บท
ตั้งค่า

คนอวดดี

“เธอพูดไม่รู้เรื่องเองนะ”

“พี่เทพ ปล่อยตาลงเดี๋ยวนี้”

“ไม่!” ธราเทพตอบเสียงเข้มขึ้น อุ้มร่างอรชรแนบอกก่อนขึ้นห้องนอนไป เธอดีดดิ้นขัดขืนสุดแรง หากแต่สู้เขาไม่ไหว ทันทีที่บานประตูห้องนอนปิดลงสันหลังบางเย็นวูบคล้ายว่ารู้ชะตา

ยังดีที่เด็กชายอธิปนอนอยู่อีกห้อง

“พี่เทพจะทำอะไรตา!”

เธอเบ้หน้าเจ็บเมื่อธนาเทพโยนเธอลงนอนเตียงใหญ่ ลุกขึ้นตั้งตัวได้จึงถอยร่นจนแผ่นหลังชิดผนักหัวเตียง

“อย่าทำเป็นไร้เดียงสาไปหน่อยเลย คนที่เคยคิดการใหญ่จะครอบครองฉันด้วยการวางยาอย่างกับในนิยายน้ำเน่าอย่างเธอน่ะเหรอจะไม่รู้”

“แต่ก่อนตาคงคิดเช่นนั้น แต่ตอนนี้คงไม่ใช่ค่ะ ตาไม่หน้ามืดตามัวรักคนใจทรามอย่างพี่เทพลงอีกแล้ว”

“…” เขายืนจ้องร่างจ้อยเขม็งราวกับจะฉีกเลือดฉีกเนื้อ

“ผู้ชายอย่างพี่เทพไม่มีอะไรดีเลยสักอย่างไม่น่าเอามาทำพันธุ์เลยด้วยซ้ำ!”

บัดนั้นนั่นเอง ธราเทพหมดความอดทนของจริง รีบถอดเสื้อผ้าบนตัวโยนทิ้งไปไว้ข้างมุมห้อง สืบเท้าไปประชิดร่างเล็กบนเตียงซึ่งเตรียมจะหลบหนี

“พี่เทพ หยุดนะ ไหนบอกว่าเกลียดตาหนักเกลียดตาหนา ทำไมต้องมายุ่งกับตาอีกล่ะ”

ท่อนแขนสองข้างถูกตรึงไว้เหนือศรีษะ ร่างหนาทาบทับลงมาแนบชิดร่างกายเธอ ก่อนชุดบนตัวจะถูกปลดเปลื้องทิ้งไปตาม ๆ กัน

ลลิตาน้ำตานองหน้า สายตาเคียดแค้นมองฟาดฟันกันโดยไม่มีใครยิมใคร ปากอวบสั่นระริกถูกประกบจูบในวินาทีต่อมา ถ้อยคำด่าทอเขาถูกกลืนหายลงลำคอ

ธราเทพบดเบียดความอุ่นร้อนซึ่งเริ่มตั้งผงาดเข้าหาดอกไม้งามไร้แพขน

มือของเขาข้างว่าง ๆ จับเรียวขายาวขยับออกกว้างเพื่อเปิดทางให้สะดวก

“อึก” เสียงหวานเริ่มสั่นไหว เขาผละปากห่างเมื่อจูบจนพอใจ

โน้มตัวลงมาดูดยอดประทุมถันสองข้างสลับไปมา ทำเอาเธอผวาเฮือก หมดเรี่ยวแรงเมื่อถูกเร้า

“เธอจำเอาไว้ให้ดี ผู้ชายที่เธอตราหน้าว่าไม่น่าเอามาทำพันธุ์นี่แหละที่ย่ำยีเธอเป็นคนแรก และจะเป็นแบบนี้ไปอีกนาน!”

“ฮึก ฮื่อออ!”

ประกาศกร้าวจบเอวสอบก็ตอกกระแทกใส่ร่องรักคับแคบ ความเจ็บโลดแล่นไปทั่วร่าง ลลิตาสั่นสะท้านแทบทนไม่ไหว เม็ดน้ำตาไหลพรากอาบแก้มงาม ศักดิ์ศรีถูกเหยียบย่ำด้วยฝีมือของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของลูก

คนใจทรามได้ตามความต้องการของตัวเองแล้วจึงลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดร่างกาย ในขณะอีกคนยังคงร่ำไห้ มือกำผ้าปูที่นอนแน่นด้วยความขุ่นเคืองใจ เธอผิดมองเขาครั้นจัดการภารกิจส่วนตัวเสร็จ

ธราเทพยักไหล่ไม่ยี่หระ กวาดเสื้อผ้าบนพื้นขึ้นมาสวมใส่ต่อหน้าต่อตาเธอ ก่อนเอ่ย

“ถ้าไม่อยากให้เกิดความผิดพลาดเป็นครั้งที่สองก็กินยาคุมป้องกันไว้ด้วยล่ะ”

“มันไม่ควรเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นด้วยซ้ำ” เธอกัดฟันพูด อยากจะวิ่งไปบีบคอฆ่าเขาให้ตายเสียตอนนี้ หากทำได้เพียงแค่คิด แรงที่จะลุกยืนยังไม่มี ธราเทพสูบแรงไปทั้งวันแบบไม่หยุดพัก

“เธอปากเก่งอวดดีใส่ฉันเอง จะโทษใครไม่ได้หรอก” มุมปากธราเทพยกขึ้นเยาะหยัน

ฉับพลันนั้นลลิตารีบปาดน้ำตาทิ้งอีกหน เพราะเด็กชายอธิปตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอใครในห้อง จึงเดินมาผลักประตูห้องข้าง ๆ กันเมื่อได้ยินเสียงแม่กำลังคุยกับคุณลุงตัวใหญ่เท่ายักษ์

“คุมแม่คับ ทำอาราย”

“มะ ไม่มีอะไรจ้ะ น้องรักษ์นอนเต็มอิ่มแล้วเหรอ”

“คับคุมแม่ น้องรักษ์หิว” ปากเล็กขมุบขมิบ มือป้อม ๆ ยกลูบหน้าท้องตัวเอง เด็กชายอธิปปีนขึ้นเตียงไปหาแม่

“เดี๋ยวแม่ไปทำกับข้าวให้กินนะ น้องรักษ์รอได้ไหม”

“ได้คับ”

เด็กชายรับปาก ลลิตาจึงดึงผ้าห่มขึ้นมาคุมตัวที่เปลือยเปล่า

ธราเทพก็ต่อว่า “รักษ์ไปกับพ่อดีกว่า พ่อจะพาลงไปรอแม่ข้างล่าง”

“คับ”

รักษ์บอกง่าย เชื่อฟังทำให้ยอมไปกับธราเทพแต่โดยดี เมื่อภายในห้องนอนหลงเหลือเพียงลลิตาจึงวาดขาลงจากเตียง หยิบชุดเสื้อผ้าของตัวเองที่ถูกธราเทพโยนทิ้งไปไกลมาใส่ให้เรียบร้อย ร่องรอยแดงบนเรือนร่างตอกย้ำว่าเขานั้นรุนแรงกับเธอมากเพียงไร

หยาดน้ำขาวขุ่นไหลออกมาจากง่ามขานั่นอีก ย้ำเตือนว่าความพลาดพลั้งเกิดขึ้นเธออีกครั้งจนได้

ลลิตาตั้งสติอยู่ตั้งนานก่อนเดินบันไดลงไปชั้นล่าง พยายามควบคุมไม่ให้ขาสั่นเพราะเหนื่อยจากบทรักจนไม่มีแรงก้าวต่อ

เธอเดินหายเข้าไปในครัวเพื่อทำอาหาร ธราเทพหลอกล่อให้ลูกชายวาดภาพระบายสีอยู่ที่โซฟากลางโถงห้อง ส่วนตนเองนั้นเข้ามาที่ห้องครัว

“จะทำอะไร”

“ทำข้าวต้มให้ลูกค้ะ”

“ไหวหรือไง…” เราเพิ่งจบกิจกรรมอันหนักหน่วงไป เขาเห็นท่าทีเธอไม่สู้ดีนักแต่ยังอวดเก่งจนน่าหมั่นไส้

“ถ้าตาไม่ทำใครจะทำข้าวให้ลูกกินละคะ”

ธราเทพกดอกยืนมองนิ่ง ๆ ดูสิคนอวดเก่งจะปากแข็งไปได้อีกถึงเมื่อไหร่

เพล้ง!

กระทั่งทำทัพพีในมือหล่นลงพื้น ร่างเกือบทรุดลงไป ยังดีที่ธราเทพคว้าตัวเอาไว้ทัน ไม่เช่นนั้นคงเจ็บตัวอีกครั้ง

“ไม่ไหวก็อย่าฝืน สั่งข้าวจากข้างนอกมาสะดวกกว่า”

ลลิตาทำราวกับรังเกียจ เธอตั้งตัวได้ก็รีบดันตัวห่าง

“ตารีบไปสั่งข้าวก่อนดีกว่า ลูกคงหิวแล้ว”

เธอพูดจบรีบเดินจากไป ทำทีเหมือนหลบหน้าเขา ธราเทพนั้นไม่พอใจ ตามเธอออกไป

วันต่อมา

หยุดขายของมาหลายอาทิตย์ คุณนายจิตราผู้มีบุญคุณต่อลลิตาจึงแวะมาหาถามไถ่อาการเด็กหลายที่รักดั่งลูกหลาน

“น้องรักษ์อาการดีขึ้นมากเชียว” ผู้ใหญ่พูด สายตากลับลอยมองชายหนุ่มผู้เป็นพ่อแท้ ๆ ของเด็กหลายอธิป

“ค่ะคุณนาย เดี๋ยวอีกไม่นานตาก็จะกลับไปขายของต่อแล้วแหละ หยุดนานเดี๋ยวลูกค้าหาย”

“ไม่หายหรอก ระดับหนูน่ะขายดิบขายดีตลอดนั่นแหละ ส่วนนี้คงเพราะความสวยช่วยด้วย ฉันได้ยินมานะคนเขาพูดกันว่าแม่ค้าร้านหมูปิ้งสวยแจ่ม…” คุณนายแซว

“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ” คนถูกชมทำตัวไม่ถูก นิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างถ่อมตัว ผิดกับชายหนุ่มนั่งข้าง ๆ หน้าบูดบึ้งขึ้นทันควัน

“มีลูกติดแล้วยังมีคนสนใจเธออยู่อีกเหรอ”

“ไม่เกี่ยวว่ามีหรือไม่มีหรอกค่ะคุณ หากคนเขาชอบจริง ๆ เขาไม่เก็บเรื่องผู้หญิงเคยผ่านใครมาบ้างมาคิดหรอก” คุณนายจิตตราอธิบาย แม้จะไม่ชอบคำพูดของธราเทพที่สื่อถึงคุณค่าของผู้หญิงเพียงความบริสุทธิ์ และเคยมีพันธะ

“…”

“อีกอย่าง หนูตาก็ยังไม่มีใคร คงไม่มีอะไรน่าเกลียดหากจะเปิดใจหาคนมาเลี้ยงลูกช่วย”

“คลอดลูกได้ไม่กี่ปี เธอจะหาผัวใหม่แล้วเหรอ ไม่คิดจะปล่อยให้มดลูกมันแห้งบ้างเลยหรือไง”

ใคร ๆ ต่างตกใจคำถามจากธราเทพ มันจี้ใจลลิตาเสียเหลือเกิน

“เวลาไม่ใช่ปัญหาสักหน่อยค่ะ จะช้าจะเร็วยังไงก็ได้”

“ฉันเห็นด้วยกับหนูตานะคะ อีกอย่างคุณสองคนก็ไม่ได้มีแผนว่าอนาคตจะกลับมารักหรือปลงใจอยู่ด้วยกัน เพียงแค่ตอนนี้อยู่เพื่อช่วยดูลูก ฉันว่าให้หนูตารีบหาพ่อ หาคนมาช่วยดูลูกก็ดี” คุณนายเสริม

คนฟังถึงกับกระแทกลมหายใจอย่างหนัก สีหน้าไม่พอใจจ้องหญิงวัยกลางคน

นางขนลุกซู่ วูบวาบด้วยความหวั่นใจ

“ผมไม่ยอมให้ใครมาเลี้ยงลูกผมหรอก!" 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel