นัดเจอคนสำคัญ
“ผมไม่ยอมให้ใครมาเลี้ยงลูกผมหรอก หากจะมีผัวใหม่ก็มีไป แต่อย่าริอ่านมายุ่งเกี่ยวกับรักษ์ ผมจะรับผิดชอบเด็กคนนี้เอง!”
“มันจะมากไปแล้วนะพี่เทพ!”
“ไม่มากไปหรอก ฉันพูดจริงทำจริง”
“เอาเถอะจ้ะ อย่ามีปากเสียงกันเลย” คุณนายรีบห้ามทัพ เฉไฉเปลี่ยนเรื่อง “น้องรักษ์มาหายายหน่อยเร็ว”
“คับคุมยาย” เด็กชายยิ้มร่าง เตรียมวิ่งด๋อง ๆ ไปกอดยาย หากถูกผู้เป็นพ่อดึงคอเสื้อเอาไว้ น้องรักษ์กันมองด้วยความไม่เข้าใจ
“รักษ์ขึ้นมานั่งโซฟากับพ่อนี่มา”
“พี่เทพอย่าทำแบบนี้” เขาจงใจหักหน้าคุณนาย จนลลิตาต้องรีบเตือน
ธราเทพกลับไม่ฟัง แถมยังพูดขึ้นอีกว่า “ต่อไปนี้อย่าให้ใครมาแตะต้องรักษ์ หรือเข้าถึงตัวรักษ์ได้ง่าย ๆ ฉันไม่ชอบ”
“พี่เทพไม่มีสิทธิ์พูดแบบนี้นะ คุณนายไม่ใช่คนอื่น เขาช่วยตามาโดยตลอด”
“ฉันมีสิทธิ์ ฉันเป็นพ่อของรักษ์ ถ้าเธอยังอยากอยู่กับลูก อย่าบังอาจขัดคำสั่งจากฉัน!”
“พี่เทพเผด็จการที่สุดเลย!”
แค่ทำให้เด็กคนหนึ่งเกิดมา แต่ไม่เคยเสนอหน้ามาดูดำดูดีในยามที่เธอลำบาก แพ้ตั้งครรภ์จนเทียวเข้าเทียวออกโรงพยาบาล อีกทั้งตอนคลอดน้องรักษ์ เธอก็คลอดอย่างโดดเดี่ยว ไร้เงาผู้เป็นสามีมาอยู่เคียงข้างให้กำลังใจ…ยังกล้าอ้างสิทธิ์นั้นอยู่อีกหรือ
วันนี้ธราเทพมีนัดประชุมใหญ่กับผู้บริหารในบริษัท หากได้ใจความสำคัญกลับมาซึ่งไม่ค่อยน่าพอใจนัก เนื่องจากยอดขายผลิตภัณฑ์ของทางโรงงานที่ผลิตไม่ทันตามเงลาที่คาดหวังเอาไว้ ตลอดระยะเวลาทำงานทั่งวันนั้นท่านประธานหัวเสียจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เหวี่ยงวีนใส่ลูกน้องจนหลายคนกลัวหัวหด พอถึงเวลาเลิกงานก็ต้องมานั่งกลุ่มหาทางออก หากผลิตภัณฑ์สุขภาพส่งถึงมือลูกค้าไม่ครบจำนวนที่เคยตกลงกันเอาไว้ บริษัทของเขาจะต้องเสียค่าเสียหายไปตั้งหลายสิบล้าน ธราเทพนั้นไม่ต้องการให่บริษัทของตระกูลเสียเงินแม้แต่บาทเดียว แต่เมื่องานไม่เป็นไปตามที่วางไว้ เขาคงต้องยอมรับข้อผิดพลาด
นั่งเครียดนึกหาทางออกที่จนหนทางยังไม่พอ เสียงเล่นของเล่น และวิ่งไปมารอบบ้านของเด็กชายอธิปก็ดังขึ้นไม่หยุด
อธิปมองหาแม่เด็กแล้วไม่พบ ได้ยินเสียงกะทะกับตะหลิวตีกันในครัว บ่งบอกว่าเธอยุ่งกับงานบ้านอยู่ ชายหนุ่มหันกลับมามองลูกชายอีกครั้ง แล้วพูด
“รักษ์ เล่นเงียบ ๆ หน่อย พ่อจะทำงาน”
“คับคุมพ่อ” อธิปพยักหน้ารับคำสั่ง เดินไปเล่นตุ๊กตาหมีขนปุยตำสีน้ำตาลเข้มเงียบ ๆ
จนเวลาล่วงเลยผ่านไปครึ่งชั่วโมง เสียงเด็กชายหัวเราะคิกคักก็ดังขึ้น พร้อมกับอุ้มตุ๊กตาหมีวิ่งเล่นรอบห้อง
ธราเทพละสายตาจากไอแพดในมือ วางมันไว้บนโต๊ะ ร่างสูงลุกจากโซฟา หมายมั่นเดินไปหาลูกชาย
“พ่อบอกว่ายังไง ฟังไม่รู้เรื่องเหรอ!” เขาไม่ตักเตือนเปล่า ๆ ยังแย่งตุ๊กตาในมือเด็กมา
“ฮึก แงงงง!”
อธิปยืนมองพ่อด้วยความหวั่นกลัว ดวงตากลมคู่นั้นสั่นไหว ก่อนจะร้องไห้ปล่อยโฮออกมาเมื่อพี่ตุ๊กก็มีถูกโยนทิ้งออกไปนอกประตูบ้านด้วยฝีมือพ่อ
“อย่าร้อง พ่อบอกแล้วไม่ฟังเองนะ” นอกจากธราเทพจะไม่โอ๋ยังชี้นิ้วสั่งอีก
เด็กชายตัวน้อยลงไปนั่งชักดิ้นชักงอที่พื้น เสียใจที่พ่อโดยนพี่หมี จนเสียงโวยวายนั้นดังไปถึงห้องครัว
ลลิตารีบปิดแก๊สแล้ววิ่งออกมาดู เห็นน้องรักษ์ร้องไห้จึงรีบอุ้มขึ้นมาปลอบแนบอก
สายตาเธอมองเขาอย่างตำหนิ ธราเทพจึงต้องเอ่ย “ฉันยังไม่ได้ทำอะไรนะ แค่เตือนให้เบาเสียงเพราะฉันต้องทำงานก็เท่านั้นเอง”
“เรามีเรื่องต้องคุยกันค่ะ”
จากนั้นลลิตาก็โอ๋ลูกชายจนเลิกงอแง ปล่อยให้ลูกเล่นอยู่ในห้องนอน ส่วนตัวเธอนั้นเข้าไปหาเขาที่อยู่อีกห้อง
“พี่เทพจะมีปัญหากับใครก็ได้นะคะ แต่ไม่ใช่กับลูก ขอร้องล่ะค่ะ อย่าทำแบบนี้ใส่น้องรักษ์”
จากที่น้องรักษ์เล่าให้เธอฟัง พอจับใจความได้ว่าธราเทพหนวกหูเสียงเด็ก เลยจัดการโยนตุ๊ดตาเจ้าปัญหานั้นทิ้ง สร้างความสะเทือนใจให้น้องรักษ์เป็นอย่างมาก เพราะตุ๊กตาตัวนั้นเป็นของหวงของลูกชาย
“ฉันทำฃานอยู่หนิ บอกดี ๆ ก็แล้วรักษ์ไม่เชื่อฟังฉัน เธอไม่ควรมาโทษฉันนะ ควรจะสั่งสอนรักษ์มากกว่าที่เอาแต่ใจ นิสัยเสีย!”
“พี่เทพ” เสียงหวานเอ่ยเรียกอีกคนอย่างเหนื่อยหน่ายใจ “น้องรักษ์ยังเด็กอยู่นะคะ อย่าถือสาเอาความเด็กเลย เดี๋ยวโตขึ้นเขาคงคิดอะไรได้เอง”
“เฮอะ” เขากลับแค่นหัวเราะเยาะ ไม่เขื่อหรอกว่าอธิปจะมีนิสัยที่ดีขึ้นได้โดยไม่ต้องอบรมสั่งสอน
“หรือถ้าพี่เทพอยู่ที่นี่แล้วคิดว่าเป็นปัญหากับการทำงาน พี่เทพควรกลับไปอยู่บ้านของตัวเองจะดีกว่านะ”
“นี่เธอไล่ฉันเหรอลลิตา!” เสียงทุ้มเข้มตวาดใส่
“มะ ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ” ลลิตาตอบด้วยความกลัวจนสุ้มีเสียงติดสั่น
“อย่าหาเรื่องมาว่าฉัน”
“จะออกไปไหนเหรอคะ” แม้ว่าตั้งใจจะต่างคนต่างอยู่ แต่ในเมื่อคนที่อาศัยร่วมบ้านแต่งตัวดูดีเดินลงมามาชั้นล่าง ลลิตาจึงอดที่จะออกปากถามไม่ได้
ขณะนี้เป็นเวลาเย็น คงไม่ได้ขยันไปทำงานอะไรหรอกนะ
“ไปทานข้าวกับน้องนัน”
คนได้ยินจึงนิ่งไป ลืมถามไปเลยว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังดำเนินไปต่อหรือไม่เมื่อเรื่องมันมาถึงตรงนี้
“ทานให้อร่อยนะคะ”
ความในใจถูกพับเก็บ ลลิตาข่มมันเอาไว้เพียงผู้เดียว
“เธอกับลูกกินข้าวเย็นกันเลย ฉันคบกลับดึกกว่าจะถึงบ้าน”
“ได้ค่ะ” และเธอคงไม่รอกินข้าวพร้อมเขาหรอก เอาอะไรมาคิดว่าจะรอ
มองแผ่นหลังกว้างเดินหายจากไปไกล เด็กชายอธิปที่นอนหนุนตักแม่ดูดขวดนมก็เงยหน้าขึ้นถาม
“คุมแม่คับ คุมพ่อปายไหน”
“พ่อมีธุระน่ะลูก เราไปทานข้าวกันดีกว่า จะได้เข้านอนเลย”
“คับ”