้าใจ พยายามแกะมือหนาออก หากเขาไม่ยอมปล่อย

“ฉันจอดรถไว้ข้างฟุตบาท อย่าพูดยาก รีบไปขึ้นรถก่อน”

รถยนต์คันหลังเริ่มบีบแตรไล่เพราะการจราจรติดขัด ลลิตาถูกกดดันจนไม่มีทางเลือก ถูกอีกฝ่ายลากไปขึ้นรถเสียจนได้

ภายในรถเงียบสงัด ไร้เสียงสนทนา มีเพียงลมหายใจอุ่นร้อนที่พ่นจากจมูกดังกึกก้องคันรถ

ท้ายที่สุดธราเทพจึงเอ่ยขึ้น “เธอยังไม่ได้บอกใครเรื่องลูกของเธอกับอานนท์อีกหรอกเหรอ”

“ค่ะ” จะบอกได้อย่างไร ในเมื่ออานนท์ไม่ใช่พ่อที่แท้จริงของน้องรักษ์

“แล้วต้องรอไปอีกเมื่อไหร่ ไม่สงสารพ่อแม่ของเธอบ้างเหรอ เห็นแบบนั้นรู้หรือเปล่าว่าพวกท่านทุกข์ร้อนใจขนาดไหนที่เธอไม่ยอมกลับบ้าน มีลูกสาวคนเดียวไม่พอ ลูกสาวยังทำตัวไม่เอาไหน ไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้พวกท่านได้ในวันข้างหน้าเลย”

“นี่ใช่ไหมคะที่ลากตาขึ้นรถมาด้วย”

“อืม” คนขับรถเหลือบหางตามอง “ฉันแค่อยากให้เธอคิดได้ได้แล้วนะ”

“ตาคิดได้ตั้งนานแล้วค่ะ พี่เทพไม่ต้องมาบอกตาหรอก”

“…”

“ตาขอแสดงความยินดีล่วงหน้าด้วยนะคะสำหรับข่าวการแต่งงานของพี่กับอนันญา”

ห่างหายจากกันไปตั้งนาน กลับมาเจอกันครานี้ธราเทพดูดีขึ้นเป็นกอง จากที่เคยหล่อเหลาราวกับรูปนั้นกรีกแล้วนั้นยามนี้ยังมีมาดความสุขุมเพิ่มขึ้น ออร่าบางในตัวอย่างก็เปล่งประกาย คงเพราะดูแลตัวเองมาอย่างดีเตรียมพร้อมเป็นเจ้าบ่าวกระมัง

งานแต่งงานที่เขาเต็มใจตกแต่งยังไงก็น่ายินดี ไม่ใช่ถูกมัดมือชกจำใจต้องรับผิดชอบ

“เธอยินดีกับข่าวฉันและนันจริง ๆ เหรอ”

ผู้หญิงขี้อิจฉาริษยาน่ะหรือกล่าวคำนี้อย่างจริงใจ ดูยังไงก็จอมปลอมอยู่ดี

“ตาก็ไม่รู้ว่าต้องรู้สึกยังไงแล้วค่ะ…ตาว่าเราไม่มีเรื่องอะไรบาดหมางใจต่อกันแล้วนะ”

“ก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้น ฉันจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดกับเรื่องที่ผ่านมา”

ตลอดทางลลิตาเอาแต่เงียบ เมื่อรถยนต์คันหรูจอดเทียบหน้าบ้านจึงเปิดประตูลงไปไม่ขอบคุณคนมาส่ง ไม่หันหลังกลับไปมองเขาเลยสักนิด

ธราเทพได้แต่ส่ายหัวเอือมระอา หัวใจอันร้อนระอุดั่งไฟต่อว่าเธอในใจไม่จบไม่สิ้น ผู้หญิงอะไรนิสัยร้ายไม่เบา มารยาทก็ไม่มี คนอุตส่าห์เสียเวลามาส่งถึงบ้านแท้ ๆ

หากใครจะรู้เล่าว่าแท้จริงหญิงสาวที่รีบวิ่งหน้าตั้งเข้าบ้านไปนั้นน้ำตาหลั่งรินมากเพียงใด

เธอไม่ได้รักเขาสักหน่อย แต่ทำไมทุกคราเมื่อทราบข่าวคราวเหล่านั้นกลับทำให้เธอหัวใจอ่อนแออยู่เรื่อยไป

นึกว่าจากกันวันนั้นแล้วธราเทพจะไม่ตามมาราวี ไฉนเช้าวันนี้ถึงมาโผล่ที่หน้าบ้านอีกล่ะ ลลิตาคร้านจะสู้รับขับสู้ คนวางมาดก้าวขาเข้าไปนั่งยังข้างในอย่างไร้ท่าทีสะทกสะท้าน

มองเด็กตากลมโตแล้วก็ขมวดคิ้ว เด็กชายที่นั่งพื้นเล่นกับรถโมเดลจ้องตกด้วยความสงสัยเช่นเดียวกัน

“เด็กคนนี้ครบปีหรือยัง”

“เพิ่งครบปีไม่กี่เดือนเองค่ะ”

“โตไวเสียจริง…มีทันใช้จริง ๆ”

“พี่เทพหมายถึงอะไรคะ” ยกแก้วน้ำไปวางตรงหน้าให้แขกที่ไม่รับเชิญ อีกฝ่ายยกขึ้นดื่มอึกใหญ่แล้ววางลงที่เดิม

สายตาคมกริบยังคงจ้องมองเด็กชายอธิป

“ทำไมถึงรับมีลูกขนาดนั้น แน่ใจแล้วเหรอว่าผู้ชายคนนี้ดีที่สุดถึงยอมปล่อยตัวมีลูกกับเขา”

คำถามมากมายในหัวของธราเทพยังไม่ถูกคลายสงสัย คนฟังยังคงปิดปากเงียบ เขาก็พูดขึ้นต่อว่า

“แล้วพ่อแม่ของอานนท์ล่ะ ยังไม่มีใครรู้เลยหรือเรื่องนี้”

“ยังค่ะ…เรายังไม่พร้อมจะบอกใคร”

“ต้องรอไปถึงเมื่อไหร่ล่ะ ต้องให้เด็กคนนี้โตไปด้วยคำถามหรือไง จะอยู่ด้วยกันหลบ ๆ ซ่อน ๆ ทำไม หรือมีอะไรที่ฉันยังไม่รู้ และมากไปกว่านั้น”

“เร็ว ๆ นี้แหละค่ะ พี่เทพไม่ต้องห่วงว่าตาจะปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ไปตลอด”

ธราเทพมาด้วยเรื่องเด็กที่เกิดมา จากนั้นก็กลับไป ลลิตากลับมานั่งคิดทบทวนอีกครั้ง จึงเล็งเห็นว่าเธอควรทำอะไรบางอย่าง

วันต่อมา

อานนท์แวะมาเล่นกับหลานชายเหมือนทุกวัน หากครานี้เห็นแม่ของเด็กชายมีหน้าตาที่หมองเศร้าก็อดเป็นห่วงไม่ได้

“เธอเป็นอะไรหรือเปล่า มีเรื่องกังวลเหรอ”

“อืม…” หญิงสาวขานรับในลำคอ แววตาวูบไหวเล็กน้อยเมื่อเอ่ย “พี่เทพกลับมาแล้ว คราวนี้เขาทวงถามฉันเรื่องลูก เขามากดดันให้ฉันพานายกับลูกไปบอกความจริงกับที่บ้าน”

“มันจะเป็นอย่างนั้นได้ไง ในเมื่อเธอกับฉันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด”

“นั่นแหละที่ฉันเป็นกังวล หากต้องไปบอกคุณพ่อคุณแม่ พี่เทพก็จะรับรู้เรื่องด้วย ฉันไม่อยากให้ทุกอย่างเป็นอย่างนั้น เขากำลังมีชีวิตที่ดี ฉันไม่อยากพรากความสุขของใครไป”

แค่รับรู้ว่าเขาจะแต่งงานใหม่เธอก็เจ็บเจียนตายอยู่แล้ว ไม่อยากนึกถึงวันนั้น หากธนาเทพทราบว่าเหตุการณ์ความผิดพลาดในอดีตทำให้เธอตั้งครรภ์ จนให้กำเนิดบุตรชายที่เขาไม่ต้องการ

“ทางออกแทบไม่มี” อานนท์กล่าว ลลิตาพยักหน้าเห็นด้วย

“หรือฉันควรหนี”

“เธอจะหนีไปไหน อยู่หรือไปยังไงเธอก็หนีความจริงไม่พ้นนะ”

“แต่ฉันยังไม่อยากให้เขารู้เรื่องในตอนนี้ ไม่ใช่เวลานี้”

“จะต้องรอเวลาไปอีกนานแค่ไหนล่ะ…”

“ขอให้น้องรักษ์โตกว่านี้”

อานนท์ได้แต่ส่ายหัว จนปัญญาหาทางออกช่วยเพื่อนสนิท ครั้งนี้คงช่วยอะไรไม่ได้ ยังไงความจริงก็คือความจริง สักวันธราเทพจะต้องล่วงรู้ความจริง

“ถ้าฉันโสดก็คงรับลูกเธอมาเลี้ยงดู ปล่อยให้คนเข้าใจผิดได้ว่าเราเป็นมากกว่าเพื่อน…แต่นี่ ฉันดันมีคนของฉัน”

อานนท์ไม่สามารถไปแสดงตนรับเป็นพ่อเด็กให้ได้ เพราะตนเพิ่งคบหากับแฟนสาวที่รู้จักกันผ่านญาติผู้ใหญ่แนะนำ เลยต้องให้เกียรติเจ้าหล่อน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel