คนที่ถูกทิ้ง
หนึ่งปีผ่านไป
นักธุรกิจหนุ่มที่ใช้ชีวิตทำงานอยู่ต่างประเทศจนไม่อยากกลับมาประเทศบ้านเกิดของตนอีกจำต้องกลับ เพราะคราวนี้มารดาเสียชีวิตด้วยอาการเจ็บไข้ป่วยออด ๆ แอด ๆ เรื้อรังมานาน
พิธีศพจัดขึ้นด้วยความเงียบในเขตบริเวณศาลาวัด ท่ามกลางโศกเศร้าของธรรมนพที่ไม่อาจทำใจยอมรับการจากไปของภรรยาอย่างนางอุสา
บุตรชายที่ว่าใจแกร่งและเย็นชายังหลั่งน้ำตา เสียใจไม่น้อยไปกว่าบิดา การจากไปที่เร็วกะทันหันทำให้ธราเทพไม่ทันตั้งตัวรับ เขาไม่รู้มาก่อนว่ามารดาป่วยหนักจนทรุด
เพิ่งเดินทางถึงประเทศไทยเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้เองก็รีบขับรถมาวัดที่จัดงานทันที เขากราบลามารดาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเดินออกไปคุยกับบิดาที่ปกปิดเรื่องแม่ต่อตน
“คุณพ่อไม่คิดจะบอกผมให้เร็วกว่านี้หน่อยเหรอครับ…อย่างน้อยก็ควรให้ผมได้ทำใจ แต่นี่ทุกอย่างมันเร็วเกินไป”
“ฉันไม่อยากให้แกกังวลเรื่องแม่ ไหนจะเรื่องง่ายอีก ฉันไม่คิดด้วยซ้ำแม่แกจะจากไป…ฮึก” แม้เป็นถึงผู้นำครอบครัว หากเรื่องการเสียชีวิตของผู้หญิงอันเป็นที่รักกลับทำให้ธรรมนพสะอึก มือหนายกลูบหน้า คาดไม่ถึงเช่นกันว่าโรคภัยจะพรากชีวิตอุสาไป
“คุณพ่ออยู่ได้ใช่ไหม อยู่ไหมหรือเปล่า”
“ต้องไหวสิ เรื่องแบบนี้มันควบคุมไม่ได้อยู่แล้ว”
“ผมจะกลับมาอยู่ไทย”
“อืม แกมาทำงานที่เครือในประเทศไทยดีกว่า ส่วนทางนั้นฉันจะบินไปดูเอง ยังไงก็ไม่มีอะไรให้ฉันห่วงอีกแล้ว” เดิมทีธรรมนพคิดว่าตนต้องด่วนไปก่อนภรรยาเสียอีก อะไรก็ไม่แน่นอนจริง ๆ
“ถ้าคุณพ่อไม่ไหวค่อยบอกผม ผมจะรับช่วงแทนเอง”
ยังไงก็เป็นหน้าที่บุตรชายคนเดียวของบ้านต้องแบกรับ
“ฉันมีอีกเรื่อง”
“อะไรครับ”
“มันถึงเวลาแล้วนะที่แกควรจะมีครอบครัว มีลูกเพื่อสืบทอด ยังไงแกก็อย่าได้ปฏิเสธว่ายังอยากใช้ชีวิตตัวคนเดียวแบบนี้ไปอีกเรื่อย ๆ เวลามันสั้นลงแล้ว ฉันหวังกีบใครไม่ได้ นอกจากแกที่เป็นลูกชายคนเดียวของฉัน…”
อายุเขาก็ปูนนี้ย่อมคิดจะสร้างครอบครัวเอาไว้บ้างแล้ว
“คุณพ่อคิดว่าน้องนันเป็นไงครับ มีความเห็นยังไงบ้าง”
“อนันญาเหรอ…” ธรรมนพครุ่นคิด “เหมาะสมดีนะ หนูนันขยันทำงาน แถมเป็นคนเก่ง แต่ถ้าจะเอาลูกสาวบ้านนี้ต้องใจหนักหน่อย ค่าสินสอดคงไม่ใช่น้อยเหมือนผู้หญิงคนอื่น”
“ถ้าคุ้มค่า ผมก็พร้อมจะทุ่มครับ”
“เรื่องนี้ฉันให้แกตัดสินใจ ฉันขอเพียงมีลูกมีหลานให้ทันใช้งานก็พอ”
“ครับ”
หนึ่งเดือนต่อมา
ทั้งสองบ้านตกลงกันแล้วว่างานแต่งงานของธราเทพ และอนันญาจะถูกจัดขึ้นภายในต้นปีหน้า ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียงแปดเดือน
ถือเป็นข่าวดีที่อนันรอบคอยมานานแสนนาน และไม่พลาดจะไปบอกข่าวกับใครอีกคน
“พี่ตาคะ” หล่อนเรียกพี่สาว ซึ่งกำลังปิ้งหมูเสียบไม้อยู่หน้าเตาถ่าน ใบหน้าชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อเพราะอากาศร้อนหันไปมองตามเสียง
ลลิตาชะงักไปเมื่อพบคนทั้งสองที่หายหน้าหายตาไปนาน
“มีอะไรหรือเปล่า จะซื้อหมูปิ้งเหรอ เอากี่ไม้ดีล่ะ”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ นันทานหมูปิ้งธรรมดา ๆ แบบนี้ไม้เป็น” ใบหน้าหวานหยดยังคงแย้มยิ้ม
“อะ อ้าว แล้วมีอะไรกับฉัน” ยกมือเปื้อนเลอะซอสหมักหมูเช็ดผ้ากันเปื้อน
“นันกับพี่เทพมีข่าวดีจะมาบอกพี่ตาค่ะ”
“…”
“อีกแปดเดือนข้างหน้า นันกับพี่เทพจะแต่งงานกันแล้วนะคะ พวกเรามีแพลนจะสร้างครอบครัวด้วยกัน หากแต่งงานแล้วก็จะปั๊มลูกทันที”
“ตะ แต่งงานเหรอ” แววตาไหววูบสบมองชายหนุ่มที่มากับอนันญาด้วย
“จริง ๆ ฉันก็ไม่ได้อยากเชิญตัวเสนียดอย่างเธอไปงานแต่งหรอก แต่ในเมื่อนันอยากให้เธอไป ฉันก็ไม่อยากขัดคนเป็นเจ้าสาวของงานนี้”
“พี่เทพตามใจนันเก่งมากเลยค่ะพี่ตา อะไร ๆ ก็แล้วแต่นันไปซะหมด นันโชคดีจริง ๆ ที่ได้สามีดี”
ลลิตาไม่มีคำพูดใดกล่าวออกไป เธอยิ้มให้คนทั้งสองทั้งที่หัวใจเจ็บเจียนตาย ข่าวดีสำหรับพวกเขา นั้นหารู้ไม่ว่าคือข่าวร้ายต่อเธอ
ธราเทพเป็นสามีที่ดีสำหรับอนันญาจนใครหลายคนรู้สึกอิจฉา แต่สำหรับลลิตา เขาคือผู้ชายที่ใจร้าย
ขายของจนค่ำถึงกลับมาถึงบ้าน คุณนายจิตตราอุ้มน้องรักษ์ออกมารับถึงหน้าบ้าน ทันทีที่ลลิตาเห็นลูกชายก็อุ้มมากอดแนบอก สะอื้นไห้จนนางทำตัวไม่ถูก
“เกิดอะไรขึ้นหนูตา เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงร้องไห้อย่างนั้น”
“ขะ เขาจะแต่งงานกันแล้วค่ะ” เธอผละห่างจากบุตรชาย เอ่ยเสียงสั่นตอบผู้ใหญ่
คุณนายจิตตราครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงนึกออก “พ่อของน้องรักษ์เหรอจะแต่งงาน”
“ค่ะ เขากำลังมีครอบครัวที่สมบูรณ์”
“มันน่านักนะ ลูกทางนี้ที่ทำให้เกิดมาไม่เคยมาดูดำดูดีสักครั้ง แต่จะแต่งงานใหม่ใช้ชีวิตมีความสุขกับคนใหม่ได้หน้าตาเฉย เคยรู้บ้างไหมว่าหนูตาเลี้ยงลูกทั้งขายของมันเหนื่อยแค่ไหน!”
“เขาเลือกแล้วค่ะ เขาไม่ได้รักตาตั้งแต่แรกหนิคะ เลยไม่มีเยื่อใย หรือความเห็นใจ ดีแล้วค่ะที่ตาไม่บอกเรื่องลูก ไม่อย่างนั้นคงไม่เป็นผลดีต่อตากับลูก”
“ถ้าหนูตาคิดว่าดีก็ดี อยู่ในที่ของเราดีกว่า หนูก็ทำใจให้ได้ รีบ ๆ ใจแข็งให้มากกว่านี้ อย่าเสียน้ำตาให้เขาบ่อยนัก ไม่มีเขาแต่หนูยังมีลูกที่น่ารักน่าชังเคียงข้างนะ”
“อึก ค่ะ” ก้อนน้ำลายเหนียวหนืดถูกกล้ำกลืนลงลำคออย่างลำบาก แม้ยากจะทำใจยอมรับเธอก็ไม่สามารถเปลี่ยนชะตากรรมได้
เพราะมีน้องรักษ์เป็นตัวแทนของเขานี่แหละ ทุกครั้งที่มองใบหน้าคล้ายคลึงกันนั้นก็อดไม่ได้ที่เธอจะสะเทือนใจ